พบยาต้าน COVID-19

พบยาต้าน COVID-19

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวลงกว่า 35 แม้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศจะมีแนวโน้มดีขึ้น หลังยอดผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นในระดับที่ลดลง

อย่างไรก็ดี ดัชนีถูกกดดันจากกลุ่ม ENERG หลังจากราคาน้ำมันร่วงแตะระดับต่ำสุดใหม่ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,200.15 จุด (-35.95 จุด) Volume 5.9 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,255.19 ลบ. TFEX Net -846 สัญญา ตราสารหนี้ -1,573 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+เช้านี้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวกกว่า 800 จุด ขานรับข่าวผลทดสอบยาต้านไวรัสของ "Gilead Sciences" มีประสิทธิภาพในการรักษาโควิด-19 และปธน.ทรัมป์เผยแผนเปิดเศรษฐกิจบางส่วนในรัฐที่ยอดติดเชื้อโควิด-19 ชะลอตัว

+ที่ประชุมคกก.นโยบายการเงินการคลังของรัฐมีมติปรับสัดส่วนกรอบวินัยการเงินการคลังและโอนงบทำให้มีงบกลางมีวงเงินเพิ่ม 80,000-100,000 ล้านบาทรับมือแก้สถานการณ์โควิด-19

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดทรงตัวที่ 19.87 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากกังวลสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

-สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานพุ่งกว่า 5 ล้านรายจากพิษโควิด-19

-เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีภาวะธุรกิจมิด-แอตแลนติกต่ำสุด 40 ปีจากพิษโควิด

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเพิ่มขึ้น 8.77 จุด +0.31% เช้านี้เปิดบวก 15.62 จุด

+ดัชนีนิกเกอิเช้าเปิดพุ่ง 285.65 จุด ขานรับความหวังเศรษฐกิจสหรัฐฟื้น

+ทองคำปรับตัวลงสวนทางกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังพบยารักษา COVID-19

-ญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศจนถึง 6 พ.ค.จากก่อนหน้านี้ประกาศภาวะฉุกเฉินในโตเกียว โอซากา และอีก 5 จังหวัด

-ม.หอการค้าฯ ปรับคาดการณ์ GDP ไทยปี 63 เป็นติดลบ -4.9% ถึง -3.4% จากเดิมคาดโต +1.1%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.42 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.65 บาท/US

*จับตากสทช.หารือโอเปอเรเตอร์ 5 รายลดค่าบริการมือถือ สหรัฐเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค. ส่วนจีนเผย GDP ไตรมาส 1/2563

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดภูมิภาค หลังมีรายงานว่าผลทดสอบยาต้านไวรัส Remdesivir ของบริษัท Gilead Sciences ของสหรัฐ มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ประกอบกับการแรงหนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยแนวทางที่จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดก่อนหน้านี้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200-1,235 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

กสทช. เปิดเผยหลังได้หารือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5 รายว่า ได้ข้อตกลงร่วมกันแล้ว แต่ผู้ประกอบการต้องการนำข้อสรุปในที่ประชุมเสนอ ต่อผู้บริหารเพื่อให้ความเห็นชอบ ทำให้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลจะไม่ตรงกัน ดังนั้นในวันนี้ ( 17 เมษายน 2563) จะมีแถลงข่าวร่วมกับผู้ประกอบการ เกี่ยวกับมาตรการช่วย เหลือประชาชนด้านโทร คมนาคม (ที่มา ไทยโพสต์)

ความเห็น ในกรณีที่ดีที่สุด หากมีการปรับลดค่าบริการเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตลงทุกแพ็คแก็จราว 5% เป็นระยะเวลา 3 เดือน  ตามที่ตลาดคาด จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของผู้ให้บริการเพียงเล็กน้อย เนื่องจากก่อนหน้านี้กสทช. ได้วางเงินงบประมาณราว 3พันล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนตามนโยบาย Work From Home โดยจะจ่ายให้ค่ายมือถือ 100 บาทต่อสิทธิ์ และค่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 50 บาทต่อสิทธิ์ ซึ่งบรรเทาผลกระทบดังกล่าวได้

