ซัพพลายเออร์เอเชียเตือนแอ๊ปเปิ้ลโคโรนาป่วนแผนผลิตไอโฟน

ซัพพลายเออร์เอเชียเตือนแอ๊ปเปิ้ลโคโรนาป่วนแผนผลิตไอโฟน

ซัพพลายเออร์เอเชียเตือนแอ๊ปเปิ้ลโคโรนาป่วนแผนผลิตไอโฟน แม้บริษัทเผยยอดสั่งซื้อไอโฟนรุ่นเก่าๆช่วงไตรมาส4เพิ่มขึ้นเป็น 65 ล้านเครื่อง

บรรดาซัพพลายเออร์ที่ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์สมาร์ทโฟนเตือนบริษัทแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างหนักในขณะนี้ อาจทำให้แผนเพิ่มกำลังการผลิตไอโฟน 10% จากที่แอ๊ปเปิ้ลเคยขอให้ซัพพลายเออร์ผลิตไอโฟนประมาณ 80 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ไม่เป็นไปตามที่บริษัทแอ๊ปเปิ้ลตั้งความหวังไว้

แอ๊ปเปิ้ล ซึ่งรายงานผลประกอบการไตรมาส4 หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาด เปิดเผยว่า มียอดสั่งซื้อไอโฟนรุ่นเก่าเพิ่มขึ้นเป็น 65 ล้านเครื่อง ส่วนใหญ่เป็นไอโฟน ซีรีส์ 11 ส่วนรุ่นใหม่ที่จำหน่ายราคาถูก ที่บริษัทมีแผนเปิดตัวในเดือนมี.ค.ปีนี้ มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 15 ล้านเครื่อง โดยข้อมูลของจีเอฟ ซิเคียวริตีส์ ระบุว่า ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แอ๊ปเปิ้ล มียอดสั่งซื้อไอโฟนอยู่ที่ 73 ล้านเครื่อง ซึ่งบรรดานักวิเคระห์ในอุตสาหกรรม มั่นใจว่าปีนี้ ยอดสั่งซื้อไอโฟนจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม บรรดาซัพพลายเออร์ในเอเชียของแอ๊ปเปิ้ล เตือนว่าแผนเพิ่มกำลังการผลิตไอโฟนของบริษัทอาจไม่เป็นไปตามเป้าที่แอ๊ปเปิ้ลวางไว้ เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ เนื่องจากศูนย์กลางการผลิตของเหล่าซัพพลายเออร์เหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองเหอหนาน และมณฑลกวางตุ้งซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก อีกทั้งในเหอหนานและกวางตุ้ง มีรายงานยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อจำนวนกว่า 100 คน ส่วนในเซี่ยงไฮ้ มีรายงานพบผู้ติดเชื้อกว่า 50 คน

158026069639

“สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อสายการผลิตไอโฟนที่วางเอาไว้เนื่องจากจีนประกาศปิดเมืองกว่า10แห่งเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาด”หนึ่งในกลุ่มผู้บริหารบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ไอโฟนให้แอ๊ปเปิ้ล กล่าว

แต่ไม่ได้มีแค่แอ๊ปเปิ้ลเท่านั้น ที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัวโคโรนา วีเวิร์ก ธุรกิจสตาร์ทอัพของสหรัฐ ซึ่งให้บริการปล่อยเช่าพื้นที่ในอาคาร ก็แถลงผ่านเว็บไซท์บริษัทว่าได้ตัดสินใจปิดสำนักงานบางแห่งของบริษัทในประเทศจีนเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นไปตามมาตรการบังคับ และเพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้า

สำนักงานบางแห่งของวีเวิร์กปิดทำการตามตามคำแนะนำของรัฐบาลจีนไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 9 ก.พ. โดยสำนักงานมากกว่า 50 แห่งของบริษัทในหังโจว เซี่ยงไฮ้ ซูโจว เสิ่นเจิ้น และอู่ฮั่น ได้รับผลกระทบ พร้อมกันนี้ บริษัทกำลังตรวจสอบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานรัฐบาลและสาธารณสุขเพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

สำนักงานทั้งหมดของวีเวิร์กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กำลังดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยบริษัทสนับสนุนให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหากเป็นไปได้ และทำงานในออฟฟิศส่วนตัวหรือในห้องประชุมขณะที่อยู่ในสถานที่ทำงานของบริษัท

ส่วนมาตรการในสำนักงานของวีเวิร์กที่ยังคงเปิดทำการรวมถึง การลดจำนวนผู้เยี่ยมชมสำนักงาน การตรวจสอบอุณหภูมิพนักงาน การจำกัดอาหารว่างและเครื่องดื่มในห้องอาหาร รวมไปถึงการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเป็นพิเศษ

158026068575

ผู้บริหารบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ให้แอ๊ปเปิ้ล ย้ำว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนอย่างมากและเกิดปัญหาท้าทายต่างๆตามาในกระบวนการผลิตทั้งไอโฟนและแอร์พ็อด เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทั้ง2ตัวนี้ส่วนใหญ่ผลิตในจีน

เรื่องนี้เป็นข้อกังวลของ‘เทอร์รี กั๊วะ’ ผู้ก่อตั้งบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเทรดในตลาดในนามบริษัทฮอนไห่ พรีซิชัน อินดัสตรี และเป็นผู้ผลิตไอโฟนรายใหญ่สุดของโลก กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขารู้สึกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พร้อมทั้งเตือนว่าเชื้อไวรัสนี้แพร่ระบาดเร็วมาก เนื่องจากการเดินทางของชาวจีนจำนวนมากในช่วงเทศกาลตรุษจีนและปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเครือข่ายห่วงโซ่อุปทาน

“เรากำลังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะใช้มาตรการใดที่เหมาะสมเพื่อป้องกันพนักงานของบริษัทไม่ให้ติดเชื้อในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลตรุษจีน”กั๊วะ กล่าว หลังจากนี้วันเดียว ทางการอู่ฮั่นก็ถูกปิดห้ามประชาชนเดินทางเข้าออก

ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ เตือนว่า ไวรัสโคโรนาอาจจะฉุดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ขณะนี้ก็อยู่ในภาวะชลอตัวอยู่แล้ว และอาจจะทำให้ธุรกิจการค้าในท้องถิ่นทำรายได้ลดลง โดยเฉพาะในส่วนของสินค้าเพื่อผู้บริโภคอย่างสมาร์ทโฟน

“เศรษฐกิจจีนอยู่ในช่วงขาลงเพราะการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอยู่แล้ว หากรัฐบาลจีนควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาไม่ได้ จะยิ่งทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ เนื่องจากอุตสาหกรรมต่างๆจะได้รับผลกระทบถ้วนหน้ากัน”โฆษกสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของไต้หวัน ให้ความเห็น