1600 จุดวัดใจ

1600 จุดวัดใจ

ดัชนีวานนี้ปรับตัวลงสวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาค แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากสหรัฐชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค.62

โดยระหว่างวันดัชนีขึ้นไปบวกสูงสุดกว่า 20 จุด อย่างไรก็ดี ดัชนีถูกกดดันจากกลุ่มแบงก์ใหญ่ นำโดย KBANK SCB BBL และ KTB หลังมีข่าวว่าได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR และ MRR ลง 0.25%  นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิกว่า 2 พันลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,619.45 จุด (-0.78 จุด) Volume 7.1 หมื่นลบ. TFEX Net +3,687 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -1,011 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+เยลเลนอดีตประธานเฟดเชื่อสหรัฐไม่มีแนวโน้มเกิดภาวะศก.ถดถอย

+พรุ่งนี้ประชุมนัดแรกครม.เศรษฐกิจ คาดจะเห็นแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ภายในเดือนส.ค.นี้

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 3.7 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.84 บาท/US

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 800.49 จุด -3.05% หลังจากตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในหลายประเทศ โดยเฉพาะการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 17 ปี และ GDP ของเยอรมนีที่หดตัวในไตรมาส 2

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบ 1.87 ดอลลาร์ -3.3% ปิด 55.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

*จับตา สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ยอดค้าปลีก ดัชนีภาคการผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยกดดันหนักจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงแรงจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ราคาน้ำมันร่วงแรง ส่งต่อ sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นในภูมิภาค  ประกอบกับปัจจัยลบภายในจากการที่ธนาคารขนาดใหญ่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,595-1,615 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30), หุ้น Defensive Stock (EASTW TTW BCH CPALL BJC),หุ้น High Dividend (SIRI QH TISCO KKP ANAN), หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกนง.ลดดอกเบี้ย (SAWAD AEONTS SPALI SIRI JASIF DIF)

หุ้นรายงานพิเศษ

CPN Analyst Meeting ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 81.92

2Q62 มีกำไรสุทธิ 4,218 ล้านบาท -1%yoy +0.2%qoq 1H62 กำไรสุทธิ 8,426 ล้านบาท +3.5% EBITDA margin 53.8% ลดลงจาก 54.5% ใน 1H61 อัตราการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้ารวมทั้ง 33 สาขาเฉลี่ย 92% ผลการดำเนินงานโดยรวมยังทำได้ตามเป้ารายได้รวม เติบโต 11-12% ครึ่งปีเติบโต 4.5%

โครงการใหม่ในอนาคตปี 62 ปลายส.ค.จะสาขาเซ็นทรัลวิลเลจ เฟส 1ปี 63 เปิด 3 สาขาในต่างจังหวัดทั้งหมด (สาขาอยุธยา )

หุ้นมีข่าว   

·      QH Analyst Meeting แนะนำถือ ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 3.38

·      2Q62 มีกำไรสุทธิ 593 ล้านบาท -32%qoq -30%yoy 1H62 กำไรสุทธิ 1,462 ล้านบาท -14% %NP ลดเหลือ 5.2% จากระดับ 11.8% ใน 1Q62 และ 12.3% ใน 2Q61 แม้ %GP ทรงตัวแถว ๆ 33.6% แต่ %SG&A เพิ่มขึ้นเป็น 24.6% จาก 17% ใน 1Q62 และ 2Q62 ทั้งนี้ ผลกระทบจากมาตรการ LTV แรงกว่าคาดทำให้โอนยากขึ้นและลูกค้าเข้าชมโครงการลดลง

·      ผู้บริหารจะพยายามรักษาแนวโน้มครึ่งปีหลังให้ใกล้เคียงกับปี 61 โดยคาด %GP จะดีขึ้นจากแผนเปิดขายโครงการใหม่ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 3.7 พันล้านบาท -2.3% IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 6.9% แนะนำถือลงทุนระยะยาวรับเงินปันผล

·      หุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ (KBANK KTB SCB BBL) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR และ MRR ลง  0.25% ทำให้คาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง กระทบผลการดำเนินงานในปีนี้  คาด Consensus จะปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง

·      CHAYO (แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเหมาะสม 5 บาท) ผลการดำเนินงาน inline

2Q62 มีกำไรสุทธิ 33.3 ล้านบาท +38%YoY เนื่องจากรายได้รวม +12%YoY จากรายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สินเติบโตดีมาก 98% ตามจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น %GP 67.4% ลดลงจาก 69.7% ในงวด 2Q61 แต่มีกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขาย 6.8 ล้านบาทส่งผลให้ %NP ปรับดีขึ้นเป็น 42.3% จาก 34.2% ใน 2Q61 กำไร 1H62 ทำได้ 56% ของประมาณการทั้งปีที่ 107.6 ล้านบาท คงประมาณการตามเดิม ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากแผนซื้อหนี้ NPL เพิ่มเติมพอร์ตบริหารหนี้

