'ประยุทธ์' เบรกศึกชิง พปชร. 'ชวน' กรีดพวกว่างมาก ขอเปิดสภาฯ ชำแหละ พ.ร.ก.กู้เงิน

'ประยุทธ์' เบรกศึกชิง พปชร. 'ชวน' กรีดพวกว่างมาก ขอเปิดสภาฯ ชำแหละ พ.ร.ก.กู้เงิน

"พล.อ.ประยุทธ์" เบรกศึกชิงอำนาจในพรรคพลังประชารัฐ "สนธิรัตน์" ทอดสะพานขอเคลียร์ "สุชาติ-20ส.ส." ด้าน "ชวน" กรีดพวกว่างมาก ขอเปิดสภาฯ ชำแหละ พ.ร.ก.กู้เงิน

ความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังจากมีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคด้วยตัวเอง โดยมีความพยายามกดดันให้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพรรค ลาออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตามนายอุตตม ยืนยันจะไม่ลาออก และพร้อมทำงานต่อไป

วานนี้ (28 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีปัญหาความขัดแย้งในพรรค พปชร. โดยกล่าวเพียงว่า ในส่วนการเมืองขออนุญาตไม่ตอบในช่วงนี้ เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ช่วงนี้เป็นเรื่องการทำงานของเรามากกว่าที่จะดูแลฟื้นฟู และจะคืนความสุขอะไรประชาชนได้บ้าง ตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ ที่ถามมาหลายเรื่อง เป็นเรื่องการเมือง ตนขอไม่ตอบดีกว่า

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้วยว่า วันนี้เรื่องหลักๆ เป็นเรื่องของการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องการผ่อนปรน เรื่องอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์ หรือสร้างความบิดเบือน ความไม่เข้าใจ คิดว่าอย่าพูดกันเลยดีกว่า ในช่วงนี้ต้องขอร้องไปยังประชาชนทุกภาคส่วน มันต้องมีคนเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่ถ้าเราช่วยกัน มองเห็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาประชาชน

“ธรรมนัส”ดอดถก“สมคิด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม ครม.วานนี้(28เม.ย.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำคนสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้าพบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุม ครม. และเดินทางกลับออกไปในเวลา 09.05 .โดยไม่ตอบคำถามใดๆ ซึ่งคาดว่าเป็นการมาพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งภายใน พปชร.

“สนธิรัตน์”พร้อมเคลียร์"20ส.ส.”

ทางด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซต์ไทยแลนด์ ถึงปัญหาในพรรคว่า เรื่องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงนี้ เพราะโลกหลังสถานการณ์โควิด-19 จะยากมากๆ ตนมองการแก้ไขโควิด-19 เป็นตัวตั้งมากกว่า

ตนเองต้องแยกแยะเรื่องการเมือง เพราะในพรรคทุกพรรคจะมีกลุ่มต่างๆ และย่อมจะมีการเคลื่อนไหวอย่างปกติ อย่าไปติดใจอะไรมาก

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า กรณีที่มีข้อความจากกลุ่มไลน์หลุดออก ระบุว่าหากหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ไม่ช่วย เราจะต้องช่วยกันเอง จะมีการเคลียร์กันอย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า “เราต้องให้อภัยกันได้ ในฐานะเลขาฯพรรค ต้องพร้อมรับแรงกดดัน เราทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้ เราจึงพร้อมรับฟัง ว่าอะไรที่ต้องปรับแก้กัน เราอยู่ในคนหมู่มาก อย่าใช้อารมณ์กัน ถ้าเราไม่ใช่อารมณ์ เราใช้เหตุผล ทุกปัญหาก็แก้ได้”

เมื่อถามต่อว่า เคยปิดห้องเคลียร์ใจกับนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบรี ประธาน ส.ส.พรรค พปชร. ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 20 ส.ส.หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า “เคยหลายครั้ง ก็พูดคุยกันดี มีปัญหากันนิดหน่อย ก็พูดคุยกัน ผมเป็นคนฟังอยู่แล้ว ถ้าบอกว่าอะไรไม่ดี ผมยินดีปรับ และผมแก้ให้เสมอ”

ประธานส.ส.ปัดก่อหวอดกดดัน

ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ประธาน ส.ส.พรรคพปชร. ชี้แจงในวันเดียวกันว่า ส.ส.ในพรรคไม่เคยมีการพูดคุยกัน ส่วนการเปลี่ยนแปลงอะไรเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคพิจารณา ไม่สามารถพูดคุยกัน 1-2 คน แล้วจบ เวลานี้เป้าหมายของ ส.ส.พรรค พปชร.คือ การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อช่วยรัฐบาล ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่น

ส่วนกระแสข่าวการต่อรองโควตารัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง การจะปรับหรือไม่ปรับอย่างไร ทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ท่านรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ใครบริหารเหตุการณ์ได้ ทำงานได้อย่างไร

สำหรับแชทไลน์กลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง 20 คน ที่หลุดออกมา สะท้อนปัญหาการทำงานของหัวหน้าและเลขาฯนั้น นายสุชาติ ยอมรับว่าเป็นไลน์ที่พูดคุยกันจริง ที่สะท้อนปัญหาและความอึดอัดของ ส.ส.ในพื้นที่ภาคกลาง แต่ยืนยันไม่ใช่เป็นการก่อหวอดปลดหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ซึ่งตนเห็นว่าหัวหน้ากับเลขาฯ นั้น เปรียบเป็นพ่อกับแม่ ลูกๆ มีร้อยกว่าคน มันก็ต้องมีลูกที่มีความอึดอัด น้อยใจ เป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะเป็นครอบครัวใหญ่

