‘ฮ่องกงโพลียู’ฐานที่มั่นเพื่อประชาธิปไตย

‘ฮ่องกงโพลียู’ฐานที่มั่นเพื่อประชาธิปไตย

‘ฮ่องกงโพลียู’ฐานที่มั่นเพื่อประชาธิปไตย นับเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งสำคัญของผู้ชุมนุม จากที่เคยใช้วิธีเลื่อนไหลไปตามจุดต่างๆ โดยไม่รู้ล่วงหน้า มาเป็นการปักหลัก ณ จุดใดจุดหนึ่งชัดเจน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็เหลือที่โพลียูในย่านเกาลูนที่เดียวที่ต้านทานตำรวจ

“จำไว้นะ ชีวิตอยู่ในอุ้งมือคุณ ทำไมต้องผลักดันพวกเราไปสู่ความตาย” เสียงใครคนหนึ่งตะโกนจากดาดฟ้ามหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค (โพลียู) ฐานที่มั่นที่ผู้ประท้วงอีกหลายร้อยคนยังยึดไว้พร้อมเตรียมการรับมือตำรวจปราบจลาจลเข้ามาสลายการชุมนุมขณะที่บางคนก็สวมหน้ากากป้องกันก๊าซและกางร่มหาทางหลบออกไปจากมหาวิทยาลัย

โพลียูเป็น 1 ใน 5 มหาวิทยาลัยสำคัญที่ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงใช้เป็นฐานที่มั่นเมื่อสัปดาห์ก่อน นับเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งสำคัญของผู้ชุมนุม จากที่เคยใช้วิธีเลื่อนไหลไปตามจุดต่างๆ โดยไม่รู้ล่วงหน้า มาเป็นการปักหลัก ณ จุดใดจุดหนึ่งชัดเจน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็เหลือที่โพลียูในย่านเกาลูนที่เดียวที่ต้านทานตำรวจไว้ได้

สถานการณ์ตึงเครียดเมื่อวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ผู้ประท้วงที่เข้าไปปักหลักในโพลียูเตรียมระเบิดเพลิง ธนู และอื่นๆ ที่พอจะหาได้พร้อมรับมือการบุกเข้ามาของตำรวจ เจ้าหน้าที่ถูกยิงด้วยลูกศรเข้าที่ขาบาดเจ็บ 1 นาย รถหุ้มเกราะของตำรวจถูกเผา 1 คัน

ด้านตำรวจก็ระดมฉีดน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมีเข้าใส่ผู้ชุมนุม หลายคนบาดเจ็บผิวหนังไหม้ สำนักงานโรงพยาบาลฮ่องกงเผยว่า การเผชิญหน้ากันตลอดคืนวันอาทิตย์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 38 คน

ช่วงก่อนรุ่งสางวันจันทร์ (18 พ.ย.) ตำรวจรุกคืบเข้ามาถึงแนวกั้นตรงประตูหน้ามหาวิทยาลัย ผู้ประท้วงล่าถอยเข้าไปภายใน พร้อมจุดไฟเผาประตูและสะพานข้าม บางคนหารือกันเรื่องหาทางหนีออกไป พร้อมกับที่คนอื่นๆ นำเครื่องกีดขวางเข้าไปเสริม และถือกล่องระเบิดเพลิงไปวางไว้รอบมหาวิทยาลัย

ประชาชนและผู้ประท้วงอีกหลายพันคนหลั่งไหลกันมาในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยทั้งจิมซาจุ่ย จอร์แดน และเหยาหม่าเต๋ ปะปนเข้าไปในแนวตำรวจปราบจลาจลเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่ติดอยู่ในโพลียู

“ถ้าเราต้านได้จนถึงรุ่งเช้า จะมีคนมาเติมอีก”นักเคลื่อนไหวรายหนึ่งกล่าว

โพลียูเผยแพร่คลิปวีดิโอสารจากเติ้ง จิน กวงประธานมหาวิทยาลัย ผ่านทุกช่องทางออนไลน์ ระบุว่า เขาได้เจรจาหยุดยิงกับตำรวจ เพื่อเปิดทางให้ผู้ประท้วงในมหาวิทยาลัยออกไปโดยสงบ แต่ก็ไม่แน่ชัดว่า การเจรจาดังกล่าวได้ผลหรือไม่ แต่ผู้ประท้วงบางคนก็ยืนยันว่า พวกเขาไม่มีวันยอมมอบตัว

