เจรจาการค้ายังหนุน

เจรจาการค้ายังหนุน

คาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,615 - 1,620 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตาม sentiment เชิงบวกความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index อ่อนตัวลง -5.42 จุด (-0.34%) ปิดที่ระดับ 1,609 จุด ด้วย Volume 8.7 หมื่นล้านบาท โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากข่าวการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนเฟสแรกใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว อย่างไรก็ตามแรงขายปรับพอร์ท MSCI ที่เพิ่มน้ำหนักหุ้น A-share ของจีนขึ้นอีก 5% เป็น 20% กดดันให้ดัชนีทรุดตัวลงในแดนลบช่วงปิดตลาด ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,027 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,598 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX จำนวน 25,120 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลาง-บวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,615 - 1,620 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตาม sentiment เชิงบวกความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนโดยปธน.ทรัมป์เผยว่าอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลง ประกอบกับประธาน FED แสดงมุมมองเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐทั้งการใช้จ่าย ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อีกทั้งครม.ออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯซึ่งช่วยหนุนต่อบรรยากาศการลงทุนอีกด้วย อย่างไรก็ตามควรระวัง Fund Flow ต่างชาติที่ค่อนข้างผันผวนซึ่งจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่ม Global Play อานิสงส์ความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน PTTEP, TOP, PTTGC, IVL, HANA, KCE
  • กลุ่มอสังหาฯ (SPALI PSH LPN) อานิสงส์ครม.ออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯรอบใหม่
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 4Q19 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ GPSC, CPF, AOT, ERW, TASCO, EPG, SAWAD, MTC, JMT, BCH, CHG, BDMS

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CPF (ปิด 26.25 ซื้อ/เป้า 33.5) ทยอยสะสมมองราคาหุ้นลดลงสะท้อนข่าวแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์หมูแอฟริกาไปแล้ว ขณะที่ปัจจุบันราคาหมูในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากระดับ 55 บาทต่อ ก.ก. เป็น 60 บาทต่อก.ก. เช่นเดียวกับราคาหมูเวียดนามที่ฟื้นตัวขึ้นกว่าเท่าตัวจากระดับ 33,000 ดองต่อ ก.ก. ขึ้นเป็น 60,000 ดองต่อก.ก. ในปัจจุบันคาดว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการ 3Q19 และ 4Q19 ฟื้นตัว
  • BCH (ปิด 17.1 ซื้อ เป้า IAA Consensus 20 บาท) กำไรสุทธิยังเติบโตดี ระยะสั้นยังมี story และ Upside จากประเด็นการขอปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม โดยปกติจะมีการเจรจาเพื่อปรับค่ารักษาพยาบาลกันทุก 2 ปี (BCH ปรับขึ้นราคาครั้งสุดท้าย เมื่อเดือน ก.ค.ปี 2017)

บทวิเคราะห์วันนี้

       Thailand Strategy (ยุทธการสี่ขา)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) จีนและสหรัฐให้ข้อมูลในทิศทางเดียวกัน โดยคาดว่าทั้งสองประเทศจะบรรลุข้อตกลงข้อพิพาทการค้าเฟสแรกเร็วๆนี้: ประธานาธิบดีระบุว่าสหรัฐและจีนกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงการค้า ซึ่งเชื่อว่าข้อตกลงนี้จะช่วยปลดชนวนสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมานานกว่า 16 เดือน ซึ่งคำพูดของ ทรัมป์ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับจีนโดยกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่าคณะผู้แทนเจรจาระดับสูงของสหรัฐและจีนได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์อีกครั้งและกำลังจะได้ข้อสรุปร่วมกันในเร็วๆนี้ เบื้องต้นเราคาดว่าจีนและสหรัฐน่าจะมีการจัดประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการร่วมกันอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อบรรลุข้อตกลงก่อนที่สหรัฐจะเดินหน้าขึ้นภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ในช่วงวันที่ 15 ธ.ค.19
  • (+) ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวคาดหวังสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ (+0.6%) ปิดที่ระดับ 58.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยมีแรงหนุนจาก 2 ปัจจัยคือ 1) มีความหวังเชิงบวกว่าจีนกับสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันเฟสแรกในเร็วๆนี้ และ 2) คาดตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลง โดยตลาดคาดว่า EIA จะรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลงประมาณ 4 แสนบาร์เรล ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์
  • (+) ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ เน้นช่วยเหลือกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก, เกษตรกร และภาคอสังหาฯ: วานนี้ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติ 5 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ ประกอบด้วย 1) ให้เงินสนับสนุนกองทุนหมู่บ้าน 200,000 บาท ต่อมูลบ้านวงเงินรวม 14,348 ล้านบาท, 2) สนับสนุนสินเชื่อชุมชนผ่าน ธกส. อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เป็นเวลา 3 ปี มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท, 3) พักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้านเป็นเวลา 1 ปี, 4) ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 500 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาท  และ 5) ช่วยลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) บ้านจำนวน 50,000 บาทต่อราย จำนวน 100,000 ราย โดยผู้เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน โดย 4 มาตรการแรกจะเป็นบวกต่อกลุ่ม ค้าปลีก วัสดุก่อสร้าง CPALL, BJC, DOHOME, GLOBAL และกลุ่ม ไฟแนนซ์ MTC, SAWAD, GCAP ส่วนมาตรการที่ 5 เป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ Top pick: AP และ SPALI