ชุดพยัคฆ์ไพรยึดคืนสวนปาล์มน้ำมันสัมปทานกระบี่ หลังพบยังใช้พื้นที่ทำเรือนเพาะ

ชุดพยัคฆ์ไพรยึดคืนสวนปาล์มน้ำมันสัมปทานกระบี่ หลังพบยังใช้พื้นที่ทำเรือนเพาะ

พื้นที่สวนปาล์มอีกราว 20,00 ไร่ ต้องส่งมอบคืนตามระเบียบหลังหมดอายุสัมปทาน ที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพรระบุ

โดยวันนี้ ขุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ได้สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง จังหวัดกระบี่ ราว 100 นาย เข้าตรวจยึดคืนพื้นที่สวนปาล์มหมดสัมปทาน ในพื้นที่หมู่ที่ 8 .ปลายพระยา .ปลายพระยา รวม 350 ไร่ ซึ่งพบว่า พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่เพาะต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมัน และอีกแปลงเป็นพื้นที่ตั้งของสำนักงาน 

พื้นที่ทั้ง 2 แปลง ภายในมีการก่อสร้างตัวอาคารชั้นเดียว โรงเรือน และบ้านพักคนงานอีกหลายสิบหลัง

เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจแนวเขตพื้นที่ และทำบันทึกตรวจยึดทั้งหมด พร้อมประกาศแจ้งเตือนให้ทางบริษัทยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด(มหาชน) ดำเนินการขนย้ายทรัพย์สินทั้งหมด ออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน 

ส่วนทรัพย์สินที่เป็นตัวอาคารต่างๆ ให้คงไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด และจะเชิญผู้ครอบครองมารับทราบข้อกล่าวหา ยึดถือครอบครองในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม .14 ...ป่าสงวนแห่งชาติ ..2507 และผิดตาม .54 ...ป่าไม้ ..2484

บริษะทยูนิวานิชฯ ได้ขอเช่าสัมปทานเข้าทำประโยชน์จากกรมป่าไม้ เมื่อปี 2526 เนื้อที่รวม 20,000 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองปลายพระยา กำหนดระยะเวลาการเช่า 30 ปี 

กระทั่งเมื่อวันที่ 21 เม..56 สัญญาเช่าหมดอายุ ครม.มีมติไม่ให้ต่ออายุสัมปทาน และให้เรียกคืนพื้นที่ทั้งหมด แต่ต่อมาบริษัทยูนิวานิชฯ ได้ยื่นขออนุญาตเก็บหาของป่าอีก 2 ปี

เมื่อหมดสัญญาปี 2558 ทางบริษัทฯ ยื่นขอต่ออายุอีกครั้ง แต่กรมป่าไม้ ไม่สามารถต่อสัญญาให้ได้ ตามมติ ครม. ทางบริษัทฯ จึงยื่นคำร้องต่อศาล .กระบี่ ให้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยอ้างว่า มีพื้นที่บางส่วน 7,108 ไร่ กำลังอยู่ในระหว่างยื่นขอรังวัดเตรียมออกเอกสารสิทธิ์ ..3 . โดยเคยมีการขอสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ ก่อนมีการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ 

ศาลจังหวัดกระบี่ จึงมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 19 ..61 เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 1123/2561 ให้คุ้มครองชั่วคราว และห้ามไม่ให้กรมป่าไม้ และบริวาร เข้ารบกวนสิทธิในการครอบครองทำประโยชน์ของโจทก์ในที่ดินดังกล่าว และให้โจทก์เข้าทำการปกป้องคุ้มครอง ดูแลบำรุงรักษาให้น้ำ ใส่ปุ๋ย ฟื้นฟูต้นปาล์มน้ำมัน หรือเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันในที่ดินดังกล่าว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น 

ต่อมากรมป่าไม้ ยื่นคัดค้านคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ..62 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกระบี่ มีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองชั่วคราว และให้ดำเนินการผลักดันผู้ครอบครองออกจากพื้นที่

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่สวนปาล์มราว 20,000 ไร่ ถือว่าเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้แล้วและต้องส่งมอบคืนตามระเบียบโดยไม่ต้องตรวจยึดอะไรอีก แต่พื้นที่ 300 กว่าไร่ พบว่ายังมีการใช้พื้นที่อยู่ และมีผู้กระทำผิด จึงส่งชุดเข้าไปตรวจยึดพื้นที่และดำเนินคดีดังกล่าว