‘ซิสโก้’ จับกระแสไซเบอร์ เปลี่ยนโฉมลงทุนไอทีปี 2563

‘ซิสโก้’ จับกระแสไซเบอร์ เปลี่ยนโฉมลงทุนไอทีปี 2563

อาชญากรรมไซเบอร์สร้างความเสียหายมากกว่าภัยธรรมชาติ 3 เท่า

จับตา 'โลกแห่งการเชื่อมต่อ

สำหรับเทรนด์เทคโนโลยีที่คาดว่าจะมีอิทธิพลอย่างมากในปีนี้ อันดับแรกๆ หนีไม่พ้นการมุ่งสู่ “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น” ซึ่งในทิศทางเดียวกันส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่ในปัจจุบันถึงจุดแตกหัก และใกล้จะถึงขีดจำกัดสำหรับการสร้างนวัตกรรม จำเป็นต้องมีการยกระดับและพัฒนาเพื่อรองรับอนาคต

ซิสโก้คาดว่า ภายในปี 2566 จะมีอุปกรณ์ราว 49,000 ล้านเครื่องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ในทศวรรษหน้าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่หลากหลาย ตั้งแต่วีอาร์ เออาร์, สตรีมมิ่ง 16เค, เอไอ, 5จี, 10จี, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าและปรับเปลี่ยนอย่างยืดหยุ่น, ยานพาหนะไร้คนขับ ไอโอทีอัจฉริยะ รวมไปถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง

“เกิดความต้องการและความซับซ้อนมากขึ้นเกินกว่าที่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตเดิมๆ สามารถรองรับได้ จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวคิดและสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ที่เร็วกว่าเดิม ปรับขนาดได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งสามารถบริหารจัดการและรักษาความปลอดภัยได้ง่ายๆ”

นอกจากนี้ เทรนด์ที่น่าสนใจพบว่า ความภักดีต่อแอพพลิเคชั่น เทียบเท่าความภักดีต่อแบรนด์ เนื่องด้วยการใช้บริการดิจิทัลได้กลายเป็นพฤติกรรมของมนุษย์โดยไม่รู้ตัว 

โดยพฤติกรรมที่ว่านี้เรียกว่า “Digital Reflex” จากอดีตผู้บริโภคมักต้องไตร่ตรองและตัดสินใจที่จะใช้บริการดิจิทัลเพื่อทำงานหรือกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่ยอมรับว่าบริการดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และหากได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีพอก็พร้อมจะหันหลังให้แบรนด์นั้นๆ ในทันที

ยุคใหม่ ‘ซิเคียวริตี้-เน็ตเวิร์ค

วัตสันชี้ว่า อาชญากรรมไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั่วโลกมากกว่าภัยธรรมชาติถึง 3 เท่า องค์กรจึงจำเป็นต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งลักษณะ “Zero Trust” โดยมีหลักการสำคัญที่ว่า ไม่ควรไว้วางใจอะไรเลย ไม่ว่าจะอยู่ภายในเครือข่ายหรือภายนอกเครือข่าย 

นอกจากนั้น การค้นหาภัยคุกคามใหม่ๆ(Threat Hunting)” จะมีบทบาทมากขึ้น เพื่อการตรวจหาและวิเคราะห์ภัยคุกคามใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แม้กระทั่งในกรณีที่ไม่มีการตรวจพบมัลแวร์ก็ยังสามารถระบุช่องโหว่ที่จำเป็นต้องมีการกำหนดนโยบายใหม่

ด้านแนวโน้มเกี่ยวกับระบบเครือข่าย จากนี้คาดว่าการพัฒนาจะเป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้งาน มีการนำเอไอและแมชีนเลิร์นนิงมาช่วยคาดการณ์การดำเนินการ ตรวจหา และแก้ไขความผิดปกติโดยอัตโนมัติ พร้อมหยุดยั้งภัยคุกคาม สามารถพัฒนาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ผู้บริหารซิสโก้เผยว่า บุคลากรยังคงเป็นปัญหาท้าทายอันดับ 1 ที่ผู้บริหารไอทีต้องรับมือ จากการสำรวจผู้บริหารส่วนงานไอทีและธุรกิจกว่า 600 คน 93% ประสบปัญหาช่องว่างด้านบุคลากรอย่างรุนแรงจนทำให้การปรับปรุงธุรกิจเกิดความล่าช้า

ปัจจุบัน ลักษณะของตำแหน่งหน้าที่ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด คือ วิทยาศาสตร์ข้อมูลและเอไอ ฝ่ายไอทีจำต้องเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น ผู้รับคำสั่ง ไปสู่การเป็น “พันธมิตรธุรกิจ”จากการตั้งค่าอุปกรณ์ไปสู่ การแก้ไขปัญหาธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยี” สำคัญต้องมี "ความรู้และไหวพริบด้านธุรกิจ” ควบคู่กันไป