ลาซาด้าอัดแคมเปญ ชิงอีคอมเมิร์ซไทย คาดปี 68 พุ่ง 5.4 แสนล.

ลาซาด้าอัดแคมเปญ ชิงอีคอมเมิร์ซไทย คาดปี 68 พุ่ง 5.4 แสนล.

“ลาซาด้า” ชูไทยตลาดทำเงินภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเมินอีคอมเมิร์ซโตมหาศาลคาดปี 68 ทะลุ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ อัดแคมเปญการตลาด พัฒนาระบบโลจิส ติกส์ ล่าสุดโหมกลยุทธ์ชิงดำวันคนโสด 11.11 ผนึกพันธมิตรร้านค้า แบรนด์ จัดหนักโปรโมชั่น-กิจกรรมบันเทิง

ชี้ไทยตลาดทำเงินภูมิภาคอาเซียน โอกาสเติบโตสูง ตั้งเป้ายอดคำสั่งซื้อเติบโตไม่น้อยกว่า 100%

อาลีบาบา ยักษ์อีคอมเมิร์ซระดับโลกวาง “ลาซาด้า” ไว้เป็นหัวหอกเจาะขุมทรัพย์อีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึง “ไทย” ที่คาดว่าอีคอมเมิร์ซจะเติบโตได้อีกถึง 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 5.4 แสนล้านบาทในปี 68 ส่งผลให้สมรภูมินี้คึกคักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดลาซาด้าโหมแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี 11.11 ตั้งเป้ายอดสั่งซื้อเพิ่มกว่า 100%

นายแจ็ค จาง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า มหกรรมช้อปปิ้ง 11.11ได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงนักช้อปชาวไทย มีส่วนในการขับเคลื่อนธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยให้เติบโตขึ้น

ทั้งนี้ ลาซาด้า ถือเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค ด้วยจำนวนผู้ใช้งานแอคทีฟมากกว่า 50 ล้านคนต่อปี และมีการเติบโตของจำนวนคำสั่งซื้อมากกว่า 100% เมื่อเทียบสถิติแบบปีต่อปีติดต่อกันในช่วงสี่ไตรมาสที่ผ่านมา

ขณะที่เศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคนี้เติบโตอย่างมาก ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เติบโตราว 20-30% ขณะทีี่ เวียดนามและอินโดนีเซียเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตเติบโตราว 40% ซึ่ิง อีคอมเมิร์ซยังเป็นเซกเตอร์หลักของเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคนี้ที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ปี 2568

หวังยอดโต100%แคมเปญ11.11

นางสาวภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ลาซาด้าเตรียมโหมกิจกรรมทางการตลาดอย่างเต็มที่เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการอีคอมเมิร์ซประเทศไทยในเทศกาล 11.11 มหกรรมชอปปิงออนไลน์ครั้งใหญ่แห่งปี

ทั้งนี้ มาในธีม “Lazada 11.11 Biggest One Day Sale วันเดียวได้ทุกดีล” โดยปีนี้บริษัทได้มีการลงทุนทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งการทำมิวสิคมาร์เก็ตติ้งโดยดึงศิลปินชั้นนำมาร่วมสร้างกระแส พร้อมสานต่อการทำตลาดด้วยกลยุทธ์ชอปเปอร์เทนเมนท์ นำความบันเทิงทั้งเพลง เกม การถ่ายทอดสด กิจกรรมโอทูโอ พร้อมด้วยรายการวาไรตี้ เข้ามาผสมผสานทำให้ประสบการณ์การชอปปิงมีสีสันมากขึ้น มากกว่านั้นไฮไลต์ยังมีโปรโมชั่นส่วนลด รวมถึงคูปองส่วนลดกว่า 111 ล้านคูปอง

สำหรับสินค้าขายดีสามอันดับแรก คาดว่าอันดับ 1 จะเป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมไปถึงโทรศัพท์มือถือและแทบเล็ต ตามมาด้วยสุขภาพความงามและอาหารเสริม และแม่และเด็กตามลำดับ ด้านกลุ่มเป้าหมาย หลักๆ อายุระหว่าง 18-34 ปี

“เทศกาลชอปปิง 11.11 เป็นวันที่จะมีการจัดแคมเปญลดราคาที่แรงที่สุดในรอบปี เรามั่นใจว่าปีนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากผู้บริโภคไม่ต่างกับปีที่ผ่านๆ มา บริษัทตั้งเป้าไว้ว่ายอดคำสั่งซื้อจะเติบโตเป็นตัวเลขสามหลัก หรือมากกว่า 100%”

