สธ.คาดการณ์ล่าสุด ยอดผู้ติด 'ไวรัสโคโรนา' วันที่ 15 เม.ย.นี้

 สธ.คาดการณ์ล่าสุด ยอดผู้ติด 'ไวรัสโคโรนา' วันที่ 15 เม.ย.นี้

สธ.เชื่อ15เม.ย. ผู้ติดไวรัสโคโรนา ป่วยโควิด-19สะสมมากสุดอยู่ระดับ 4,000 รายไม่ถึง 7,000 รายตามคาดก่อนหน้า ขยายเกณฑ์สอบสวนโรค ที่ด่านคัดกรองทุกเที่ยวบินจากทุกประเทศ-ทุกช่องทางระหว่างประเทศ ผู้ป่วยมีประวัติไปสถานที่รวมกลุ่มคน-บุคลากรด้านการแพทย์ทุกราย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 เมษายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19(COVID-19) ว่า กรมควบคุมโรคได้พิจารณาขยายเกณฑ์นิยามผู้ป่วยที่ต้องสอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มเติมซึ่งจะส่งผลต่อการตรวจยืนยันการติดเชื้อในห้องปฏิบัติการ(ห้องแล็บ) โดยจากที่มีการเฝ้าระวังโดยปกติอยู่แล้ว 3 จุด แต่ละจุดมีการขยายเกณฑ์เพิ่มเติม ได้แก่ 1.การเฝ้าระวังที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โดยเดิมให้เฝ้าระวังในผู้ป่วยมีอาการและอาการแสดงมีไข้ 37.3 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือมีอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหรือหายใจลำบาก ในเที่ยวบินที่มาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคหรือประเทศที่เป็นเขตติดโรค ขยายเป็นให้เฝ้าระวังในผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังหรือมาจากต่างประเทศทุกเที่ยวบิน ทุกช่องทางระหว่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันทั่วโลกมีประเทศที่พบผู้ป่วยกง่า 209 ประเทศ


2.การเฝ้าระวังในสถานพยาบาล แยกเป็น 2.1กรณีผู้ป่วยมีอาการไข้ 37.5 องศาฯขึ้นไป หรือให้ประวัติว่ามีไข้ในการป่วยร่วมกับหรือมีอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหรือหายใจลำบาก หรือมีโรคปอดอักเสบ ส่วนที่ขยายเพิ่มในส่วนของเป็นคนที่มีประวัติในช่วง 14 วันก่อนเริ่มป่วยอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ประวัติเดินทางไปยังหรือมาจากต่างประเทศหรืออยู่อาศัยในพื้นที่เกิดโรคโควิด-19 รวมถึง ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ(เดิมกำหนดเฉพาะประเทศเสี่ยง) สถานที่แออัดหรือติดต่อกับคนจำนวนมาก และไปในสถานที่ชุมนุมชน หรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคน เช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาลหรือขนส่งสาธารณะ(เดิมกำหนดต้องเป็นสถานที่ที่พบผู้ป่วยมาก่อน) และ2.2ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบทุกรายที่ หาสาเหตุไม่ได้หรือรักษาแล้วไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตโดยหาสาเหตุไม่ได้ และภาพถ่ายรังสีปอดเข้าได้กับโรคโควิด-19(ตามเกณฑ์เดิม)


3.เฝ้าระวังในบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีอาการไข้ 37.5 องศาฯขึ้นไป หรือให้ประวัติว่ามีไข้ในการป่วยร่วมกับหรือมีอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหรือหายใจลำบาก หรือมีโรคปอดอักเสบทุกราย และ4.การเฝ้าระวังการป่วยเป็นกลุ่มก้อนของผู้มีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่ผลตรวจแล็บต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ให้ผลลบทุกราย(เกณฑ์เดิม)


ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการคาดการณ์เดิมภายใน 15 เมษายน 2563 จะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาราว 7,000 คน หากเทียบจากสถานการณ์ปัจจุบันการคาดการณ์ยังเป็นเช่นนั้นหรือไม่ นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสะสมราว 2,200 ราย ในช่วง 10 วันที่ผ่านมามีผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันมากที่สุด 188 ราย และน้อยสุด 38 ราย เฉลี่ยอยู่ที่ 100 รายต่อวัน นับจากวันนี้อีก 8 วันจะถึงวันที่ 15 เมษายน หากคิดในจำนวนมากที่สุดที่จะมีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นก็น่าจะไม่เกิน 2,000 ราย เมื่อรวมกับผู้ป่วยสะสมเดิม 2,200 ราย ก็น่าจะประมาณ 4,000 กว่าราย โอกาสที่จะถึง 7,000 รายมีน้อย อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้จะเป็นจริงได้ ยังคงต้องเข้มข้นมาตรการต่างๆที่ดำเนินการอยู่ต่อไป ทั้งการลดไม่ให้เชื้อมาจากต่างประเทศ ประชาชนใส่หน้ากาอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ผู้มีอาการที่เข้าเกณฑ์มีประวัติเสี่ยงต้องรียรายงานเจ้าหน้าที่ และห้ามปกปปิดข้อมูล ทั้งหมดจะสำเร็จต้องเกิตจากคนไทยทุกคนในสังคม