Commerce sector (4 ก.พ.63)

Commerce sector (4 ก.พ.63)

ประมาณการ 4Q62: SSSG อ่อนแอ

Event

ประมาณการ 4Q62 และอัพเดตแนวโน้มกลุ่มการพาณิชย์

lmpact

ประมาณการ 4Q62: SSSG อ่อนแอ

เราคาดว่ากำไรสุทธิรวมใน 4Q62 ของหุ้นกลุ่มการพาณิชย์ที่เราดูแลอยู่ ซึ่งได้แก่ CP ALL PCL (CPALL.BK/ CPALL TB), Siam Global House PCL (GLOBAL.BK/ GLOBAL TB), Home Product Center PCL (HMPRO.BK/ HMPRO TB) และ Siam Makro PCL (MAKRO.BK/ MAKRO PCL) จะอยู่ที่ 9.3 พันล้านบาท (-1.6% YoY แต่ +3.7% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะมาจากปัจจัยฤดูกาลในขณะที่กำไรที่ลดลง YoY จะมาจาก SSSG และการบริโภคที่อ่อนแอ ทั้งนี้ เราคาดว่า SSSG ใน 4Q62 ของกลุ่มการพาณิชย์จะอยู่ในช่วงระหว่าง -2.0% และ 4.0% ซึ่งจะทำให้ SSSG เฉลี่ยในปี 2562 อยู่ที่ 3.0% ลดลงจาก 3.8% ในปี 2561

แนวโน้มการบริโภคยังไม่ชัดเจน

เราคาดว่าแนวโน้มการบริโภคในปี 2563 ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากมีปัจจัยที่กดดันอยู่หลายตัว ได้แก่ i)ภาวะการบริโภคที่อ่อนแอซึ่งทำให้ CCI ลดลงมาอยู่ที่ 68.3 ในเดือนธันวาคม 2562 (ลดลงติดต่อกันมา 10 เดือนแล้ว จาก 82.0 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562) ii) สถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งคาดว่าจะฉุดให้ผลผลิตภาค
เกษตรปี 2563 ลดลง 10% ส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของตลาดค้าปลีก 0.5% และตลาดการก่อสร้าง 1.5% iii) การระบาดของ Coronavirus ซึ่งเราคาดว่าจะกระทบกับอัตราการเติบโตของการบริโภค 0.5% โดยอิงจากจากสมมติฐานอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงระหว่าง -10% และ -15% iv) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ประสบผลเนื่องจาก spending bundle ไม่ใหญ่พอ (~1.0%ของตลาดค้าส่งและค้าปลีก: Figure 3) เพราะข้อจำกัดของนโยบาย และ v) แคมเปญงดแจกถุงพลาสติก

ปรับสมมติฐาน SSSG และปรับลดประมาณการกำไรของหุ้นทั้งกลุ่มลง

เราปรับลดสมมติฐาน SSSG ของกลุ่มการพาณิชย์ในปี 2563 ลง 1.4% และปี 2564 ลง 0.8% เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มการบริโภคที่ไม่สดใส ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ของเราลดลง 4.2% และปี 2564 ลดลง 5.1% ส่งผลให้อัตราการเติบโตของกำไรกลุ่มการพาณิชย์ในปี 2563 อยู่ที่ 7.6% และปี 2564 อยู่ที่ 11.5%

ปรับลดนํ้าหนักหุ้นกลุ่มการพาณิชย์จาก Overweight เหลือแค่ Neutral

ถึงแม้ว่าราคาหุ้นกลุ่มการพาณิชย์จะค่อย ๆ ปรับลดลงในช่วงประมาณ 9% - 19% ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ SET ที่ -12.6% แต่เราคาดว่าภาวะตลาดจะยังคงกดดันต่อเนื่องเพราะ i) แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจยังมี downside อีกจากการระบาดของ Coronavirus และ ii) ยังมี downside อีกจากประเด็นที่ตีเป็นตัวเลขไม่ได้ อย่างเช่น การรณรงค์งดแจกถุงพลาสติก และการนำมาตรฐานบัญชีใหม่มาใช้ ทั้งนี้ เนื่องจากเราคาดว่ากว่าจะฟื้นตัวยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้น เราจึงปรับลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มการพาณิชย์จาก Overweight เป็น Neutral โดยเราแนะนำให้จับตาดูความคืบหน้าทางด้านของรัฐบาลอย่างเช่นเรื่อง พรบ. งบประมาณ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการบรรเทาวิกฤติภัยแล้ง ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค และอาจจะเร่งการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภคได้ เราคาดว่าจังหวะที่เหมาะจะกลับเข้าซื้อหุ้นคือ 2H63 หรือมื่อเห็นความคืบหน้าของกระบวนการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน

Valuation & Action

เราให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มการพาณิชย์ที่ Neutral โดยเลือก CPALL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม และให้ราคาเป้าหมาย DCF สิ้นปี 2562 ที่ 88 บาท ใช้ WACC ที่ 8.0% risk-free ที่ 3.1% และ terminal growth ที่ 2.5% เราชอบ CPALL มากกว่าหุ้นอื่นในกลุ่มจากแนวโน้มการเติบโตของกำไร และเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งถึงประมาณ 11,000 ร้าน ในขณะที่ราคาหุ้นก็น่าสนใจ โดยคิดเป็น PER ที่ 25.5X (อิงจากประมาณการกำไรปี 2563) เมื่อเทียบกับของหุ้นอื่นในกลุ่มที่ 26.7X

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง เกิด disruption จากเทคโนโลยีใหม่ ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ทางการ การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ขยายสาขาได้น้อยเกินคาด และ การหาทำเลเปิดสาขาใหม่