“ส.ส.บางคนที่เคยอยู่พรรคอื่นมาก่อน เมื่อเจอวิกฤตของประเทศ ก็ต้องรับนโยบายจากผู้นำพรรค ว่าจะไปช่วยอย่างไร แต่เวลานี้เหมือนลงสนามแบบไม่มีโค้ช ก็มั่วกันไปหมด ในฐานะประธานกลุ่มภาคกลาง ก็ไปพูดคุยให้เบาลง ไม่มีอะไรที่เป็นนัยการเมือง ไม่อยากให้มองเป็นความขัดแย้ง เหมือนเราเป็นครอบครัวใหญ่ ลูกร้อยกว่าคน จะถูกใจร้อยกว่าคนไหม เป็นไปไม่ได้ ส่วนคำที่สื่อสารในไลน์ว่า ไม่เอาหัวหน้า เลขาฯ นั้น หมายถึงไม่อยากคุยด้วย เพราะกำลังแก้ปัญหาโควิดกันอยู่”

“ชวน” กรีดว่างมากวิจารณ์ไม่เปิดสภา

ขณะเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้เเทนราษฎร กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่ขอให้พิจารณาเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ โดยได้ยื่นเสนอต่อนายกรัฐมนตรี และระบุว่าจะยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ด้วยนั้น ว่า ตนยังไม่ได้รับการติดต่อโดยตรงจากฝ่ายใด ทราบเเต่เพียงข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อ เเต่สภาฯเตรียมพร้อมตลอดเวลา อาทิ เรื่องการจัดสถานที่ ที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่นานมานี้ได้เชิญผู้รับผิดชอบเรื่องสถานที่ มาหารือ

โดยเตรียมนัดตัวเเทนรัฐบาล ฝ่ายค้าน และพรรคการเมืองมาร่วมประชุม และไปดูสถานที่จริงว่า มีอะไรเรื่องสถานที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งนี้ตนยืนยันว่า การเปิดประชุมต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คือ 1. รัฐบาลเป็นผู้กราบบังคมทูลให้เปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ 2.ส.ส. หรือ ส.ส.และ ส.ว.เข้าชื่อให้ได้ 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิก เพื่อขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ

ส่วนกรณีมีการท้วงติงพาดพิงประธานสภาฯ เพิกเฉยต่อการเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญนั้น นายชวน ระบุว่า ไปห้ามคนพวกนี้ไม่ได้ เวลามันว่างมาก มีเรื่องจะบ่น เพราะไม่ได้ทำอะไร ก็มานั่งวิจารณ์คนอื่น แต่ในเเง่คนทำงาน ก็ไม่มีโอกาสได้หยุด ถึงจะปิดสมัยประชุม หน้าที่ก็ต้องมาทำทุกวัน

เล็งขอยกเว้นส.ส.เดินทางช่วงเคอร์ฟิว

นายชวน กล่าวต่อว่า หากมีการประชุมสภาฯ สมัยสามัญ ตามปกติ ในวันที่ 27-28 พ.ค.นี้ ซึ่งอยู่ในระหว่างการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ตนได้หารือกับนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ในฐานะผู้รับผิดชอบการพิจารณากฎหมายของสภาฯ ซึ่งคาดว่า การพิจารณาพ.ร.ก.เกี่ยวกับการกู้เงิน จะมีส.ส.ใช้สิทธิอภิปรายจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องใช้เวลาอภิปรายนานพอสมควร

“อาจมีความเป็นไปได้ที่จะขอให้ ส.ส.ได้รับการยกเว้น โดยสามารถเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้ เหมือนกับที่รัฐบาลได้กำหนดข้อยกเว้นให้บุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.ก.สามารถเดินทางได้ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ทั้งหมดคงต้องรอดูการประกาศของรัฐบาลอีกครั้งว่า เมื่อใกล้ถึงช่วงเวลาการประชุมสภาฯสมัยสามัญจะมีการประกาศผ่อนปรนเงื่อนไขหรือไม่ ต่อไป”

“ฝ่ายค้าน”โอดไม่เปิดสภาถกกู้เงิน

นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาล มีมติไม่ให้เปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกผิดหวัง เพราะมติวิปรัฐบาลเป็นเรื่องที่คาดไม่ผิดมาแล้วตั้งแต่ต้น โดยคิดตั้งแต่แรกแล้วว่ารัฐบาลจะต้องหนีสภาฯ และนายกฯหนีการประชุมตลอด ส.ส.รัฐบาลเองก็เช่นกันชิงปิดประชุมบ้าง

“เสียดายโอกาสของประชาชนที่จะได้สะท้อนความทุกข์ยาก เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา ตลอดทั้งตรวจสอบการทำงานในวาระพิเศษนี้ ทุกคนควรตระหนักว่าขณะนี้เราอยู่สถานการณ์พิเศษ ปัญหาที่คุกคามเราใหญ่โต รุนแรง เกินกว่าที่คนใดคนหนึ่ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะรับมือได้ ต้องระดมความคิด ระดมกำลังกัน”