สลับเด้งรีบาวด์

สลับเด้งรีบาวด์

คาด SET รีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,630 – 1,635 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว

ลาดหุ้นวานนี้: SET Index ทรุดตัวลงแรง -23.95 จุด (-1.45%) ปิดที่ระดับ 1,622 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.4 หมื่นล้านบาท ตอบรับสถานการณ์ Tradewar สหรัฐ-จีนที่รุนแรงขึ้นหลังจีนประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และสหรัฐตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 5% เป็น 30% เช่นกัน ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นแรงขายกลุ่ม Global play เช่น Petro, Energy, Etron ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,393 ล้านบาท และ Net Short TFEX จำนวน 11,019 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,838 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: เรามีมุมมองเป็นกลาง-บวก คาด SET รีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,630 – 1,635 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว โดยภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกได้ Sentiment บวกจากข่าวปธน.ทรัมป์แสดงความตั้งใจที่จะเจรจาการค้ารอบใหม่กับจีน และสอดคล้องกับฝั่งจีนที่พร้อมจะแก้ไขข้อพิพาททางการค้าเช่นกัน ซึ่งส่งผลให้ความกังวล Trade war ผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงขายสลับช่วงดีดตัวรวมถึงความผันผวนในช่วงปิดตลาดหลัง US Bond yield อายุ 10 และ 2 ปียังคงเป็น Inverted Yield Curve, เงินหยวนอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 11 ปีล่าสุด 7.15 Yuan/USD  อีกทั้งช่วงปิดตลาด MSCI จะมีการขายปรับพอร์ทเพื่อเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนขึ้นจาก 10 เป็น 15%

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มนิคมฯ (AMATA, WHA)  คาดได้อานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่จะประชุม 30 ส.ค.
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, THANI) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
  • กลุ่มเดินเรือ (PSL, TTA) อานิสงส์ค่าระวางกำลังขึ้นทดสอบ High ในรอบเกือบ 6 ปีล่าสุด 2,168 จุด
  • หุ้น Defensive stock (INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TPCH, TTW, CPALL)

หุ้นแนะนำวันนี้ : AOT (ปิด 70.5 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 81 บาท) ได้ Sentiment บวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 3.33 ล้านคนเพิ่มขึ้น 4.72%yoy เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นเป็น 9.8 แสนคน เพิ่มขึ้น 5.8%yoy เพิ่มขึ้น yoy เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน AOT ได้ประโยชน์เพราะเป็นด่านแรกก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย, BCH (ปิด 15.9 ซื้อ/เป้า 19 บาท) มองผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้วและจะเริ่มเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 3Q19 เนื่องจากเป็นช่วง High season ของธุรกิจ ขณะเดียวกันยังมี Upside จากประเด็นการขอปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลจากประกันสังคมเพราะบริษัทไม่ได้ปรับขึ้นค่ารักษาจากส่วนนี้มานานแล้ว (ขึ้นครั้งสุดท้ายคือ ก.ค.ปี 2017)

KSS report วันนี้: IVL ((ปิด 30.5 ซื้อ/เป้า 57 บาท)

ประเด็นสำคัญวันนี้:

  • (+) ดาวโจนส์บวก 270 จุด ตอบรับข่าวทรัมป์ระบุจีนพร้อมเจรจาการค้ารอบใหม่ แม้จีนจะออกมาปฏิเสธ: ดัชนีดาวโจนส์เกิด Technical rebound หลังจากที่ลดลงแรงกว่า 600 จุด ในวันก่อนหน้า โดยวานนี้ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 270 จุด (+1%) ปิดที่ระดับ 25,899 จุด เนื่องจากนักลงทุนตอบรับข่าวที่โดนัล ทรัมป์ ออกมาระบุว่าจีนได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับสหรัฐเพื่อเสนอให้มีการเจรจาร่วมกันใหม่ อย่างไรก็ตามดัชนีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งเริ่มไม่เชื่อมั่นต่อคำพูดของโดนัล ทรัมป์ และสับสนกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในตลาด เนื่องจากมีบางรายงานระบุว่าจีนไม่ได้ติดต่อเพื่อเจรจากับสหรัฐ และจีนไม่ได้ทำตามที่โดนัล ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์
  • (+) กลุ่มท่องเที่ยว - นักท่องเที่ยวจีนเดือน ก.ค.พลิกเป็นเพิ่มขึ้น yoy เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หนุนยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมเพิ่มขึ้น yoy ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2:: วานนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 3.33 ล้านคนเพิ่มขึ้น 4.72%yoy เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนยังเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยมากที่สุด โดยเดือน ก.ค. นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นเป็น 9.8 แสนคน เพิ่มขึ้น 5.8%yoy นับเป็นการเพิ่มขึ้น yoy เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ถือเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว นำโดย AOT, CENTEL, MINT และ ERW
  • (+/-) วันนี้ติตตามผู้ตรวจการแผ่นดินประชุมเพื่อพิจารณากรณีนายกฯถวายสัตย์ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161: เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ประชาชนและนักลงทุนให้ความสนใจโดยในวันนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะประชุมกันเพื่อหาข้อสรุปว่าปมการถวายสัตย์ของนายกฯขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 หรือไม่ เบื้องต้นเราแบ่งการพิจารณาเป็น 2 แนวทาง คือ 1) ผู้ตรวจการฯลงมติระบุว่าการถวายสัตย์ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองตัดสิน กรณีคาดว่าจะทำให้ตลาดตอบรับในทางบวก และ 2) ผู้ตรวจการฯไม่สามารถสรุปได้ว่าการถวายสัตย์ขัดหรือไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองตัดสินต่อไป กรณีนี้อาจจะทำให้ตลาดตอบรับในทางลบเพราะจะเป็น Overhang ของภาคการเมืองและตลาดต้องไปลุ้นบนคำตัดสินของศาลซึ่งหากออกมาในกรณีที่เป็น Worse Case คือ การถวายสัตย์ไม่ครบของนายกฯขัดต่อรัฐธรรมนูญ จะทำให้คำสั่งต่างๆที่ผ่านมาของนายกและรัฐบาลถือเป็นโมฆะด้วยหรือไม่ อาทิ การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการ