อินโดฯ เดินหน้าแผนกระตุ้นใช้จ่าย

อินโดฯ เดินหน้าแผนกระตุ้นใช้จ่าย

ขุนคลังอินโดนีเซียเผย เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉุกเฉิน หากเศรษฐกิจโลกเลวร้ายลง และยังมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายรอบใหม่

นางศรีมุลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในกรุงจาการ์ตา วานนี้ (27 ส.ค.) ว่า รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและปลุกความคึกคักให้เศรษฐกิจ ซึ่งเคยใช้มาแล้วในช่วงวิกฤติการเงินโลก เพื่อสนับสนุนการเติบโตภายในประเทศ หากจำเป็น

“มาตรการนี้อาจรวมถึงการยกเว้นภาษี ซึ่งจะทำให้รัฐขาดดุลงบประมาณมากขึ้น” นางอินทราวาตีระบุ และว่า “เราไม่ได้กำลังเผชิญกับภาวะถดถอยแต่กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากภายนอก หากคุณดูงบประมาณของอินโดนีเซีย หากคุณมองว่ามันเป็นศักยภาพ เราก็ยังมีศักยภาพที่จะดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง”

นอกจากนั้น รัฐมนตรีคลังรายนี้กล่าวว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียยังมีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต

นางอินทราวาตี เสริมว่า ทุกคนเอาแต่พูดถึงภาวะถดถอย เธอคิดว่ามันเป็นกระแสทำนายตามใจตัวเองไปแล้วในตอนนี้ “สำหรับอินโดนีเซีย เราต้องทำให้แน่ใจว่านโยบายของเราพร้อมรับมือเมื่อความท้าทายนี้เกิดขึ้น”

รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายให้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า ขณะที่ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งแล้วในปีนี้ เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจ ในขณะที่เกิดกระแสหวั่นวิตกว่าอาจเกิดภาวะถดถอยทั่วโลก

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% เหลือ 5.5% และส่งสัญญาณว่าจะลดอีกหลายครั้ง นอกจากนั้นยังคาดการณ์ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจอินโดนีเซียในปีนี้จะอยูู่ที่ 5.2% ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 5.3-5.6%

นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย แถลงหลังประกาศลดดอกเบี้ยว่า การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้าเพื่อรักษาทิศทางเศรษฐกิจต่อไป

“อินโดนีเซียโชคดีที่เศรษฐกิจยังขยายตัว แต่ก็ต้องคาดการณ์ถึงความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว”

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีโจโก วิโดโดได้ประกาศว่าในการบริหารสมัยที่ 2 รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการลดขั้นตอนยุ่งยากของระบบราชการและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

เศรษฐกิจของอินโดนีเซียยังคงขยายตัวในระดับ 5% ต่อปี ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่นายวิโดโดเคยรับปากเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมัยแรกว่าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัว 7% ต่อปี