TCAP - ซื้อ

TCAP - ซื้อ

ยังคงเป็นหุ้นปันผลอยู่

Event

ประมาณการ 1Q63 และอัพเดตแนวโน้มธุรกิจ

lmpact

กำไรปี 2563 ได้รวมกำไรบริษัทลูกลดลง 30%

ภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่แย่ลงอย่างมากจะส่งผลกระทบกับ equity income จากบริษัทในเครือหลายแห่งของ TCAP ซึ่งในบรรดาบริษัทในเครือของ TCAP เราคิดว่ามีสามแห่งที่ส่งสัญญาณว่าส่วนแบ่งผลประกอบการจะแย่ลงอย่างมาก ได้แก่ 1.) THANI 2.) MBK 3.) บ.ล. ธนชาติ (TNS) ในขณะที่เราคาดว่า กำไรจากบริษัทลูกตามสัดส่วนการถือหุ้น (equity income) จากการลงทุนใน TMB (20%) จะอยู่ที่แค่ 2.1 พันล้านบาทเท่านั้น (อิงจากประมาณการกำไรปี 2562 ของ TMB ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท)

คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q63F จะอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (+46% YoY)

หลังจากที่โอนกิจการ Tbank ไปอยู่ภายใต้ TMB แล้ว TCAP ก็กลายเป็นกลุ่มบริษัทโฮลดิ้งอย่างแท้จริงโดยมูลค่ากิจการจะมาจากการลงทุนในบริษัทในเครือหลักๆ (figure 1) ทั้งนี้ภายใต้โครงสร้างบริษัทโฮลดิ้ง TCAP จะรวมผลการดำเนินงานของ THANI เข้ามาในงบรวมเท่านั้น และจะรับรู้รายได้ในรูปกำไรสุทธิ  (equity income) จากบริษัทที่ถือต่ำกว่า 50% ทั้งนี้ เราประเมินกำไรของ THANI จะลดลง 50%ของ MBK จะลดลง 30% และการลงทุนในกิจการอื่น ๆ ลดลง 30% ในขณะที่คาดว่าบริษัทจะมีกำไรพิเศษก้อนใหญ่ 3.0 พันล้านบาทจากการขายหุ้น Ajinomoto

เงินปันผลยังคงน่าสนใจในปี 2563F

TCAP จ่ายปันผลเยอะในปี 2562 ในขณะที่ปันผลจะกลับมาอยู่บนฐานปกติในปี 2563 แต่เนื่องจากยังมีกำไรพิเศษจากการลงทุน เราจึงคาดว่ายอดจ่ายปันผลและอัตราผลตอบแทนจะยังคงสูงอยู่ ซึ่งหากใช้สมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 60% จะได้ DPS ที่ 3.50 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงิน
ปันผลที่ 10%

คงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายที่ 57 บาท คิดเป็น P/E ที่ 10.0x

ราคาหุ้น TCAP ตกลงมาอย่างมากหลังจากที่บริษัทได้ข้อสรุปเรื่องแผนซื้อหุ้นคืนเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2563 ในขณะที่นักลงทุนในตลาดเป็นกังวลกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของ THANI และการปรับลดเรตติ้ง แต่จากข้อมูลที่ได้จาก TCAP เราคิดว่าราคาหุ้นตกแรงเกินไป และผลการดำเนินงานของ THANI ใน 1Q63 ก็ไม่ได้แย่จนเกินไป นอกจากนี้ บริษัทยังมีแหล่งเงินทุนที่แน่นอนจากการสนับสนุนผู้ถือหุ้นใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังจะรับรู้กำไรก้อนใหญ่จากการขายหุ้น Ajinomoto ประมาณ 3.0 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนผลประกอบการใน 1Q63F ในปี 2563 และทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 10% หรือมากกว่า ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นไม่แพง และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลก็น่าสนใจ เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายที่ 57 บาท

Risks

การขยายกรอบเวลาทำดีล M&A ในขณะที่ NPL และค่าใช้จ่ายในการกันสำรองเพิ่มขึ้น