สธ.เสริมบุคลากร 5 พันคนหมุนเวียนสกัดไวรัสโคโรน่า

สธ.เสริมบุคลากร 5 พันคนหมุนเวียนสกัดไวรัสโคโรน่า

สธ.เสริมบุคลากร 5 พันคนหมุนเวียนสกัดไวรัสโคโรนา เผยผู้ป่วยติดเชื้อล่าสุด 3 รายอาการดีขึ้น ยืนยันไทยไม่มีกรณีเสียชีวิต สถานการณ์ไม่แพร่ระบาดในประเทศ ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติ เฝ้าระวังเต็มที่คนอู่ฮั่นตกค้างไทย

          เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ประจำวันที่ 27 ม.ค.2563 กล่าวว่า ณ วันที่ 26 ม.ค.2563 ในประเทศไทยยังมีผู้ป่วยยืนยัน 8 ราย และมีผู้ที่เข้าเกณฑ์สงสัยต้องเฝ้าระวังสะสม 102 คน ในจำนวนนี้กลับบ้านแล้ว 54 คน โดยโรคที่เจอส่วนใหญ่เป็นไข้หวัด ยังรักษาอยู่ในรพ. 48 คน แต่ไม่ได้หมายความจะต้องเป็นผู้ที่ติดไวรัสตัวใหม่นี้ทุกคน ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้ป่วยืนยันราว 10 %ของผู้ที่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง
“ตอนนี้ไทยยังสามารถรักษาผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จำนวน 8 ราย ได้ 100 % โดย 5 รายหายดี แพทย์อนุญาตให้ออกจากรพ.แล้ว ส่วนอีก 3 รายที่เป็นกรณียืนยันล่าสุด อาการทั่วไปดีขึ้นมาก”นพ.สุขุมกล่าว
          นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า สธ.มีมาตรการคุมเข้มระดับสูงสุดอยู่แล้ว และเพิ่มการคัดกรองสายการบินจากกวางโจว และฉางชุนด้วย ขณะนี้เพื่อรองรับสถานการณ์ต้องการบุคลากรทางการแพทย์อีก 5 พันคน เข้าไปเสริมการทำงานของทีมบุคลากรของกรมควบคุมโรค จึงได้สั่งการให้บุคลากรจากรพ.ในสังกัดโดยรอบจังหวัดที่มีการตั้งจุดสกัดเพื่อสลับหมุนเวียนกันทำงานให้ 100 % ซึ่งขณะนี้มีเพียงพอ ยังไม่จำเป็นต้องเปิดรับอาสาสมัคร โดยยืนยันว่าบุคลากรเหล่านี้มีศักยภาพในการรับมือโรคระบาดเช่นเดียวกัน
         นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การรักษาผู้ป่วย 8 รายที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนานั้นให้การรักษาตามอาการ มีไข้ ให้ยาลดไข้ ให้สารน้ำ ให้อ็อกซิเจน และให้พักผ่อนให้เพียงพอ จนผ่านพ้นระยะหนึ่ง จนร่างกายต่อสู้โรคเองได้ และรักษาอาการแทรกซ้อน

       ด้านนพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า มาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางจากประเทศจีน ได้พิจารณาเพิ่มการคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากเมืองฉางชุนเพิ่มเติม และหากเมืองอื่นๆในจีนที่มีความเสี่ยงในการระบาด ประเทศไทยก็จะคัดกรองเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่วันที่ 24-26 ม.ค.2563 ที่มีการเพิ่มการคัดกรอง โดยจากกวางโจว 11 เที่ยวบิน จำนวน 1,501 คน และฉางชุน 1 เที่ยวบิน จำนวน 363 คน
        “ ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ ประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยมีการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจอื่นๆตามฤดูกาล ดังนั้น อยากให้ประชาชาฝึกปฏิบัติหากป่วยควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้บุคคลอื่น” นพ.ธนรักษ์กล่าว
     ต่อข้อถามนักท่องเที่ยวอู่ฮั่นที่ยังตกค้างในไทย มีความจำเป็นต้องเฝ้าระวังหรือไม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สนามบินสุวรรณภูมิมีความรวดเร็วมากในการดำเนินการ โดยมีการเปิดศูนย์อำนวยการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่สนามบินตั้งแต่วันที่ทางการจีนประกาศปิดเมือง ซึ่งในการส่วนของการเฝ้าระวังโรค ได้ขอความร่วมมือทุกฝ่ายในการเฝ้าระวังสังเกตอาการของนักท่องเที่ยว หากป่วยด้วยอาการไอ มีไข้ และอาการทางระบบทางเดินหายใจ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไวรัสนี้เป็นโรคใหม่ ตัวเลขหลายส่วนยังไม่มั่นใจ เช่น ระยะฟักตัวนานแค่ไหน แต่ใช้ตัวเลขประมาณการจากเชื้อไวรัสโคโรน่าอื่นๆ คือ 14 วัน ซึ่งหากนักท่องเที่ยวที่ตกค้างในไทยมาท่องเที่ยวเกิน 14 วันแล้วไม่ป่วย ก็น่าจะปลอดเชื้อ
     นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า จากการที่ประชุมหารือร่วมกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิล่าสุด ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจีนท่องเที่ยวอยู่ 2 หมื่นคนเข้ามาก่อนที่จะปิดประเทศ คนกลุ่มนี้กำลังทยอยเดินทางกลับ โดยสารการบินที่นำเข้ามาเพื่อไปส่งที่สนามบินใกล้ๆ เจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังอยู่ว่ามีอาการป่วยหรือมีอาการอะไรหรือไม่ ปัจจุบันยังเป็นปกติ