'แอมเนสตี้' กดดันทางการไทยหยุดดำเนินคดี 'แฟลชม็อบ'

'แอมเนสตี้' กดดันทางการไทยหยุดดำเนินคดี 'แฟลชม็อบ'

“แอมเนสตี้” กดดันทางการไทยหยุดดำเนินคดีนักกิจกรรม-นักการเมืองฝั่งตรงข้ามจัด “แฟลชม็อบ”

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” ออกแถลงการณ์ขอให้ทางการไทยยุติการกลั่นแกล้งทางกฎหมายต่อขั้วตรงข้ามทางการเมือง นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักกิจกรรม หลังจากเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการทางกฎหมายต่อสมาชิกพรรคอนาคตใหม่และนักกิจกรรมเนื่องจากการชุมนุมสาธาณะโดยสันติ

แอมเนสตี้ ชี้ว่า คดีความเกิดขึ้นหลังจากการรวมตัวของประชาชนชาวไทยนับพันคนที่ปรากฏตัวในช่วงเย็นของวันที่ 14 ธันวาคม เพื่อประท้วงโดยการจัดกิจกรรม “แฟลชม็อบ” เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น และจังหวัดอื่นๆ ในแถบภาคเหนือและภาคอีสาน เป็นผลเนื่องมาจากวันที่ 11 ธันวาคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่ามีมติส่งคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่

นอกจากนี้ แอมเนสตี้ยังรับรู้ถึงการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตั้งข้อหาต่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และบุคคลอื่นๆ ว่าได้รวมตัวชุมนุมกันอย่างผิดกฎหมาย และละเมิด พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะฯ ด้วยการใช้เครื่องเสียง ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการกล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ แจ้งข้อหาต่อหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่พร้อมกับ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ อีก 3 คน ได้แก่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ความว่า กลุ่มดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตชุมนุม  รวมทั้งการชุมนุมนั้นอยุ่ในรัศมี 150 เมตรจากเขตพระราชฐาน และกีดขวางการจราจร ยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และละเมิดรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 6 หากพบว่ากระทำผิดจริง จะถูกจำคุกสูงสุด 7 ปี ในส่วนของการชุมนุมที่เชียงใหม่ที่จัดขึ้นโดยเฟซบุ๊กแฟนเพจ “สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย” ก็ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินการแจ้งข้อหาว่า ไม่รายงานการชุมนุมล่วงหน้า โดยอาจจะถูกปรับเงินสูงสุด 10,000 บาท

แอมเนสตี้ขอให้เจ้าหน้าที่หยุดใช้ พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะฯ มาจำกัดสิทธิในการรวมตัวชุมนุมอย่างเกินความเหมาะสม รวมถึงการใช้กฎหมายมาตรา 116 ว่าด้วยเรื่องยุยงปลุกปั่น ที่ถูกนำมาใช้มากมายหลายครั้งเพื่อขัดขวางการแสดงออกของนักกิจกรรม นักปกป้องสิทธิมนุษยชน สื่อมวลชน และนักกฎหมาย

แอมเนสตี้ยังเรียกร้องให้มีการยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างประเทศที่ไทยได้ลงนามและให้สัตยาบันไว้ ภาครัฐต้องเคารพ ปกป้อง ยกระดับ และส่งเสริมสิทธิในการแสดงออก และสิทธิในการรวมตัวชุมนุมและรวมกันเป็นสมาคมกันอย่างสันติ

157728676813