เรามองว่า ADVANC (Bloomberg Consensus 238.55 บาท)   จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเนื่องจากมีฐานกำไรแข็งแกร่ง และมีคลื่นในมือมากที่สุด รองลงมาเป็น DTAC (Bloomberg Consensus 46.92 บาท)   และ TRUE (Bloomberg Consensus 3.90 บาท)   ตามลำดับ อย่างไรก็ตามกสทช. ไม่ได้มีอำนาจในการสั่งให้เอกชนลดค่าบริการลงได้ แต่เป็นการขอความร่วมมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการจากสถานการณ์โควิด-19 เท่านั้น  แต่ทาง กสทช. ประเมินว่าท้ายที่สุดเอกชนจะให้ความร่วมมือเป็นการลดบางแพ็คเกจ

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Lockdown (MAKRO BJC CPALL TU TFMAMA)
  • หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
  • 5 หุ้นเด่น IAA (ADVANC CPF CPALL INTUCH RATCH)

หุ้นมีข่าว   

·         (+) THAI (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 4 บาท) ดร.สมคิด เป็นประธานการประชุมแผนฟื้นฟูบมจ.การบินไทย (THAI) ร่วมกับนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมหารือว่า เนื่องจากการบินไทยประสบปัญหาการดำเนินงานมาตลอด และเมื่อเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยิ่งสร้างผลกระทบ จึงได้จัดตั้งคณะทำงาน เพื่อดูแนวทางเร่งด่วนในช่วงเวลา 3-6 เดือนข้างหน้าเพื่อให้การบินไทยสามารถแข่งขันได้ และยังคงเป็นสายการบินแห่งชาติต่อไป ผู้บริหารคาดจะสรุปแผนฟื้นฟูการบินไทยเสนอรมว.คมนาคม พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·         (+/-) JAS (Bloomberg Consensus 4.75 บาท)  วันนี้เทรดกันเดือด! แรงสุดซิลลิ่ง 5.65 บาท แย่สุดฟลอร์ 4.18 บาท ทิ้งทวนรับปันผล 1.48 บาท วัดใจ ถือรับปันผล-เทขายทำกำไร” จับตาราคาหุ้นวันขึ้น XD วันแรก กรณีดีสุดไปถึง 4.80 บาท เลวร้ายสุดรูดถึง 2.30 บาท ส่วนแผนผนึกพันธมิตร DTAC ไปได้สวยร่วมแพ็จเกจซิมเน็ตแรงทั้งในและนอกบ้าน (ที่มาข่าวหุ้น)

·         (+) THCOM (Bloomberg Consensus 3.83 บาท) แย้มอยู่ระหว่างเจรจากับ CAT หวังร่วมทำงาน หลัง CAT ซุ่มเจรจาหาพันธมิตรร่วมบริหารจัดการดาวเทียมหลังหมดสัมปทานปี 64 แต่รอดูความชัดเจนจากภาครัฐก่อน คาดกระทรวงดิจิทัลฯชงครม.ภายใน 2 สัปดาห์นี้ ฟากราคาหุ้น THCOM บวกติดต่อ 10 วัน เพิ่มขึ้นกว่า 50.86% (ที่มาข่าวหุ้น)

