ขาดปัจจัยใหม่สนับสนุน

ขาดปัจจัยใหม่สนับสนุน

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้น คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาค คาดว่าตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป

ประกอบกับคาดว่าแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนจะเป็นไปในทิศทางที่ดี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,613.71 จุด (+7.75 จุด) Volume 4 หมื่นลบ. ต่างชาติ +127.58 ลบ. TFEX Net +3,245 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -866 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 95.70 จุด -0.36% หลังจากมีรายงานว่าจีนไม่ต้องการทำข้อตกลงการค้าในวงกว้างตามที่ทรัมป์ต้องการ ซึ่งได้บดบังปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

- ทำเนียบขาวเผยตุรกีเตรียมบุกซีเรียตอนเหนือ ขณะกังวลชะตากรรมชาวเคิร์ด

- สหรัฐขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีจีน 8 แห่ง อ้างละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมในมณฑลซินเจียง

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 6 เซนต์ -0.11% ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 นอกจากนี้ตลาดยังจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

เลขาฯโอเปกยันยังเร็วเกินไปที่จะหารือปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -1.1 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.46 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่จะมีขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค. อย่างใกล้ชิด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,610-1,625 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive Stock (Beta <1 yield >5%) (TISCO SPF RSP TWPC DIF GPI)
  • ชิมช้อปใช้ (ROBINS BJC MAKRO SPA ERW TNP CPALL)
  • หุ้นเด่นเดือนต.ค. (JUBILE ARROW TNP)

หุ้นรายงานพิเศษ

INSET เข้าเทรดตลาด mai วันนี้

  • ผู้ให้บริการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ, ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจซ่อมบำรุงและให้บริการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม
  • ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทมียอด Backlog ที่ระดับ 2.7 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ 2-3 ปี และมีโครงการในอนาคตที่มีศักยภาพ เช่น โครงการ USO Phase 2 (Zone C) งานซ่อมบำรุง USO Phase 1&2 งานโครงการสายสื่อสารลงดินของกทม. และงานโครงการ Google Station เพื่อให้คนเข้าถึงบริการ Internet โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนติดตั้งเครือข่าย โดยจะได้รายได้ค่าเช่าระบบเป็นระยะเวลา 5 ปี
  • INSET เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 146 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 50 บาท คิดเป็น 26.1%ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และหลังจากการเสนอขายหุ้น กลุ่มตระกูลพุกกะณะสุต จะถือหุ้นสัดส่วน 49.21% โดยบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนหลังไอพีโอ จำนวน 280 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นทั้งหมด 560 ล้านหุ้น
  • ราคาไอพีโอที่ 2.69 บาท มีค่าP/E ที่ระดับ13.70 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าP/E ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีธุรกิจที่ใกล้เคียงกันอยู่ที่ระดับ 16 เท่า

หุ้นมีข่าว   

(+) ORI (Bloomberg Consensus 10.10 บาท)  เปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส "สมาร์ท ซิตี้ รามอินทรา" มูลค่า 6,000 ล้านบาท แบ่งพัฒนา 3 เฟส "คอนโดมิเนียม-โรงแรม-พื้นที่ค้าปลีก-สำนักงาน" กำหนดเปิดให้บริการปี 65 ตั้งเป้าเพิ่มโรงแรมในพอร์ตเป็น 10 แห่ง ภายในปี 66 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) RATCH (Bloomberg Consensus 74.53 บาท) จ่อปิดดีลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่มี PPA แล้วอย่างน้อย 1 โครงการภายในสิ้นปีนี้ พร้อมลุยลงทุนโรงไฟฟ้าทุกรูปแบบในเวียดนามคาดชัดเจนปีหน้า นอกจากนี้จ่อสรุปพันธมิตรร่วมทุนโรงไฟฟ้าหินกอง 1,400 เมกะวัตต์ในเร็วๆ นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(-) SCN (Bloomberg Consensus 4.17 บาท)  ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 10% จากเดิมคาดโต 30% หลังภาครัฐพิจารณาประมูลรถโดยสารใหม่ พร้อมไม่บังคับเปลี่ยนรถตู้เป็นมินิบัสแล้ว เดินหน้าขยายโซลาร์รูฟท็อป เตรียมเปิดตัวพาร์ตเนอร์และเซ็นสัญญากับลูกค้าในวันที่ 11 ต.ค.นี้ วางเป้า 4 ปี ครบ 110 MW (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+) GSTEL (Bloomberg Consensus - บาท) เตรียมเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 11 ต.ค.นี้ เพื่อขออนุมัติแปลงหนี้เป็นทุนกว่า 9,000 ล้านบาท โดยอนุมัติจัดสรรและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 22,078.58 ล้านหุ้น ราคา 0.19 บาท ให้เจ้าหนี้ 8 ราย หวังดันส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก 5,377 ล้านบาท ลดความเสี่ยงเข้าข่ายถูกเพิกถอนออกจากตลท. (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TEAMG (Bloomberg Consensus - บาท)  จ่อเซ็นโรงไฟฟ้า ในลาว-เวียดนาม มูลค่าราว 80 ล้านบาท คาดชัดเจนไตรมาส 4/2562 งานใหม่ทยอยเข้าเพียบ เติมแบ็กล็อกนิวไฮทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ 30% ด้านรายได้เข้าเป้าโต 10%  (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DOHOME (Bloomberg Consensus - บาท) ไตรมาส 4/2562 เข้าไฮซีซัน มองธุรกิจซ่อมแซม และตกแต่งยังเติบโตดี แม้ตลาดวัสดุก่อสร้างชะลอตัว หวังดัน SSSG โค้งหลังปรับตัวดีขึ้น จากครึ่งปีแรกติดลบ 4.3% เดินหน้าลุยเพิ่มสัดส่วนรายได้สินค้าแบรนด์ตนเอง ดันอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)