เรียนออนไลน์ - ทำงานที่บ้าน มาตรการรับมือ โควิด-19

เรียนออนไลน์ - ทำงานที่บ้าน   มาตรการรับมือ โควิด-19

การป้องกัน การเฝ้าระวัง การควบคุมโรคโควิด-19 ที่ดีที่สุด ต้องเริ่มจากทุกคนช่วยกันดูแลตัวเอง และหากมีภาวะความเสี่ยง มีอาการไข้หวัด ควรรีบไปพบแพทย์ หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด พื้นที่สาธารณะ และควรสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ต้องร่วมด้วยช่วยกัน

ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด –19 ยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน กระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ ในการดำเนินการตามมาตรการป้องกัน เฝ้าระวัง ควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดจนเข้าสู่ระยะที่ 3 (ปัจจุบันไทยอยู่ในระยะที่ 2)

ในส่วนสถาบันการศึกษา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีมาตรการในการเฝ้าระวัง ดูแลนักเรียนนักศึกษาอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษาจีน บุคลากรจีนมาเรียน มาทำงานอยู่จำนวนมาก อย่างเช่นที่ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) มีนักศึกษาจีนมาเรียนประมาณ 3,000 คนได้จัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ และปรับเปลี่ยนวิธีสอบ ไฟนอลเป็นการประเมินผลผ่านโครงงานแทน

ผศ.ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่าตั้งแต่เกิดสถานการณ์และพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศไทย มหาวิทยาลัยมีความเป็นห่วงนักศึกษาจีนที่มาเรียนประมาณ 3,000 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ประเทศจีนยังไม่กลับมา ประมาณ 2,400 คน และอยู่ที่หอพักมหาวิทยาลัยเพียง 600 คน

 

โดยมีการคัดกรองส่วนกลุ่มที่มีภาวะเสี่ยงจะออกพาสปอร์ตเหลืองให้ ต้องมาตรวจวัดไข้ 14 วัน ถ้า 14 วันไม่มีอาการใดๆ จะได้พาสปอร์ตเขียวปัจจุบันนี้นักศึกษาจีนที่อยู่ในมหาวิทยาลัยทั้ง 600 คนถือพาสปอร์ตสีเขียว และทุกทางขึ้นอาคารต่างๆ หน้าลิฟท์และหน้าห้องเรียนจะมี เจลล้างมือ ไว้ให้บริการ และเน้นทำความสะอาดพื้นที่สัมผัสต่างๆภายในมหาวิิทยาลัย และรณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัยพร้อมทั้งจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ผ่าน Teacher mate ของ Tencent ให้กับนักศึกษาที่อยู่ที่ประเทศจีน และปรับวิธีการสอบไฟนอลมาเป็นการประเมิินผลจากการส่งโครงงาน หรือ project based ส่งอาจารย์ผู้สอนแทน

นอกจากนั้นในมหาวิทยาลัยได้มีการเฝ้าระวัง มีมาตรการการป้องกัน อาทิ ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคบริเวณรอบมหาวิทยาลัยอย่างทั่วถึง จะมีเจ้าหน้าที่ทำการวัดไข้ให้นักศึกษาทุกคนก่อนเข้าห้องเรียน และที่พักอาศัย จัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้บริการนักศึกษาฟรี และเน้นย้ำให้นักศึกษาใส่หน้ากากอนามัยเข้าเรียนทุกคน และได้ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมาทำงานตามปกติ และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ความสำคัญในการดูแล เฝ้าระวังทั้งนักศึกษาจีน นักศึกษาไทย และบุคลากรของมหาวิทยาลัยทุกคนด้วยมาตรการที่เข้มข้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกมหาวิทยาลัยได้มีมาตรการในการดูแล เฝ้าระวังทั้งนักศึกษาจีน และนักศึกษา รวมถึงคณาจารย์และบุคลากรต่างๆ เตรียมพร้อม เฝ้าระวัง หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด สวมใส่หน้ากากอนามัยมืออยู่ในที่ชุมชน กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด เป็นต้น

  • สุขภาพดีอยู่ที่บ้านโทร.1378

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ที่มีการประกาศประเทศกลุ่มเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นในขณะนี้ ทำให้หลายประเทศรวมถึงประเทศไทยได้ออกมาตรการเฝ้าระวังและคัดกรองผู้เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดมากขึ้น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จึงได้เปิดบริการใหม่“สุขภาพดีอยู่ที่บ้าน ปรึกษาแพทย์…โทรสายด่วน1378”เพื่อมารองรับการดูแลผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว โดยผู้ต้องการใช้บริการสามารถโทรผ่านสายด่วน 1378 

เภสัชกรหญิงอาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ผู้อำนวยการด้านบริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องการใช้บริการสามารถโทรผ่านสายด่วน จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการรับสายตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน เพื่อเข้าสู่ 3 บริการหลักๆ ได้แก่ 1. ต้องการปรึกษาแพทย์ สามารถคุยกับแพทย์ได้โดยตรงภายในเวลาอันรวดเร็ว ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. ครั้งละไม่เกิน 15 นาที2. ส่งยาตรงถึงบ้าน จัดส่งยาหลังจากปรึกษาแพทย์และจัดส่งยาตามใบสั่งแพทย์ ยกเว้นยาแช่เย็น กลุ่มยาเสพติด (Narcotics) และยากลุ่มที่มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท (Psychotropic substances) ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. 3. บริการเจาะเลือดที่บ้านตามใบสั่งแพทย์ เฉพาะเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 06.00 – 16.00 น.

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบำรุงราษฎร์ยังได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการออกมาตรการการเฝ้าระวังสถานการณ์และตรวจคัดกรองไวรัสโควิด–19 ขั้นสูงสุด ซึ่งเทียบได้ตามมาตรฐานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) และยังมีศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่คอยปรับการบริหารจัดการตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปต่อวันมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้เพื่อป้องกันการขาดแคลนของชุดตรวจในยามจำเป็น จึงขอสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่หน่วยงาน บริษัทต่างๆ รวมถึงประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เนื่องด้วยที่ผ่านมา พบว่าบางคนที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง มีความต้องการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ผู้ที่ยังไม่มีไข้ ไม่มีอาการแล้วมาตรวจแล็บ ซึ่งผลตรวจในขณะนั้นจะออกมาเป็นลบ (Negative) แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 จนกว่าจะผ่านพ้นระยะฟักตัวจนครบ 14 วันไปแล้ว 

คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ เมื่อกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ให้แยกตัวเฝ้าสังเกตอาการตนเองจนครบ 14 วัน ใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอก หรือออกไปในที่ชมุชน หรือพบปะผู้คน กินอาหารปรุงสุก ยึดหลักสุขอนามัยพื้นฐานง่าย ๆ คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เป็นต้น และหากเริ่มมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทางตามความเป็นจริง

  • ทำงานที่บ้านผ่านดิจิทัล

จากสถานการณ์โควิด -19 ที่มีการระบาดเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ทั้งเกาหลี อิตาลี อิหร่าน และสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในกรณีที่มีการระบาดอย่างกว้างขวางในประเทศ โดยหน่วยงานราชการถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมทำงานที่บ้านผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งระบบการทำงานและระบบออนไลน์เพื่อให้การทำงานของหน่วยราชการนั้นๆและการให้บริการประชาชนไม่หยุดชะงัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดความรุนแรงของการระบาด

ซึ่งขณะนี้หน่วยงานราชการก็มีระบบการทำงานผ่านดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ได้แก่ เอกสารดิจิทัล (E-Doccument) การประชุมขนาดเล็กผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) และการประชุมขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ระบบ E-conference ที่เป็นการประชุมขนาดใหญ่ก็มีระบบที่รองรับซึ่งมีความพร้อมในระดับหนึ่ง เหลือเพียงกฎระเบียบบางเรื่องที่ยังคงต้องมีการแก้ไขให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติงานจริง

ขณะเดียวกันบริษัทเอกชนต่างๆมีแนวโน้มให้พนักงานทำงานที่บ้านเช่นกัน เช่น“แกร็บ”บริษัทแกร็บ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ประกาศปิดสำนักงานในไทยและสิงคโปร์เป็นเวลา 5 วัน แนะนำให้พนักงานทำงานที่บ้านจนถึงวันที่ 13 มี.ค. เพื่อให้บริษัททำความสะอาดและฆ่าเชื้อในสำนักงาน

“เครือเจริญโภคภัณฑ์ ทำงานที่บ้านกรณีพนักงานผู้ซึ่งตนเองหรือผู้ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ให้ผู้บังคับบัญชาแจ้งพนักงานผู้นั้นทำงานที่บ้านและสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วันนับจากวันที่เดินทางกลับ