·         (+/-) LH (Bloomberg Consensus 9.90 บาท)  ประกันสังคม” เผยซื้อหุ้น LH ล่าสุด (2 เม.ย.) 8 ล้านหุ้น เป็นไปตามราคากระดาน 6.6051 บาทต่อหุ้น ส่วนที่ระบุ 10.16 บาท นั่นคือราคาซื้อเมื่อ 7 ม.ค. 63 แต่เหตุที่ต้องแนบราคาดังกล่าวมาด้วยเพราะตามระเบียบ ก.ล.ต. จะต้องแจ้งการซื้อหุ้นตัวนั้นๆ ที่ราคาสูงสุดในช่วง 90 วันย้อนหลังด้วย เผยพอร์ตลงทุนตลาดหุ้นของประกันสังคมได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 12.73%  (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (-) BANPU (Bloomberg Consensus 9.16 บาท)  ปรับลดมูลค่าลงทุนโครงการแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ ในสหรัฐฯ ลดเหลือ 570 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 18,650 ล้านบาท พร้อมเลื่อนแผนปิดดีลเสร็จจากไตรมาส 2/63 เป็นภายในสิ้นปีนี้ โบรกฯ แนะ ขาย” ชี้ราคาหุ้นยังถูกกดดันจากธุรกิจถ่านหินที่มีดีมานด์ใช้ทั่วโลกลดลง (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+/-) MBK (Bloomberg Consensus 21.50 บาท)  หนุนรัฐไฟเขียวเปิดห้างในเดือนพฤษภาคมนี้ หวังช่วยให้ธุรกิจไตรมาส 3/2563 ค่อยๆ ฟื้นตัว และกลับสู่ภาวะปกติในช่วงไตรมาส 4/2563 ยอมรับผลกระทบที่เกิดขึ้นปีนี้เป็นปีแห่งการประคับประคอง หวังปีหน้าธุรกิจไปต่อ ขณะนี้งดเก็บค่าเช่าลูกค้า 100% หวังช่วยลดภาระผู้ประกอบการ พร้อมแจกปันผล 0.42 บาท XD วันที่ 17 เมษายนนี้ รับทรัพย์ 30 เมษายน (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+) ASIAN (Bloomberg Consensus - บาท)  ออเดอร์อาหารสัตว์เลี้ยงไหลเข้าอื้อ อานิสงส์ต่างประเทศแห่ตุนสินค้าหนุนยอดขายกระเตื้อง ช่วยทดแทนยอดอาหารแช่เยือกแข็งวูบ เดินหน้าอัดงบ 230 ล้านบาท สร้างไลน์ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดในไทย-ซื้อเครื่องจักรปั๊มยอดอาหารแช่เยือกแข็ง-อาหารสัตว์เลี้ยง พร้อมคงเป้ารายได้ปีนี้โตกว่า 10%  (ที่มา ทันหุ้น)

  • (+) COM7 (Bloomberg Consensus 11 บาท) ลุ้นเปิดขาย iPhone SE 2020 รุ่นใหม่ ช่วยดันยอดขาย เล็งทบทวนแผนธุรกิจใหม่ หลังทุกสาขาเปิดดำเนินการได้ครบ ส่วนแคมเปญให้เช่า Notebook และ iPad การตอบรับดี วงการไอทีระบุ ไอโฟน SE ราคาเริ่มต้น 14,900 บาท คุณภาพทันสมัย พลังเท่าไอโฟน 11 โบรกชี้ COM7 จะผ่านพ้นวิกฤติไปได้ มีโอกาสฟื้นตัวเร็ว ตุนเงินสดรองรับการซื้อกิจการ เคาะพื้นฐาน 23 บาท (ที่มา ทันหุ้น)
  • (+/-) VIBHA (Bloomberg Consensus 2.08 บาท)  ปรับโครงสร้างบริษัทย่อย "ปริ๊นส์ตัน" หวังลดต้นทุนรอบด้าน พร้อมพลิกโมเดลใช้เป็นอาคารผู้ป่วยเฉพาะกิจ เผยเทรนด์ตรวจเชื้อแบบ "ไดร์ฟทรู" กระแสตอบรับดี ด้านผู้บริหาร "ชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล" ยืนเป้าปี 2563 รายได้โต 10% จากปีก่อน รับยอดค่ารักษาพยาบาลขยายตัว โบรกเคาะพื้นฐาน 2.25 บาท (ที่มา ทันหุ้น)