Fed ลดดอกเบี้ยตามคาด

คาด SET แกว่งตัว 1,595 – 1,610 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็น 1.75% ตามคาด

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ดีดตัวขึ้น +10.62 จุด (+0.67%) ปิดที่ระดับ 1,601 จุด ด้วย Volume 6.6 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแรงซื้อ Sector rotation เข้ากลุ่ม Global play ได้แก่ พลังงาน, ปิโตรฯ และอิเล็กฯ ตามความคาดหวังการประชุม Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ประกอบกับแรงซื้อ Cover short กลุ่มธนาคารที่ทรุดตัวลงแรงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงขายทำกำไรกลุ่มโรงไฟฟ้าหลัง Valuation เริ่มตึงตัว ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 470 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,700 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX จำนวน 750 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,595 – 1,610 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็น 1.75% ตามคาดเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจและรองรับความเสี่ยงจาก Trade war อย่างไรก็ตาม Fed ได้ส่งสัญญาณพักการปรับลดดอกเบี้ยในช่วงถัดไปส่งผลให้ทิศทาง Fund flow ยังคงชะลอตัว นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดโดยเพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรลจะเป็นลบต่อ sentiment กลุ่มพลังงาน อีกทั้งการสลับกลุ่ม Sector rotaion จะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางการลงทุนในช่วงนี้ให้มีความผันผวน

** วันนี้ 31 ต.ค.ติดตามงบ 3Q19 ของ ADVANC คาดกำไรสุทธิ 8.5 พันล้านบาท +10%qoq ,+25%yoy

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

หุ้นที่คาดงบ 3Q19 เติบโต GPSC, BGRIM, ADVANC, BCH, CHG, EPG, TASCO ,PRM, JMT, JMART, BGC
กลุ่มไฟแนนซ์ MTC, SAWAD ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, TTW, CPALL

หุ้นแนะนำวันนี้

ADVANC (ปิด 238 ซื้อ/เป้า 260 บาท) คาดกำไรสุทธิ 3Q19 จะออกมาเพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิ 8.5% พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 10%qoq และ 25%yoy ส่วนการประมูล 5G จากค่าประมูลตั้งต้นที่ลดลงและเทอมการจ่ายชำระที่ผ่อนคลาย ช่วยคลายกังวลให้กับตลาดซึ่งก่อนหน้ากลัวว่าการประมูล 5G จะเข้ามาฉุดกำไรของกลุ่มสื่อสาร
CHG (ปิด 2.54 ซื้อ/เป้าสูงสุด IAA Consensus 2.7) คาดผลกำไรผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว และจะเห็นกำไรที่เร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 3Q19 โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้ประกันสังคมที่ฟื้นตัว โรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง ขาดทุนลดลง และยังมี Upside ในการปรับค่ารักษาพยาบาลกลุ่มลูกค้าประกันสังคมเพิ่มคล้ายกับ BCH (ค่ารักษาส่วนประกันสังคมจะมีการปรับทบทวนราคาทุกๆ 2 ปี โดยปรับครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2017)

บทวิเคราะห์วันนี้

PTTEP (ปิด 122.5 ซื้อ/เป้าใหม่ 135 เดิม 160), ICT sector (Top pick: ADVANC, DTAC และ INTUCH)

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) Fed ลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด แต่ส่งสัญญาณชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป : คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของสหรัฐมีมติ 8-2 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% นับเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้และเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ อย่างไรก็ตามเฟดส่งสัญญาณที่จะพักการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดๆไป จากการถอดประโยคสำคัญคือ "เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน" สอดคล้องกับคาดการณ์ความน่าจะเป็นของเฟดในการประชุมครั้งถัดไปมีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 81.5% ขณะที่ความน่าจะเป็นที่เฟดจะลดดอกเบี้ยมีเพียง 18.5% ตลาดหุ้นยังตอบในทางบวกจาก 1) Fed ลดดอกเบี้ยช่วยลดต้นุทนของเงินทุน และ 2) Fed ส่งสัญญาณพักการลดดอกเบี้ยสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล
(+) ชิลีประกาศยกเลิกประชุม APEC เดือนหน้า แต่จีนกับสหรัฐยังยืนยันจะลงนามข้อตกลงการค้าบางส่วนตามเดิม : วานนี้ ชิลี ออกมาประกาศยกเลิกการจัดประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย -แปซิฟิก (APEC) ในเดือนหน้าเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยหลังจากเกิดเหตุจลาจลในประเทศ ประเด็นนี้ทำให้ตลาดกังวลว่าอาจจะทำให้การลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐหยุดชะงัก แต่ล่าสุดมีข่าวดีเมื่อสหรัฐออกแถลงการณ์ว่าสหรัฐและจีนจะยังจัดให้มีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกตามกำหนดการเดิม โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือว่าจะใช้สถานที่ใดในการจัดประชุมเพื่อทดแทนการประชุม APEC ที่ยกเลิกไป
(+) ADVANC ประกาศงบวันนี้คาดกำไรสุทธิเติบโตทั้ง qoq และ yoy ส่วนประมูล 5G จะไม่กดกำไรเหมือน 4G : วันนี้ ADVANC จะประกาศงบ 3Q19 เบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิประมาณ 8.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%qoq และ 25%yoy ส่วนการประมูล 5G ที่ภาครัฐเตรียมที่จะจัดประมูลในช่วงต้นปีหน้าเรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นเมื่อเทียบกับการเข้ารับฟังข้อมูลในหลายๆครั้งที่ผ่านมา เนื่องจาก 1)ภาครัฐกำหนดราคาประมูลตั้งต้นลดลงหรือไม่ได้แพงเมื่อเทียบกับประมูล 4G และ 2) Term การชำระเงินค่อนข้างผ่อนคลาย โดยกำหนดให้จ่ายค่าไลเซนต์เพียง 10% ในปีที่ 1 และให้พักชำระค่าใบอนุญาติในปีที่ 2-4 จากนั้นกลับมาชำระในอัตรา 15% ในงวดที่ 5-10 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนและ Cash flow ของผู้ประกอบการไม่ตึงตัวมากเกินไปส่งผลดีต่อการให้บริการและผลประกอบการในระยะยาว