เคล็ดลับใช้ชีวิตช่วงล็อกดาวน์กับ 'มหาธีร์ โมฮัมหมัด'

เคล็ดลับใช้ชีวิตช่วงล็อกดาวน์กับ 'มหาธีร์ โมฮัมหมัด'

อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเผยเคล็ดลับผ่านพ้นช่วงเวลาล็อกดาวน์ ที่มาเลเซียต้องต่อสู้กับโรคโควิด-19

มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 94 ปี เคยเป็นผู้นำอาวุโสที่สุดในโลกจนกระทั่งลาออกไปเมื่อไม่นานมานี้ ว่ากันว่ากลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แล้วนักการเมืองอาวุโสรายนี้มีเคล็ดลับอะไรช่วยให้ร่างกายยังฟิตแอนด์เฟิร์มและผ่านพ้นช่วงเวลาที่แสนอึดอัดในช่วงที่มาเลเซียล็อกดาวน์หนีโควิด

คุณชอบทำอะไรมากที่สุดในช่วงที่ต้องล็อกดาวน์ ทำไมถึงชอบ

ผมก็เดินสายพานแล้วก็ขี่จักรยาน สลับกัน วันนึงเดิน วันนึงปั่น ผมชอบพบปะผู้คนถ้าเขาอยากมาหา ผม ก็บอกให้พวกเขาปฏิบัติตามกฎ สวมหน้ากาก ล้างมือ แล้วก็อยู่ห่างๆ ผม

ทั้งนี้ ทางการมาเลเซียสั่งล็อกดาวน์เข้มเมื่อกลางเดือน มี.ค. แต่การระบาดในประเทศค่อนข้างน้อย ผู้ติดเชื้อราว 7,000 คน เสียชีวิต 100 คน เพิ่งผ่อนคลายข้อกำหนดเมื่อต้นเดือน พ.ค. ระหว่างที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม ผู้คนต้องติดต่อกันผ่านออนไลน์ แพลตฟอร์ม “ซูม” ได้รับความนิยมมาก มหาธีร์ก็ใช้แพลตฟอร์มนี้ติดต่อกับคนอื่นๆ เหมือนกัน แต่ยอมรับว่า

“ผมไม่ใช่คนเชี่ยวชาญเทคโนโลยี ไม่เข้าใจว่าเขาใช้ของพวกนี้กันยังไง ผมหน่อมแน้มมากเลย แต่ลูกๆ หลานๆ ผมสิ เชี่ยวมาก มีปัญหาอะไรผมก็ถามพวกเขา”  กระนั้น อดีตนายกฯ ไม่วายเตือนถึงอันตรายของเทคโนโลยีหากใช้ไปในทางที่ผิด

“มีดเป็นอาวุธ คุณใช้มีดแกะสลักสิ่งสวยงาม แต่ก็ใช้ฆ่าคนได้ด้วย”

วิกฤติครั้งนี้ให้บทเรียนสำคัญอะไรกับคุณบ้าง

“เราควรพร้อมรับมือไวรัสให้มากกว่านี้ เราต้องเรียนรู้วิธีรับมือกับสิ่งนี้ ไม่ใช่แค่พยายามผลิตวัคซีน แต่รวมถึงสิ่งที่ต้องลงมือทำ เช่น การล็อกดาวน์ โรคระบาดต้องกินเวลาไปอีกนาน ต่อให้ได้วัคซีนตอนนี้ก็ต้องใช้เวลาทดสอบอีกราว 6 เดือน และแม้ได้วัคซีนพร้อมแล้วการผลิตให้ได้มากเพียงพอก็ต้องใช้เวลาอีกเหมือนกัน” มหาธีร์กล่าวอย่างเข้าใจดีเพราะก่อนมาเล่นการเมืองเขาเคยเป็นแพทย์มาก่อน 

นอกจากนี้อดีตนายกมาเลเซียยังเตือนประเทศทั้งหลายหยุดใช้เงินหลายล้านล้านดอลลาร์ไปกับการพัฒนาอาวุธ

“ถ้าเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ใช้ไปกับการวิจัยและการแพทย์ โลกนี้จะปลอดภัยยิ่งขึ้น”

ไวรัสเปลี่ยนแปลงคุณหรือโลกรอบตัวคุณอย่างไร 

คำถามนี้นับว่าถามได้ตรงจุด มหาธีร์ได้ชื่อว่าวิพากษ์วิจารณ์ชาติตะวันตกมาตลอดอาชีพนักการเมือง เขาบอกว่า โรคระบาดใหญ่นี้ทำให้ชาติพัฒนาแล้วตกต่ำลง

“ก็มีอีโก้หน่อยๆ ผยองนิดๆ ว่าเราพัฒนาแล้ว เราไม่มีทางเสียหายเหมือนพวกประเทศยากจน ที่มาตรฐานสุขภาพแย่มากๆ แต่ตอนนี้ประเทศยากจนกลับทำได้ดีกว่าประเทศร่ำรวย พวกเขาคิดว่าโรคจะส่งผลต่อประเทศด้อยพัฒนา แต่เอาเข้าจริงโรคระบาดกลับมีศูนย์กลางอยู่แถวประเทศพัฒนาแล้วนั่นล่ะ”

มาเลเซียได้รับผลกระทบจากไวรัสอย่างไร

รัฐบาลมหาธีร์ล่มลงจากเขาประกาศลาออกในเดือน ก.พ. เขามองว่ามาเลเซียต้องเจอช่วงเวลาอันหนักหน่วงรออยู่ข้างหน้าเพราะมีหนี้ก้อนโตอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนไวรัสระบาด

“แม้แต่ตอนที่เรากำลังรับมือโรคระบาด เราก็ยังต้องใช้หนี้ เราหนีหนี้ไม่พ้น ยืมมาตั้งหลายพันล้านดอลลาร์ เรามีเงินน้อยแต่ตอนนี้จำเป็นต้องจ่ายมาก เพื่อช่วยคนที่มีปัญหา คนที่ไม่มีรายได้แม้แต่เซ็นต์เดียว”