เทรดกรอบแคบ น่าจะชะลอความร้อนแรง

เทรดกรอบแคบ น่าจะชะลอความร้อนแรง

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในวันนี้ ได้แก่ คำสั่งเพิ่มเติมที่น่าจะออกมาจาก ศอฉ. Covid-19 ตาม พรก.ฉุกเฉินที่เริ่มบังคับใช้ในวันนี้ 

KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์... เราคาดว่าหุ้นไทยจะชะลอความร้อนแรงเมื่อเทียบกับ 2 วันก่อนหน้านี้.. ขณะที่เมื่อวานดัชนีฯ ฟื้นตัวต่ออย่างโดดเด่น 4.47% หนุนโดยหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก หรือ global cyclical plays (ตามคาด)... สำหรับเหตุผลที่ SET Index น่าจะเข้าสู่ช่วงพัก ได้แก่ i) เมื่อพิจารณาระดับการรีบาวด์ของหุ้นโลกและหุ้นไทยใน 2-3 วันที่ผ่านมา น่าจะรับรู้ปัจจัยบวกสำคัญเช่นมาตรการ QE ไม่จำกัดจำนวนของเฟด และข้อตกลงระหว่างทำเนียบขาวและวุฒิสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับมาตรการการคลัง 2 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ไปมากแล้ว ii) เมื่อคืนนี้ ยังคงมีความขลุกขลักในสภาคองเกรส
สหรัฐฯ ซึ่งตอนแรกตั้งเป้าอนุมัติมาตรการ 2 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ดังกล่าว แต่ในช่วงสุดท้ายวุฒิสมาชิกเดโมแครต เบอร์นาด แซนเดอร์ เรียกร้องให้เลื่อนการลงมติออกไปอีก เนื่องจากเขาไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขของกองทุนช่วยเหลือภาคธุรกิจมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ฯ และ iii) เราพบว่า valuations ของตลาดหุ้นไทย...ไม่ได้ถูกมากๆ เหมือนช่วงต้นสัปดาห์หรือสัปดาห์ที่แล้ว... ทั้งนี้ หลังจาก SET รีบาวด์แรง พบว่าดัชนีฯ ขึ้นมาเทรดที่ forward PE2563-KGI ที่ 13.5 เท่า (คำนวณจาก EPS ปีนี้ที่ 80.0) ซึ่งใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของforward PE ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และพบว่า forward earnings yield gap ลดลงมาสู่ 6.0% ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ในระยะยาวแต่ไม่ดึงดูดเท่ากับช่วงก่อนหน้านี้ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในวันนี้ ได้แก่คำสั่งเพิ่มเติมที่น่าจะออกมาจาก ศอฉ. Covid-19 ตาม พรก.ฉุกเฉินที่เริ่มบังคับใช้ในวันนี้ 

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร CPALL*, BJC* / รับเสี่ยงได้น้อยถัวหุ้นพื้นฐานดีต่อ

- เก็งกำไร จากประเด็นข่าวมาตรการรัฐฯ เราประเมินหุ้นค้าปลีกอย่าง CPALL* และ BJC* ที่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ในขณะนี้ + มาตรการช่วยค่าครองชีพของภาครัฐฯ จะเป็น Sentiment บวกแนะนำ "เก็งกำไร" i) CPALL* (แนวรับ 58 บาท / แนวต้าน 62 - 64 บาท / Stop loss 56 บาท) และ ii) BJC* (แนวรับ 39 บาท / แนวต้าน 41 - 44 บาท / Stop loss 35.5 บาท)

- สะสมหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานดีกว่าตลาดฯ กลยุทธ์ Dollar cost average ราคาหุ้นย่อค่อยสะสม เน้นหุ้นถูก + หนี้ต่ำ + ได้รับผลกระทบน้อย (คาดกำไร 1Q63 Outperform ไม่ลงหรือบวกสวนภาพรวมตลาดฯ)

i) INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 61 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 46 บาท และ 45 บาท / แนวต้าน 52 บาท ...หากต่ำกว่า 42 บาท ชะลอการลงทุนก่อน 2) ความเสี่ยงหนี้สินต่ำ DE < 1 เท่า และ Dividend yield 5.7% 3) คาดผลการดำเนินงาน 1Q63 ดีกว่าตลาดฯ ทรงๆ YoY

