แม็คโครลุยสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ‘รัฐฉาน’ เตรียมผลผลิตป้อนสาขาแรกเมียนมา

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  ผู้บริหารศูนย์ค้าส่งแม็คโคร กล่าวว่า แผนการขยายธุรกิจในประเทศเมียนมาของแม็คโคร ซึ่งการก่อสร้างสาขาแรกย่านซัทซัน ใจกลางย่างกุ้ง ใกล้แล้วเสร็จเตรียมเปิดบริการในเร็วๆ นี้ โดยแม็คโครได้เตรียมความพร้อมทางด้านสินค้าจากแหล่งผลิต ซัพพลายเออร์ที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะผักชนิดต่างๆ ที่ต้องนำมาวางขายภายในสาขาแม็คโครกว่า 500 รายการ ขณะนี้ได้แหล่งซัพพลาย “รัฐฉาน” ซึ่งผักที่บริโภคในเมียนมามากกว่า 60% มาจากรัฐนี้

ทั้งนี้ ทีมงานแม็คโครได้ลงพื้นที่ทำงานกับกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรเมียนมา โดยการเชื่อมโยงผ่านสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเมียนมา (UMFCCI) 

"ปัญหาสำคัญของเขาชาวสวนในเมียนมา คือ ไม่มีตลาด ปกติจะส่งขายในตลาดสด แม็คโครจะเข้าไปเป็นช่องทางจำหน่ายเพิ่มเติม สร้างช่องทางการตลาดใหม่ที่ได้มาตรฐานให้กับเกษตรกรกลุ่มนี้”

รัฐฉาน ถือได้ว่า เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่กระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างประเทศเมียนมาส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและดำเนินธุรกิจด้านเกษตร ประชากรในรัฐฉานส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมพืชเศรษฐกิจที่สําคัญ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง มันฝรั่ง อ้อย อโวคาโด ผัก กาแฟ และชา ส่วนผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ที่โดดเด่น ได้แก่ เนื้อวัว นมวัว เนื้อไก่ ไข่ไก่ และเนื้อหมู

นอกจากเป็นช่องทางจำหน่ายในรูปแบบการตลาดสมัยใหม่แล้ว แม็คโคร ยังได้แลกเปลี่ยนความรู้ทางการตลาด เพื่อให้เกษตรกรเข้าใจกระบวนการทำเกษตรแบบ “การตลาดนำการผลิต” โดยได้แนะนำเทคนิคดูแลผลผลิตตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทาง การตัดแต่ง บรรจุ มุ่งเน้นการดูแลหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อยืดอายุ และคงคุณภาพผัก ทำให้มีการปรับกระบวนการขนส่งมาสู่การใช้รถห้องเย็นส่งตรงผลผลิตไปยังแม็คโคร สาขาย่างกุ้ง

แม็คโคร ได้ตกลงรับซื้อผักจากเกษตรกรกลุ่มใหญ่ของรัฐฉานที่มีสมาชิกกว่า 200 ราย อาทิ ผักเมืองหนาว ผักพื้นเมือง โดยศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านอาหารในท้องถิ่นซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของแม็คโคร เรียนรู้และศึกษาตลาดในเมียนมา

สำหรับการขยายตลาดมายังประเทศเมียนมา แม็คโคร เน้นขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ผ่านเป้าหมายหลักในการทำธุรกิจ 6 ประการ (Six Goals) ได้แก่  การเป็นแหล่งอ้างอิงด้านอาหารปลอดภัย, ส่งเสริมการคัดสรรผลิตภัณฑ์อย่างเป็นธรรมและยั่งยืนให้ความสำคัญกับการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์, ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, เป็นที่รักในท้องถิ่น เกิดการจ้างงาน ให้ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจค้าปลีกแก่ผู้ประกอบการร้านโชห่วยประยุกต์ใช้ปรับปรุงร้านค้าปลีกในท้องถิ่นให้อยู่รอดอย่างยั่งยืน, สร้างความเติบโตทางธุรกิจให้ลูกค้า โดยมุ่งศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นช่องทางใหม่ในการทำธุรกิจ สุดท้าย เป็นองค์กรที่คนทุกรุ่นอยากเข้ามาร่วมงาน