'แบ็กทูสคูล' ความทุกข์ของ 'นักเรียน' ยุคโควิด

'แบ็กทูสคูล' ความทุกข์ของ 'นักเรียน' ยุคโควิด

นอกจากโควิด-19 จะทำลายชีวิตคนทั่วโลกจำนวนมหาศาล เศรษฐกิจเสียหายยับเยิน ยังทำลายสายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วย เช่น วิถีการเรียนของนักเรียนทั่วโลกที่กำลังเปลี่ยนไป แม้เริ่มกลับไปเรียนที่โรงเรียน แต่รูปแบบนั้นไม่เหมือนเดิม เพราะต้องรักษาระยะห่างทางสังคม

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในหลายประเทศยังไม่ลดลงเหลือ 0 แต่ก็มีการเปิดเทอมกันบ้างแล้ว เพราะการปิดทุกสิ่งทุกอย่างตลอดไปคงทำไม่ได้ เด็กๆ จะต้องได้เรียนหนังสือ แล้วหน้าตาของห้องเรียนในยุคโควิดระบาดจะเป็นอย่างไร คงพอจะดูตัวอย่างได้จากจีนและเดนมาร์กที่เปิดเรียนมาแล้วหลายสัปดาห์

เริ่มต้นจากระเบียบการสวมหน้ากากอนามัย ภาพที่เห็นเจนตาในโรงเรียนจีนขณะนี้ ตั้งแต่ในมณฑลหูเป่ย์ ไปจนถึงฉงชิ่งและกวางตุ้งคือ นักเรียนและครูต้องสวมหน้ากากอนามัย ยกเว้นให้แค่ตอนเรียนพละและรับประทานอาหารเที่ยงเท่านั้น 

ที่ฝรั่งเศส นักเรียนอายุตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไปต้องสวมหน้ากาก ในเมืองอย่างลากรองด์ครัวซ์และวาลเดอรอย นักเรียนประถมสวมหมวกป้องกัน ในเยอรมนีที่เปิดโรงเรียนตั้งแต่เดือนก่อน ข้อกำหนดสวมหน้ากากแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ เช่น บาวาเรียกำหนดให้ทุกคนที่อายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไปต้องสวม

การเว้นระยะห่างทางสังคมต้องทำทั้งในร่มและกลางแจ้ง ในห้องเรียนและสนามเด็กเล่นที่แออัด จะรักษาระยะห่างได้ ก็ต้องใช้การจัดตารางเรียนสลับกัน เพื่อให้ห้องเรียนและสถานที่ในโรงเรียนมีที่ว่างมากพอ ที่นิวเซาท์เวลส์ รัฐใหญ่สุดของออสเตรเลีย เพิ่งเปิดเรียนเมื่อวันจันทร์ (18 พ.ค.) ที่ผ่านมา นักเรียนไปเรียนสัปดาห์ละ 1 วัน ที่เหลือเรียนที่บ้าน

อีกทางเลือกหนึ่งคือย้ายห้องเรียนไปเรียนกลางแจ้ง เช่น เดนมาร์ก ที่เริ่มเปิดเรียนอีกครั้งเมื่อกลางเดือน เม.ย. โดยเรียนกันนอกห้อง เช่น จัดห้องเรียนในสวน ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

บางโรงเรียนใช้วิธีอื่นมาช่วยรักษาระยะห่างทางสังคม เช่น ไต้หวันใช้ฉากพลาสติกกั้นระหว่างที่นักเรียนรับประทานอาหารกลางวัน โรงเรียนในเมืองตูกวงของฝรั่งเศส นำชอล์กมาขีดวงล้อมกรอบเด็กขณะเล่นในสนาม

ส่วนการตรวจหาเชื้อและคัดกรองโรค องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) แนะนำให้วัดอุณหภูมินักเรียนทุกวัน

ในเซี่ยงไฮ้ ติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อนที่หน้าประตูโรงเรียน โรงเรียนวิลโลว์ครีค ในชนบทรัฐมอนแทนา โรงเรียนแรกๆ ที่เปิดเรียนของสหรัฐ มีการวัดอุณหภูมินักเรียนที่หน้าประตู

การตรวจวินิจฉัยโควิด-19 ก็เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่นำมาใช้ ที่อู่ฮั่นทำกันทั่วไปหมด นักเรียนยืนเข้าแถวรอให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า โรงเรียนแห่งหนึ่งในนอยชเตรลิทซ์ ทางตอนเหนือของเยอรมนี ให้นักเรียนตรวจร่างกายตนเองสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ถ้าได้ผลเป็นบวกก็อยู่บ้าน 14 วัน ถ้าได้ผลเป็นลบก็ติดสติกเกอร์สีเขียว

จากกฎกติกาที่ว่ามาแล้วนักเรียนรู้สึกอย่างไรกันบ้าง นักเรียนประถมในโรงเรียนแห่งหนึ่งของเดนมาร์ก เผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า ลำบากใจที่ไม่ได้กอดเพื่อนๆ เพราะต้องรักษาระยะห่างทางสังคม เวลาออกไปเล่นก็วิ่งไล่จับกันไม่ได้ คุณครูยอมรับว่า การไม่ได้กอดเพื่อนทำให้เด็กๆ ไม่มีความสุข ครูจึงมีหน้าที่ปลอบประโลม ให้กำลังใจ และแนะนำนักเรียนในการปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่ 

ปัญหาการไม่ได้กอดเพื่อนไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ แต่สะท้อนให้เห็นว่านอกจากโควิด-19 จะทำลายชีวิตคนทั่วโลกจำนวนมหาศาล เศรษฐกิจเสียหายยับเยิน ไวรัสร้ายยังทำลายสายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ โดยเฉพาะความไว้วางใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่บ่มเพาะตั้งแต่วัยเด็ก อันเป็นรากฐานไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีในวัยผู้ใหญ่ หากไม่รีบควบคุมให้ทันท่วงที โควิด-19 คงทำลายจุดแข็งนั่นคือสายใยระหว่างมนุษย์ด้วยกันให้พังลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้