สื่อนอกเกาะติดข่าว 'กราดยิงโคราช'

สื่อนอกเกาะติดข่าว 'กราดยิงโคราช'

สื่อต่างประเทศพากันเกาะติดรายงานข่าวเหตุการณ์กราดยิงที่จ.นครราชสีมา ในวันเสาร์ (8 ก.พ.) ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวมหลายสิบคน ด้านข้อมูลเว็บสถิติปืนชี้ ไทยมีพลเมืองครอบครองอาวุธปืนมากที่สุดในอาเซียน

สื่อต่างประเทศหลายสำนัก รวมถึงเอเอฟพี, รอยเตอร์, นิวยอร์กไทม์ส, ซีเอ็นเอ็น, บีบีซี, อัลจาซีรา และซีเอ็นบีซี ต่างรายงานข่าวเหตุการณ์กราดยิงที่ห้าง Terminal 21 โคราชเป็นข่าวด่วน (Breaking) บนหน้าเว็บไซต์ของตน

158118944582

158118944924

158118944254

รายงานระบุว่า แม้การครอบครองอาวุธปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมายไม่ใช่เรื่องผิดปกติในไทย ซึ่งมีอัตราการครอบครองอาวุธปืนสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่เหตุการณ์กราดยิงถือเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Gunpolicy.org ของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ในออสเตรเลีย ระบุว่า นับถึงปี 2560 ไทยมีผู้ครอบครองปืนทั้งปืนจดทะเบียนและปืนเถื่อนรวม 10.34 ล้านกระบอก สูงที่สุดเป็นอันดับ 39 ของโลก และสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งอันดับ 2 อาเซียนคือ ฟิลิปปินส์ 3.9 ล้านกระบอก ส่วนกัมพูชา มีทั้งสิ้น 600,000 กระบอก ขณะที่แชมป์โลกคือสหรัฐ มีผู้ครอบครองปืนทั้งปืนถูกกฎหมายและปืนเถื่อนรวม 310 ล้านกระบอก

ทั้งนี้ เหตุการณ์ล่าสุดยังเกิดขึ้นหลังจากเพิ่งเกิดเหตุยิงที่ห้างในจ.ลพบุรี เพื่อจี้ชิงทองจากร้านทองแห่งหนึ่ง

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เฟซบุ๊ค สื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ได้ลบบัญชีของผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนร้าย คือ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว หลังจากผู้ต้องสงสัยใช้บัญชีของตนที่ชื่อ Jakrapanth Thomma โพสต์ข้อความและวิดีโอถ่ายทอดสดที่มีเนื้อหารุนแรง ซึ่งขัดกับนโยบายของเฟซบุ๊ค

158121235646

เฟซบุ๊คยืนยันว่า จะลบเนื้อหาที่มีความรุนแรงทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ออกไปด้วย

ตัวแทนของบริษัทเฟซบุ๊ค เผยว่า "ขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ ครอบครัว และชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เฟซบุ๊คจะไม่เปิดพื้นที่ให้กับผู้กระทำเรื่องโหดร้ายลักษณะนี้ และไม่อนุญาตให้มีการชื่นชมหรือสนับสนุนการโจมตีลักษณะนี้เช่นกัน"