“เราติดอยู่ในนี้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราต้องสู้จนถึงที่สุด ถ้าเราไม่สู้ ฮ่องกงก็จบ” อาห์ ลัง ผู้ประท้วงวัย 19 ปียืนยันหนักแน่น

ล่วงเข้าเช้าวันจันทร์สถานการณ์ในโพลียูยังคงตึีงเครียดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 สถานีโทรทัศน์อาร์ทีเอชเครายงานว่า ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงได้หลายสิบคนบริเวณใกล้มหาวิทยาลัยในช่วงเช้า และเตือนว่า พร้อมใช้กระสุนจริงหากผู้ก่อจลาจลยังคงใช้อาวุธร้ายแรงถึงแก่ชีวิต

สำหรับผู้ชุมนุม พวกเขาต้องการตอบโต้การใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจ

“พวกเราตอบโต้ตำรวจ เรายังสู้ได้ไม่มากพอ ผมเตรียมตัวเข้าคุกแล้ว พวกเรากำลังสู้เพื่อฮ่องกง” จอริส วิศวกรโยธาวัย 23 ปี หนึ่งในผู้ร่วมสมรภูมิโพลียูเปิดใจกับสำนักข่าวรอยเตอร์

ยิ่งเวลาล่วงเลยผู้ประท้วงในโพลียูยิ่งตกที่นั่งลำบาก เมื่อเสบียงกรังและเวชภัณฑ์ร่อยหรอ

“เราติดอยู่ในนี้นานเกินไปแล้ว เราอยากให้ชาวฮ่องกงทุกคนรู้ว่าพวกเราต้องการความช่วยเหลือ ผมไม่รู้ว่าเราจะอยู่อย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน อาจต้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ” แดน ผู้ประท้วงวัย 19 ปี กล่าวทั้งน้ำตา

ส่วนทหารจากกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) ที่เข้ามาช่วยเหลือทำความสะอาดพื้นที่ในฮ่องกงตั้งแต่วันเสาร์ (15 พ.ย.) ทำให้หลายฝ่ายหวาดวิตกว่าฮ่องกงจะเป็นเทียนอันเหมิน 2 หรือไม่ เหมือนกับเมื่อช่วงเดือน ส.ค. ที่จีนส่งทหารมาฝึกในค่ายเสิ่นเจิ้นฝั่งตรงข้ามฮ่องกง ที่ตอนนั้น “อ้าย เว่ยเว่ย” ศิลปินผู้ท้าทายรัฐบาลจีนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ตามเวลาเยอรมนีที่เขาพำนักอยู่ บอกเล่าถึงความห่วงใยที่มีต่อผู้ประท้วง

“ผมไม่คิดว่าการคาดการณ์แบบนี้จะตื่นตูมเกินเหตุ จีนเป็นสังคมที่ยอมสละทุกอย่างเพื่อรักษาการควบคุมเอาไว้ให้ได้ ตอนการประท้วงเริ่มต้นเมื่อ2เดือนก่อน ผมเตือนแล้วว่า ถ้ารัฐบาลปักกิ่งจัดการให้การประท้วงยุติไม่ได้ สุดท้ายแล้วก็ต้องใช้ความรุนแรง ไม่มีวิธีอื่น จะไม่มีการเจรจาหรือต่อรอง นี่ไม่ใช่ทักษะที่ปักกิ่งมี พวกเขามีแต่ทหารและตำรวจ”ศิลปินวัย 61 ปีให้ความเห็นที่ยังคงใช้ได้กับสถานการณ์ตอนนี้

ขณะที่อู๋เจี้ยน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนที่กำลังประชุมด้านความมั่นคงอยู่ในกรุงเทพฯ กล่าววานนี้ว่า ชาวฮ่องกงที่อาศัยอยู่ใกล้ค่ายพีแอลเอออกมาทำความสะอาดถนน ทหารจึงต้องออกไปช่วยเหลือและได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดี

“ภารกิจสำคัญที่สุดที่เรามีในฮ่องกงคือยุติความรุนแรงและฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อยกลับคืนมา” โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนย้ำชัด