“ม็อบฮ่องกง-แอมเนสตี้”โวยกม.ห้ามใส่หน้ากาก
กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเนล ต่างพากันประณามการออกกฎหมายฉุกเฉินของรัฐบาลฮ่องกงในการห้ามกลุ่มผู้ประท้วงสวมหน้ากากในการชุมนุม
“ดิฉันโกรธมากที่รัฐบาลออกกฎหมายฉุกเฉินเพื่อมาจัดการกับพวกเรา” ผู้ชุมนุมรายหนึ่งกล่าว
ด้านแกนนำการชุมนุมได้เรียกร้องให้ผู้ชุมนุมยังคงสวมหน้ากากได้ตามที่ต้องการ แม้รัฐบาลมีการออกกฎหมายฉุกเฉินดังกล่าว
ส่วนนายโจชัว โรเซนวิก หัวหน้าสำนักงานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเนล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก กล่าวว่า การที่รัฐบาลฮ่องกงออกกฎหมายฉุกเฉินในวันนี้ ถือเป็นความพยายามที่จะสกัดการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงรัฐบาล
“รัฐบาลฮ่องกงไม่ควรใช้กฎหมายฉุกเฉินในการปูทางสำหรับการคุมเข้มในการจัดการต่อกลุ่มผู้ประท้วง เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพสิทธิของผู้ประท้วงในการชุมนุมอย่างสันติ และงดเว้นการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตในการปิดปากผู้ชุมนุม” นายโรเซนวิกกล่าว
ทั้งนี้ นางแคร์รี หล่ำ ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประกาศห้ามกลุ่มผู้ประท้วงสวมหน้ากาก ซึ่งถือเป็นการออกกฎหมายฉุกเฉินครั้งแรกนับตั้งแต่อังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงกลับคืนสู่จีนในปี 2540
นางหล่ำ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อหยุดยั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการประท้วง และช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการบังคับใช้กฎหมาย
คำสั่งห้ามสวมหน้ากากจะมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันศุกร์(4ต.ค.) โดยมีการกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี และปรับสูงสุด 25,000 ดอลลาร์ฮ่องกง แต่จะอนุญาตให้สวมหน้ากากได้หากมีเหตุผลทางศาสนา อาชีพ หรือทางการแพทย์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ม็อบฮ่องกงโวยถูกแก๊งอันธพาลทำร้าย
-'ศ.ดร.เอนก' วิเคราะห์ 'ฮ่องกง: อดีต ปัจจุบัน และอนาคต'
-'กลุ่มประท้วงฮ่องกง' ยืนหยัดกลางพายุฝน
-ม็อบฮ่องกงปะทะเดือดตำรวจปราบจลาจล