ธนาคารกรุงเทพ ได้สั่งพนักงานทำงานที่บ้าน 14 วัน หลังพบพนักงานติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่ชั้น 26 อาคารแสงทองธานี เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกประกาศมาตรการให้พนักงานและลูกจ้างทำงานที่บ้าน และงดให้บุคคลภายนอกเข้าอาคาร Circle Living Prototype เป็นเวลา 14 วัน เนื่องด้วย ททท. ได้รับแจ้งจากนิติบุคคลอาคารชุดว่า พบผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 รายที่ 59

กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) กำหนดให้ผู้ปฎิบัติงานที่เดินทางผ่านพื้นที่เสี่ยงติดโรคตามประกาศของสำนักงานกสทช. หรือมีเหตุสงสัยว่าติดเชื้อ ให้ผู้นั้นปฎิบัติงานในที่พัก 14 วันโดยไม่ถือเป็นวันลา

  • เทคนิคทำงานที่บ้าน

Work from home ดูจะเป็นคำตอบของสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นหลายประเทศเริ่มใช้มาตรการแก้ไขควบคู่ไปกับการป้องกันในหลากหลายมิติ ไม่เว้นแม้แต่การปิดออฟฟิศและอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ ที่เราเริ่มเห็นหลายๆ องค์กรระดับโลกตัดสินใจนำมาใช้ แต่การทำงานนอกสถานที่หรือทำงานที่บ้านจำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือที่มีความครบเครื่องและครบครันมากที่สุด ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้เราทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่สะดุด ให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมไม่ต่างจากการทำงานในออฟฟิศ

เทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลโปรแกรม LINEคือคำตอบที่ทำให้คนทำงานสามารถใช้ชีวิตแบบดิจิทัลไลฟ์สไตล์ผ่านโทรศัพท์มือถือของตัวเองได้ แม้ไม่เจอกันก็ใกล้กันได้ สื่อสารกันได้ ทำงานด้วยกันได้ทุกที่ ทุกเวลาด้วยเทคนิคที่ช่วยการทำงานที่บ้าน (Work from Home)

ออฟฟิศเสมือนจริงควรสร้างบรรยากาศทำงานจริง ๆ เสียก่อน เพราะหลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับการทำงานที่บ้าน จึงต้องจัดเตรียมพื้นที่ทำงานที่บ้านให้เหมาะสม และสร้างบรรยากาศให้พร้อมทำงานเหมือนกำลังอยู่ในสำนักงาน เพิ่มแรงจูงใจในการทำงานให้มากขึ้นด้วยกำหนดเวลาการทำงานให้ชัดเจนที่ขาดไม่ได้คือสัญญาณอินเทอร์เน็ตต้องไม่สะดุด และเพื่อให้เราโฟกัสกับการทำงานมากขึ้น

การสื่อสารก็เป็นหัวใจของการทำงานที่บ้านหลายคนรู้แล้วว่าหากมีเรื่องไม่ด่วนก็ทักแชตส่วนตัวหรือต้องการคุยงานแบบหลายคน ก็สร้างกลุ่มแชตที่จะทำให้เพื่อนร่วมงานได้อัพเดทไปพร้อม ๆ กันทั้งยังสามารถใช้ในรูปแบบ Voice หรือ VDOเพื่อประชุมเรื่องสำคัญให้ทุกคนรับรู้พร้อมกันทั้งเสียงและวิดีโอสามารถคอมเมนต์ แสดงความคิดเห็น ระหว่างที่มีสมาชิกในกลุ่มมีฟีเจอร์ช่วยรับส่งไฟล์เอกสารไฟล์ขนาดใหญ่ ก็สามารถใช้ฟีเจอร์แสกนข้อความตัวอักษรโดยไม่ต้องพิมพ์

อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการทำงานในสำนักงานคือเห็นการทำงานของกันและกันได้อย่างชัดเจน ส่วนการทำงานที่บ้าน หากมีเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ก็สามารถช่วยให้ทำงานได้ดีไม่ต่างจากสำนักงานจึงควรจัดลำดับความสำคัญของงาน และกำหนดระยะเวลาให้งานแต่ละชิ้น เพื่อจะได้จัดสรรเวลาได้ถูกต้อง เมื่อถึงเวลาพักก็ต้องพัก และพร้อมทำงานชิ้นใหม่