ลุ้นเจรจาสงครามการค้า (อีกรอบ)

ลุ้นเจรจาสงครามการค้า (อีกรอบ)

จีนและสหรัฐกลับมาเจรจาการค้ากันใหม่ในวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ภายใต้บรรยากาศคุกรุ่น ผู้เชี่ยวชาญเองก็ไม่คาดหวังผลอะไรมาก แค่เลื่อนการเก็บภาษีรอบต่อไปออกไปก็ถือว่าดีเยี่ยมแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญเผยกับเว็บไซต์ซีเอ็นบีซีว่า เป็นไปได้มากที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเห็นชอบข้อตกลงการค้าฉบับย่อ ยกเลิกภาษีบางส่วนลงก่อนสิ้นปี แล้วเลื่อนประเด็นยากบางเรื่อง เช่น ทรัพย์สินทางปัญญาและการถ่ายโอนเทคโนโลยีไปคุยกันรอบหน้า

การเจรจารอบนี้ถือเป็นการคุยกันของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นครั้งแรกในรอบสองเดือน ท่ามกลางบรรยากาศระอุ เมื่อผู้จัดการทีมบาสเก็ตบอล      “ฮิวสตัน ร็อกเกตส์” ทวีตข้อความผู้ประท้วงฮ่องกง จีนจึงลดจำนวนการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องของเอ็นบีเอหลายรายการ รวมทั้งยกเลิกการถ่ายทอดสดด้วย

ด้านสหรัฐก็ขึ้นบัญชีดำบริษัทจีน 28 แห่ง ด้วยข้อกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมในซินเจียง บริษัทที่โดนเล่นงานรวมถึงบริษัทรุ่นใหม่ที่ทำเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และการเรียนรู้ของเครื่องจักร ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐเคยขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีนมาแล้วโดยอ้างเรื่องการจารกรรมไซเบอร์

ขณะเดียวกัน รัฐบาลปักกิ่งก็คาดหวังถึงความสำเร็จของการประชุมน้อยลง หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ รายงานเมื่อวันพุธ (9 ต.ค.) ว่า การเจรจาระดับรัฐมนตรีช่วยเมื่อวันที่ 7-8 ต.ค.ไม่คืบหน้า ส่วนการประชุมระดับรัฐมนตรีจะลดจาก 2 วัน เหลือวันที่ 10 ต.ค.วันเดียว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าววงในว่า ตัวแทนเจรจาจากจีนเป็นฝ่ายเปิดเกมให้เจรจาทำข้อตกลงการค้าฉบับย่อกับสหรัฐ แต่ไม่น่าจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า ทางการจีนเสนอซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อแสดงความตั้งใจดี โดยซื้อถั่วเหลืองเพิ่มจาก 20 ล้านตันเป็น 30 ล้านตัน

อีธาน แฮร์ริส หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจโลกจากธนาคารอเมริกาเมอร์ริลลินช์ มองว่า โอกาสดีลกันในสัปดาห์นี้มีน้อย เขาเชื่อว่าน่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ย. หรือต้นเดือน ธ.ค. น่าจะได้ข้อตกลงเล็กๆ ขยายโอกาสซื้อสินค้าให้หัวเว่ย และจีนก็อ่อนข้อให้ด้วยการซื้อถั่วเหลืองและเนื้อสุกร ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก

บรรดานักยุทธศาสตร์เผยว่า กระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำให้คณะเจรจาของจีนเชื่อว่า ทรัมป์จำเป็นต้องชนะในบ้าน แต่พวกเขามองว่า การเลือกตั้งเป็นตัวเร่งปฏิกริยาที่ใหญ่กว่าทั้งต่อทำเนียบขาวและจีน เอลิซาเบธ วอร์เรน ส.ว.เดโมแครตที่กำลังมาแรงมีคะแนนนำมาในทุกโพล ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นอย่างไร และถ้าเธอได้รับเลือกตั้งอาจเล่นบทโหดเรื่องสิทธิมนุษยชนและอื่นๆ กับจีน มากกว่าทรัมป์

แต่นักยุทธศาสตร์ก็มองด้วยว่า จีนอาจอยากรอให้พ้นการเลือกตั้งไปก่อนเพื่อดูว่าใครจะได้มานั่งโต๊ะเจรจา สำหรับทรัมป์หลายคนคาดว่า เขาพยายามทำข้อตกลงให้ได้ก่อนเลือกตั้ง

“คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีเกี่ยวข้องกันอย่างมากกับข้อตกลงที่จะทำกับจีน” แดน คลิฟตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยนโยบายบริษัทสเตรทเตอจัสกล่าวและว่า เร็วๆ นี้อาจมีการบรรลุข้อตกลงกันสักฉบับ แต่เนื้อหาไม่ได้ครอบคลุมเท่าที่ทำเนียบขาวต้องการ เป็นไปได้ว่าข้อตกลงฉบับย่อนี้เป็นก้าวแรก ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ ภาษีที่เก็บกันหนักข้อขึ้นในเดือน พ.ค.เริ่มสร้างความเสียหายให้กับทั้งสองฝ่าย

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเสริมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนตึงเครียดขึ้น การจะบรรลุข้อตกลงแบบครอบคลุมย่อมเป็นไปได้น้อย ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันมากกว่าเดิม อีกทั้งบรรยากาศก่อนการเจรจาก็ไม่เอื้ออำนวย

เอียน เบรมเมอร์ ประธานยูเรเซียกรุ๊ป กล่าวว่า แหล่งข่าวของเขาในวอชิงตันไม่ได้มีความหวังว่าจะได้คำตอบใหม่ๆ ส่วนทางด้านจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงก็ไม่ไว้ใจทรัมป์อีกต่อไป

“เขาใช้ต้นทุนทางการเมืองไปมากพอสมควรในการเจรจากับทรัมป์ โดยเฉพาะในการเจรจาทวิภาคีนอกรอบการประชุมจี20 สีอาจมองว่าทรัมป์เป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้ เขาไม่ควรไว้ใจทรัมป์”