ราคาน้ำมันดิบร่วง4%หลังซาอุฯเพิ่มการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 1.38 ดอลลาร์ หรือ 4.02% ปิดที่ราคา 32.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ราคา 35.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

ซาอุดีอาระเบีย ประกาศแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีในวันนี้ หลังจากที่ระบุก่อนหน้านี้ว่าจะผลิตน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการทำสงครามราคากับรัสเซีย

ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย มีคำสั่งให้บริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 13 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ 12 ล้านบาร์เรล/วัน

ทางด้านซาอุดี อารามโคระบุว่า บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 12.3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย.

ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมันราว 9.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงลดกำลังการผลิตที่ทำไว้กับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

ขณะเดียวกัน ซาอุดีอาระเบียยังได้เมินท่าทีประนีประนอมของรัสเซียที่ได้ส่งสัญญาณอาจกลับมาเจรจากับกลุ่มโอเปกอีกครั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาด

“ผมไม่เห็นประโยชน์ในการจัดการประชุมในเดือนพ.ค.-มิ.ย. ซึ่งจะยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของเราในสิ่งที่ควรทำ และในการใช้มาตรการที่จำเป็นในวิกฤตการณ์ครั้งนี้” เจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าว

ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์รายงานว่า นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียยังไม่ได้ปิดประตูการเจรจากับโอเปกเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน

ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 2.5 ล้านบาร์เรล

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 6.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล