เส้นทางผู้ว่าฯกทม.“ชัชชาติ” ฝ่าด่านขั้วการเมือง

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยพร้อมชิง “ผู้ว่าฯ กทม.”ในนามอิสระ ในสนามเลือกตั้งเมืองหลวงอีกไม่นานนี้

เป็นเสียงยืนยันที่ชัดเจนจากจากชัชชาติ เมื่อ 2 ต.ค.62 หลังมีกระแสข่าวเตรียมหันหลัง “เพื่อไทย”

เป็นการประกาศตัว คล้อยหลังไม่กี่สัปดาห์ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เขาเป็นหนึ่งในผู้จัดตั้งกลุ่ม “ขับเคลื่อนไทย” หรือ “Thai Move” ที่รวมตัวของนักวิชาการ นักการเมืองข้ามค่าย เพื่อแลกเปลี่ยน เรื่องนโยบายของประเทศ เพื่อรองรับวิกฤติการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ถือเป็นการตั้งต้น เตรียมเซ็ตทีม มาลงแข่งในสนาม กทม. โดยจุดพลุ “สูตรใหม่” ในสารบบทางการเมืองไทย

ถึงแม้ว่า นาทีนี้ ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่หากนับจากปฏิทินงบประมาณ ที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2563 มีงบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอไว้ทั้งหมด 1,780 ล้านบาท โดยจะแบ่งนำมาใช้กับการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ 97,940 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ก็ต้องรอให้ผ่านการพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ แล้วนำร่างกฎหมายงบประมาณขึ้นทูลเกล้าฯ ในช่วงเดือน ม.ค.2563 หมายความว่า ตัวเลขงบประมาณที่ กกต.นำไปใช้จัดการเลือกตั้งท้องถิ่น จะเกิดขึ้นเร็วที่สุด ระหว่างไตรมาสแรกของปี 2563

แน่นอนว่า ก่อนไปถึงการเคาะวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. การประกาศตัวของ “ชัชชาติ” คราวนี้ ได้ชิงพื้นที่ เปิดตัวบนหน้าสื่อ ก่อนพรรคการเมืองอื่นไปแล้ว เป็นความได้เปรียบที่ชัชชาติจะเลือก “เก็บแต้ม” ในพื้นที่ก่อนพรรคการเมือง ที่ยังอยู่ภาวะฝุ่นตลบ

ขณะนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสโซเชียลมีเดียที่มีต่อชัชชาติ ยัง “ติดลมบน” ตั้งแต่สมัยเป็นรมว.คมนาคม โดยเฉพาะฐานเสียงคนรุ่นใหม่ ในโลกทวิตเตอร์ ยังพูดถึงชัชชาติในทุกมิติ ต่อปัญหาสังคมเมือง ที่ยังหาทางแก้ได้ไม่สิ้นสุด

หากย้อนไปดูเส้นทางของชัชชาติที่ผ่านมา เขามีตำแหน่งทางวิชาการเป็น รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปัจจุบันอายุ 53 ปี มีเล่นว่า “ทริป” เคยเป็นอดีต รมว.คมนาคม ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยเป็นอดีตผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ

ชัชชาติยังมีแฝดผู้พี่ รศ.นายแพทย์ ฉันชาย สิทธิพันธุ์ หรือ “ทัวร์” กรรมการแพทยสภาวาระ 2562-2564 และรองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯขณะที่เส้นทางการศึกษา “ชัชชาติ” จบมัธยมจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จบ “ปริญญาตรี” วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธา เป็นเกียรตินิยมอันดับ 1 จากจุฬาฯ“ปริญญาโท” 2 ใบจากวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโครงสร้าง จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ และบริหารธุรกิจ จุฬาฯ ขณะที่ “ปริญญาเอก” จบจากวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ สหรัฐอเมริกา ด้วยทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ประจำปี 2530

เส้นทางการเมือง มีจุดเริ่มต้นจากนักวิชาการ ก่อนจะมีจุดเปลี่ยน ตั้งแต่ผันตัวมาช่วยงาน และให้คำปรึกษากระทรวงคมนาคมในสมัยรัฐบาล“ทักษิณ 2” และรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช จนเมื่อปี 2555 ได้รับการทาบทามจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ในขณะนั้น ให้มารับตำแหน่งรมช.คมนาคม เมื่อเดือน ม.ค.2555 จากนั้นเพียงไม่นาน ได้ขยับเป็น รมว.คมนาคม เดือน ต.ค.ในปีเดียวกัน

ที่สำคัญชัชชาติยังเคยได้รับการแต่งตั้งโดยสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ 27 ก.ย.2560 ให้เป็นกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน แต่เขาไม่รับตำแหน่ง และได้ยื่นใบลาออกในวันที่ 2 ต.ค.2560 พร้อมยกคำพูดจาก Michael Porter กูรูด้านกลยุทธ์ ที่ว่าไว้ The essence of strategy is choosing what not to do. หรือ “แก่นแท้ของกลยุทธ์ คือการเลือกว่า อะไรไม่ควรทำ”

จนกระทั่งถึงการเลือกตั้งทั่วไป 24 มี.ค.2562 ชื่อของชัชชาติ ถูกดันขึ้นเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นอกเหนือจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และชัยเกษม นิติสิริ แต่ชัชชาติ กลับไม่ได้สมัครเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยให้เหตุผลเพียงว่า ไม่ถนัดงานด้านนิติบัญญัติ

ถึงแม้เพื่อไทยจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.62 แต่ชื่อของชัชชาติยังถูกพูดถึง ในฐานะตัวแทนพรรค เตรียมลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.

การสลัดภาพพรรคเพื่อไทยออก เพื่อลงสนามเลือกตั้งอิสระในครั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นกลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงประเด็นโจมตีทางการเมือง ที่มีภาพ “ทักษิณ ชินวัตร” อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นกลยุทธ์คู่ขนาน ให้ทุกแสงสปอตไลท์ฉายมาที่เขา จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

ในช่วงที่กระแสความเป็นพรรคการเมือง ยังขัดแย้งอย่างดุเดือด โดยเฉพาะคะแนนป๊อบปูล่าโหวต การเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ทั้งหมด 30 เขต พรรคอนาคตใหม่ได้เสียงมากที่สุด กว่าทุกพรรคการเมืองที่ 804,272 คะแนน จากผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 3,247,813 คน

เมื่อ “ชัชชาติ” เลือกจะลงสมัครในนามอิสระ แน่นอนว่า จะไม่ได้เห็นพรรคเพื่อไทย ส่งผู้สมัครในนามพรรค เพื่อมาตัดคะแนนกันเอง แต่ฝั่งพรรคอนาคตใหม่ ก็ไม่ปฏิเสธจะส่งผู้สมัคร

จากผลเลือกตั้งที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคยมั่นใจ

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่สนามเลือกตั้งท้องถิ่นเท่านั้น แต่กำลังยกระดับไปถึงเกมชิงอำนาจระหว่างขั้วการเมืองใหญ่ ดังนั้นเส้นทางสู่ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ของชัชชาติ จึงอาจเป็นเส้นทางโหด