เปิดไทม์ไลน์ การเมืองร้อนต้นปี 63 

เปิดไทม์ไลน์ การเมืองร้อนต้นปี 63 

เปิดไทม์ไลน์ การเมืองร้อนต้นปี 63 พ.ร.บ.งบ-คดีเงินกู้-ศึกซักฟอก-ปรับครม.

การเมืองร้อนแรงไม่จำเป็นต้องลงไปสู้กันบนถนน หากแต่ปรับยุทธวิธีมาสู้กันด้วยข้อกฎหมาย หลายครั้งที่ “ขั้วรัฐบาล” เปิดตำรารับมือ “ขั้วฝ่ายค้าน” แต่บางครั้ง “พรรคร่วมรัฐบาล” ก็งัดกลยุทธ์มารบกันเอง เพื่อกำจัดศัตรู เปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งซ่อม เพื่อแย่งเก้าอี้ ส.ส. กันอีกรอบ

เหตุการณ์เสียบบัตรแทนกัน โดนแฉโดย “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวหา “ฉลอง เทิดวีระพงศ์” ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ฝากเพื่อน ส.ส. โหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วาระที่ 2 รายมาตรา และวาระที่ 3 แทน

จากความแค้นศึกแย่งชิงเก้าอี้ ส.ส. สู่จุดล่อแหลมที่จะทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณ เสี่ยงโมฆะ นำมาสู่การยื่นให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 เห็นว่า พ.ร.บ.งบประมาณ ไม่โมฆะ แต่ให้ดำเนินการโหวตวาระ 2 และวาระ 3 เสียใหม่

โดย ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นัดประชุมสภาฯ เป็นนัดพิเศษ วันที่ 13 ก.พ. เพื่อพิจารณา ร่างงบประมาณ ในวาระ2 และวาระ3 อีกครั้ง ตามที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยการกำหนดวันทาง ชวน อยากให้ดำเนินการโหวตในวันที่ 12 ก.พ.

แต่ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่าต้องพิจารณาญัตติด่วน ซึ่งนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และคณะเสนอให้ สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคตที่ค้างอยู่ จึงกำหนดวันโหวต พ.ร.บ.งบประมาณ ในวันที่ 13 ก.พ. ดังนั้นนายชวน จึงขอนัดวันที่ 13 ก.พ. เวลา 09.30 น.

โดยขั้นตอนต้องเริ่มพิจารณาวาระ2 ใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ชื่อร่างไปจนถึงมาตราสุดท้าย โดย ส.ส. ที่เสนอคำแปรญัตติ และกรรมาธิการที่ขอสงวนความเห็นสามารถอภิปรายได้ตามกรอบเดิม และลงมติเป็นรายมาตรา ก่อนจะลงมติวาระ3 ต่อไป

ทั้งนี้หากการพิจารณาไม่สามารถทำเสร็จได้ภายในวันที่ 13 ก.พ. ก็จะขยายเวลาออกไปได้อีก จนกว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จ และเมื่อสภาฯลงมติวาระ3 แล้วเสร็จ ต้องส่งเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาต่อทันที โดยคาดว่า พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา จะพิจารณาในชั้นของวุฒิสภาก่อนปลายเดือนก.พ.

โดย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่า ร่างพ.ร.บ.ประงบประมาณ จะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าได้ภายในเดือนก.พ. ทำให้มีความเป็นได้สูงที่ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ จะมีผลบังคับใช้เร็วที่สุดก่อนกลางเดือนมี.ค. และช้าที่สุดในช่วงปลายเดือนมี.ค.

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่า ร่างพ.ร.บ.ประงบประมาณ จะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าได้ภายในเดือนก.พ. ทำให้มีความเป็นได้สูงที่ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ จะมีผลบังคับใช้เร็วที่สุดก่อนกลางเดือนมี.ค. และช้าที่สุดในช่วงปลายเดือนมี.ค.

ส่วนเรื่องร้อนที่อยู่ในมือ ศาลรัฐธรรมนูญ อีกเรื่องคือคดี ยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) จากกรณีกู้เงิน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค วงเงิน 191 ล้านบาท ปมที่ต้องชี้ขาดคือการกู้เงินของพรรคอนค.สามารถทำได้หรือไม่

โดยฝั่ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เจ้าของสำนวนฟ้อง เห็นว่า การที่พรรคการเมืองกู้เงินมาใช้ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกระทำมิได้

เนื่องจากกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 62 ระบุว่า พรรคการเมืองมีรายได้จาก 7 ช่องทางเท่านั้น คือ จากทุนประเดิม, จากค่าบำรุงพรรคการเมือง, จากการขายสินค้า, จากการระดมทุน, จากการรับบริจาค, เงินอุดหนุนจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง และดอกผลจากรายได้ในทุกช่องทาง

ขณะที่ฝั่งพรรคอนค. พยายามชี้แจงว่า “เงินกู้” ไม่ใช่รายได้ โดยยกหลักการว่าด้วยการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของบริษัทเอกชนมาอ้างว่า “เงินกู้” อยู่ในส่วนที่เป็น “รายจ่าย” ไม่ใช่รายได้ ฉะนั้นจึงไม่เข้าข่ายตามกฎหมาย เพราะเงินกู้ที่กู้มา ไม่ใช่รายได้ของพรรคอนค.