ii) EGCO* (เป้าพื้นฐาน 370 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 210 บาท และ 200 บาท / แนวต้าน 230 บาท และ 240 บาท ... หากต่ำกว่า 180 บาท ชะลอการลงทุนก่อน 2) ความเสี่ยงหนี้สินต่ำ D/E < 1 เท่า และ Dividend yield +3.5% 3) คาดผลการดำเนินงาน 1Q63 ดีกว่าตลาดฯ ทรงๆ YoY

iii) BCPG* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 11.5 บาท และ 11.0 บาท / แนวต้าน 12.3 บาท และ 13.0 บาท ... หากตํ่ากว่า 10.0 บาท ชะลอการลงทุนก่อน 2) Dividend yield 5.3% แม้ D/E 1.4 เท่า แต่ยังต่ำกว่า 2 เท่า และต่ำกว่าหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนตัวอื่นๆ 3) คาดผลการดำเนิน 1Q63 ดีกว่าตลาดฯ โตทั้ง YoY และ QoQ

หุ้นมีข่าว

(+ กลุ่มการบริโภคค้าปลีก / - กลุ่มสินเชื่อ Non-Bank) จ่อถกลดดอกเบี้ย 'บัตร-พีโลน' 'แบงก์ชาติ' ออกมาตรฐานกลาง 'ช่วยลูกหนี้ดี' 6 กลุ่ม - มีผล 1 เม.ย. (กรุงเทพธุรกิจ) นี้ ธปท.ขอกดเพดานต่ำอีก ธุรกิจบัตรเครดิตฯยังลังเล "ธปท."ประกาศออก "มาตรฐานกลางขั้นต่ำ" ช่วยเหลือลูกหนี้ดี 6 กลุ่ม ลดผลกระทบ โควิด-19 ทั้งเลื่อนจ่ายเงินต้น-ดอกเบี้ย ลดวงเงินจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5% ยาว2 ปี พร้อมเปิดทางลดดอกเบี้ย ตามสถานการณ์ของลูกค้าแต่ละราย มีผล 1 เม.ย.นี้ ด้านธุรกิจบัตรเครดิตจ่อหารือหลังธปท.ขอให้ลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล

(-) 1 เม.ย.นี้ THAI* ประกาศหยุดบินทั่วโลก (ข่าวหุ้น) “การบินไทย” ประกาศ 1 เม.ย. 63 หยุดบินทั่วโลก “จักรกฤศฏิ์” รักษาการดีดี ยอมรับโควิด-19 กระทบรุนแรง ต้องหยุดบินทุกเส้นทาง เหตุหลายแห่งปิดประเทศ บินเข้าไม่ได้ ประกอบกับไม่มีผู้โดยสารเดินทาง หากฝืนบินต่อเจอภาระต้นทุนพุ่ง

(+) JMT* พอร์ตสะสม 1.77 แสนล. ตุนเงินสดพร้อมประมูลหนี้ (ทันหุ้น) JMT* ตุนเงินสดพร้อมประมูลหนี้ต่อเนื่องเติมพอร์ตบริหารหนี้เพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่กว่า 1.77 แสนล้านบาท คาดไตรมาส 2/2563 คาดว่าจะมีการประกาศซื้อหนี้เข้ามาเพิ่มเติมอีก เผยภาพรวมธุรกิจบริหารหนี้ดอยคุณภาพไตรมาส 1/2563 แข็งแกร่ง แม้มีสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เนื่องจากพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพเดิม และหนี้ด้อยคุณภาพใหม่ที่ซื้อมาในช่วงครึ่งหลังปี 2562 เริ่มทยอยจัดเก็บได้

(+) SAMART แบ็กล็อกล้นมือ ลุ้นคว้างานใหม่ 2 พันล้าน (ทันหุ้น) SAMART เผยไวรัสโควิด-19 กระทบเล็กน้อย ระบุงานในมือส่วนใหญ่ 80-90% เป็นงานภาครัฐยังเดินหน้าต่อได้ ส่งซิกไตรมาส 2/2563 มีลุ้นผลประมูลงานใหม่ มูลค่า 1.5-2 พันล้านบาท ย้ำงานในมือ 1 หมื่นล้านบาทรองรับรายได้ 1-3 ปี แถมยังอยู่ระหว่างยื่นประมูลอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท