ม็อบฮ่องกงโวยถูกแก๊งอันธพาลทำร้าย

ม็อบฮ่องกงโวยถูกแก๊งอันธพาลทำร้าย

ภาคธนาคารเตือนความวุ่นวายทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน,ฮ่องกง

กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงจำนวนหลายพันคนพากันชุมนุมที่สถานีรถไฟใต้ดินเหยินหลงเมื่อวันพุธ(21ส.ค.) เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังจากที่เกิดเหตุการณ์แก๊งอันธพาลกลุ่มหนึ่งได้ดักทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมในสถานีรถไฟใต้ดินดังกล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว แต่จนถึงบัดนี้ ยังคงไม่มีการจับกุมตัวผู้กระทำความผิด

อย่างไรก็ดี ตำรวจได้ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สถานีดังกล่าวในวันนี้ โดยผู้ประท้วงบางรายนำถังดับเพลิงฉีดใส่เจ้าหน้าที่ ขณะที่บางส่วนราดน้ำมันพืชบนพื้นเพื่อสกัดการเคลื่อนที่ของตำรวจ

ทั้งนี้ การชุมนุมของชาวฮ่องกงได้ลุกลามออกไปจากเดิมที่เป็นการประท้วงร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน กลายเป็นการชุมนุมเรียกร้องให้นางแคร์รี หล่ำลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และเรียกร้องให้มีประชาธิปไตยในฮ่องกง รวมทั้งให้ฮ่องกงเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่

การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญสำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แนะนำให้ปธน.สี จิ้นผิงแก้ไขวิกฤตการณ์ในฮ่องกง ด้วยการพบปะกันเป็นการส่วนตัวกับกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย

ขณะที่ธนาคารแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย (บีอีเอ) ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกง ระบุว่า ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดจากการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนและฮ่องกง

นอกจากนี้ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อจีนและฮ่องกงเช่นกัน

"สถานการณ์ที่ตึงเครียดในฮ่องกงจะฉุดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในฮ่องกง หากไม่มีการหาแนวทางแก้ไขในไม่ช้า" แถลงการณ์ของ บีอีเอ ระบุ

"สถานการณ์ในฮ่องกงขณะนี้ ได้สร้างความวิตกกังวลต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เนื่องจากหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ภาคค้าปลีก รวมทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ดี คุณภาพของสินทรัพย์ในฮ่องกงยังคงมีความแข็งแกร่ง" บีอีเอ ระบุ