อย่างไรก็ดี นักชอปจะได้รับประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล รวมไปถึงสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายๆ ด้วยแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) มากกว่านั้นลาซาด้ายังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในไทยเปิดตัว “Stamp Hunt” ยกระดับกิจกรรมออฟไลน์สู่ออนไลน์ ซึ่งผู้บริโภคสามารถเข้าไปใช้บริการในร้านค้าพันธมิตรเพื่อสแกนคิวอาร์โค้ดรับแสตมป์สะสมเพื่อแลกรับของรางวัลตามต้องการ

ลาซาด้าเผยว่า เมื่อปี 2561 มหกรรมชอปปิง 11.11 สร้างสถิติใหม่ในประเทศไทย ด้วยยอดคำสั่งซื้อจำนวนมากกว่า 2.4 แสนครั้งในเวลาหนึ่งชั่วโมงแรก เทียบกับปี 2560 มีจำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดในแคมเปญเพิ่มมากขึ้นถึง 287%

เครือข่ายโลจิสติกส์ใหญ่สุด

อีกสถิติที่น่าสนใจ ในวันดังกล่าวเพียงวันเดียวมียอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือมากกว่า 4 หมื่นเครื่อง กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงามมียอดขายมากกว่า 8.6 แสนชิ้น กลุ่มสินค้าแม่และเด็กเติบโตมากกว่าช่วงเวลาปกติถึง 22 เท่า

ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าว มาจากเครือข่ายโลจิสติกส์ที่แข็งแรงและปัจจุบันมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย มากกว่านั้นเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าด้วยจุดรับสินค้าทั่วประเทศกว่า 25 แห่งภายในห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป และเทสโก้โลตัส ขณะเดียวกันช่องทางการชำระเงินมีความหลากหลายครอบคลุมทุกช่องทางทั้งบนโมบาย ออนไลน์ และบริการเก็บเงินปลายทาง อีกหนึ่งจุดต่างมีเทคโนโลยีโซลูชั่นที่เอื้อประโยชน์ให้ทั้งกับผู้บริโภคและผู้ขาย

ลาซาด้าเผยด้วยว่า จำนวนผู้ใช้งานลาซาด้าวอลเล็ตในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบระหว่างเดือนต.ค.2562 กับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 189%

อย่างไรก็ดี ด้วยอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซไทยยังมีสัดส่วนเพียง 3% ของอุตสาหกรรมค้าปลีก ดังนั้นโอกาสการเติบโตยังมีอยู่สูงมาก ปีนี้มีการคาดการณ์ไว้ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยจะมีมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มไปถึง 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2568

157295679538

โซเชียลฮิต-ช้อปออนไลน์โต

นอกจากนั้น อีกปัจจัยบวกยังมาจากการที่ไทยติดอันดับท็อป 10 การใช้งานโซเชียลมีเดีย วันนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้บริโภคเริ่มมีความคุ้นเคยกับอีคอมเมิร์ซแล้ว อีกทางหนึ่งในสภาวะที่การแข่งขันทวีความรุนแรงมากขึ้นได้ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรม ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ ด้านผู้เล่นแต่ละรายมีการตื่นตัวพยายามผลักดันกลยุทธ์ต่างๆ ออกมาแข่งขันกันมากขึ้น

ขณะที่ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอไม่ได้ส่งผลกระทบกลับกันยิ่งเป็นตัวขับเคลื่อนให้คนหันมาชอปปิงออนไลน์กันมากขึ้น เนื่องจากต้องการค้นหาดีลหรือสินค้าที่ราคาดีที่สุด ในทิศทางเดียวกันจะเป็นโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซด้วย

สำหรับลาซาด้า ขณะนี้ไทยเป็นตลาดที่สร้างสัดส่วนรายได้ให้มากที่สุดในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แนวทางธุรกิจจากนี้ยังคงมุ่งผลักดันการค้าออฟไลน์สู่ออฟไลน์ให้ได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะเติบโตได้เป็นตัวเลขสามหลักในทุกๆ ปี

ลาซาด้าครองตำแหน่งผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตได้เร็วที่สุด มีผู้ใช้งานเป็นประจำกว่า 50 ล้านคนต่อปี เมื่อเทียบสถิติแบบปีต่อปีติดต่อกัน ในช่วงสี่ไตรมาสที่ผ่านมายอดคำสั่งซื้อเติบโตกว่า 128% แต่ละวันมียอดการค้นหาสินค้าด้วยภาพกว่า 30 ล้านครั้ง 157295682250 157295685519