เมื่อ กกต.-พรรคอนค. ต่างมีคำชี้แจงปม “เงินกู้” โดยการตีความกฎหมายคนละด้าน จึงต้องรอให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสิน โดยจะมีคำวินิจฉัยออกมาในวันที่ 21 ก.พ.นี้

ทว่าคำวินิจฉันของ ศาลรัฐธรรมนูญ หากมีมติให้ยุบพรรคอนค. จะส่งผลกระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ “ขั้วฝ่ายค้าน” ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีนัดหมายเปิดศึกซักฟอกในวันที่ 24-27 ก.พ. หากพรรคอนค.ถูกยุบ อาจจะไม่สามารถลุกขึ้นซักฟอกรัฐบาลได้

คำวินิจฉันของ ศาลรัฐธรรมนูญ หากมีมติให้ยุบพรรคอนค. จะส่งผลกระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ “ขั้วฝ่ายค้าน” ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีนัดหมายเปิดศึกซักฟอกในวันที่ 24-27 ก.พ. หากพรรคอนค.ถูกยุบ อาจจะไม่สามารถลุกขึ้นซักฟอกรัฐบาลได้

เนื่องจากญัตติที่ยื่นไปทำในนามพรรคอนค. โดยวิปฯฝ่ายค้านได้เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้แล้ว จัด “ขุนพล” ของพรรคร่วมฝ่ายค้านสลับหน้ากันขึ้นซักฟอก โฟกัสไปที่ “ขุนพลพรรคเพื่อไทย” ที่จะต้องมีบทบาทมากขึ้น แม้ ส.ส.เพื่อไทย หลายคน อยู่ในลิสต์เด็กฝากเลี้ยงของ “ขั้วรัฐบาล” ไม่เต็มใจจะอภิปราย แต่คงถึงคิวต้องออกแอคชั่น

ขณะเดียวกัน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เก็งคำถามของ “ขั้วฝ่ายค้าน” ก่อนลิสต์ให้ “บิ๊กข้าราชการ” จัดทำข้อมูลส่งภายในสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมตัวตอบทุกข้อซักถาม และเคลียร์ทุกประเด็นที่ “ขั้วฝ่ายค้าน” ตั้งป้อมซักฟอก เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา

ขณะที่ “5รัฐมนตรี” ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ สั่งทีมงานจัดเตรียมข้อมูลไว้คอยซับพอร์ตเต็มพิกัด เพื่อไม่ให้เพลี้ยงพล้ำ

แม้เสียงของ “ขั้วฝ่ายค้าน” จะยากที่จะชนะโหวต เพื่อปลด “1นายกฯ-5รัฐมนตรี” พ้นจากตำแหน่ง แต่ให้จับตาเสียงโหวตของ “ขั้วรัฐบาล” ที่เช็คเสียงแล้วมีไม่น้อยที่จะแตกแถว

โดยเฉพาะ ร.อ.ธรรมนัส ที่นอกจาก “พรรคร่วมรัฐบาล” ไม่ค่อยปลื้ม คนในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เองก็ไม่ค่อยแฮปปี้กับบทบาทของ “ผู้กองมนัส” ที่มักเล่นหลายหน้า ตีไพ่หลายใบ จนถูกกล่าวหาว่า “ไม่จริงใจ”

เมื่อเสร็จศึกซักฟอก จึงต้องจับตาว่าจะมีผลสะเทือนให้ “บิ๊กตู่” ต้องปรับครม.หรือไม่ หากจำเป็นต้องปรับนอกจาก “5 รัฐมนตรี” ที่บางคนอยู่ในข่ายอยู่แล้ว บรรดา “รัฐมนตรี” ที่ไม่ถูกยื่นซักฟอกอาจจะโดนหางเลขไปด้วย

จับตาไปที่ “รัฐมนตรี” ในโควตาของพรรคพปชร. โดยเฉพาะ “กลุ่มสามมิตร” ที่อยู่ในปี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ไม่มี ส.ส. คอยแบ็คอัพให้ ชื่อ สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา แม้จะมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคพปชร. แต่บทบาทในพรรคแทบไม่ปรากฏ

แม้กระทั่งตัวของ สมคิด เองพักหลัง “บิ๊กตู่” ไม่ค่อยแฮปปี้กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่นับวันจะเป็นปัญหากวนใจ “บิ๊กตู่” หากทอดเวลาออกไปยิ่งนานยิ่งแก้ยาก หากแก้ไม่ได้คะแนนนิยมมีหวังลดฟุ่บอย่างแน่นอน

ระยะหลังจึงเห็น สมคิด ออกมาจากถ้ำมาบัญชาการเกมเอง ดึง “แกนนำสามมิตร” ระดม 40 ส.ส. รับประทานอาหารโชว์พาวเวอร์คอนโทรล ส.ส.

เมื่อเสร็จสิ้นศึกซักฟอกในวันที่ 27 ก.พ. จับตา “บิ๊กตู่” ส่งสัญญาณจะปรับครม.หรือไม่ หากปรับต้องเดินเกมเร็ว เพื่อลดแรงต่อรองให้ได้มากที่สุด และอาจจะไม่ยื้ดเยื้อแรมเดือน ดำเนินการเสร็จสิ้นหลังศึกซักฟอก 2 สัปดาห์ เพื่อลดแรงกระเพื่อม

ไทม์ไลน์การเมืองไทย หลากเรื่องร้อนรับต้นปี 2563 หลายเรื่องฮอตรอวันให้ “บิ๊กตู่” แก้ปมปัญหา ที่ไม่สะดวกเหมือนกับกดปุ่ม ม.44 อีกต่อไป!