·      BEM (ราคาปิด 10.90 บาท Bloomberg Consensus 11.80 บาท) มั่นใจได้ต่อสัมปทานแลกยุติทุกข้อพิพาทกับกทพ. หลังแจงกรรมาธิการรัฐสภาจนเข้าใจ แถมผลเจรจาทำอย่างรอบคอบ ขณะที่ร่างสัญญาผ่านอัยการแล้ว เชื่อรัฐบาลชุดใหม่ไม่ยื้อ รีบชงครม.เหตุดอกเบี้ยแพ้คดีทางแข่งขันคิดเพิ่มรายวัน เหตุหากไม่จบรัฐเสี่ยงสูญเงินกว่า 3.26 แสนล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      NER (ราคาปิด 2.56 บาท ราคาเหมาะสม 3.10 บาท) คาดผลงานครึ่งปีหลังใกล้เคียงครึ่งปีแรก มั่นใจหนุนรายได้ทั้งปีตามนัด 1.35 หมื่นล้านบาท โชว์ออเดอร์ล่วงหน้ายาวถึงปี 63 และลุ้นรับออเดอร์ลูกค้าใหม่เข้ามาต่อเนื่อง พร้อมหวังรัฐบาลออกมาตรการมากระตุ้นหนุนราคายางเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 50 บาท/กิโลกรัม (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      PSL (ราคาปิด 7.55 บาท Bloomberg Consensus 10.35 บาท)  คาดค่าระวางเรือครึ่งปีหลังฟื้นสูงกว่า 9.113 เหรียญสหรัฐต่อวันต่อลำ รับอานิสงส์ไฮซีซั่นธุรกิจการขนส่งสินค้าแห้งเทกอง และบริหารจัดการกลุ่มเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      BGRIM (ราคาปิด 34.50 บาท Bloomberg Consensus 37.40 บาท) ระบุชัดโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เวียดนาม ราบรื่น ดันสัดส่วนกำลังการผลิตต่างประเทศโดดแตะ 25% เดินหน้าเจรจาคว้าโรงไฟฟ้าเพิ่ม ปันผลระหว่างกาล 0.15 บาทต่อหุ้น หลังโชว์กำไรสุทธิไตรมาส 2/2562 เติบโต 191% (ที่มา ทันหุ้น)

·      PTG (ราคาปิด 19.30 บาท Bloomberg Consensus 17.93 บาท) เผยปริมาณขายน้ำมัน-ธุรกิจ Non-Oil ดันผลงานไตรมาส 2/2562 กำไรโต 140.4% กว่า 426 ล้านบาท มีรายได้ 3.18 หมื่นล้านบาท ส่งผลกำไรครึ่งปีแรกเพิ่มเป็น 945 ล้านบาท โต 111.4% พร้อมอัดฉีดงบลงทุนเพิ่มเป็น 4,500 ล้านบาท รุกขยายสถานีบริการน้ำมันแตะ 2,000 สาขา ตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)

·      DOD (ราคาปิด 10.80 บาท ราคาเหมาะสม 18.20 บาท) ตั้งโต๊ะรับออเดอร์ครึ่งปีหลังไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท ชู "อัลทิมา ไลฟ์" และ "PCCA" หนุนรายได้เพิ่ม หลังจากปรับโครงการธุรกิจ ฟากบอร์ดไฟเขียว ตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรจีน เปิดตลาด E-commerce บุกจำหน่ายตลาดออนไลน์ในจีน (ที่มา ทันหุ้น)

·      TPOLY ฟอร์มสวยไตรมาส 2/2562 โชว์กำไร 163 ล้านบาท โต 7% ทยอยรับรู้รายได้ธุรกิจรับเหมา-อสังหา-โรงไฟฟ้า คึกคัก ครึ่งปีหลังสัญญาณดีเดินหน้าตุนแบ็กล็อก ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10% คาดรับรู้รายได้เกิน 4 พันล้านบาท ทุบสถิติใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)

·      SAMART (ราคาปิด 9.05 บาท Bloomberg Consensus 10.85 บาท) ขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจครึ่งปีหลัง 2562 เล็งได้รับอานิสงส์ภาครัฐผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล หวังรับงานโครงการเพิ่มพอร์ต จ่อคิวประมูลอีกกว่า 9 พันล้านบาท หนุนสิ้นปี 2562 จะมี Backlog ในมือมากกว่า 12,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

  •  ส.ค. 62 ไม่มีหุ้นเข้าออก MSCI แต่ MSCI ลดน้ำหนักหุ้นไทยลง 0.8% ควรระวังแรงขายในหุ้น CPALL PTT SCC AOT ADVANC BDMS KBANK มีผล 27 ส.ค.
  • TMILL (ถือรับปันผล ราคาเหมาะสม 36) รายงานกำไร 2Q62 ที่ 22 ลบ. ตามคาด โดยรายได้อยู่ที่ 355 ลบ.ต่ำกว่าที่เราคาด 4% ขณะที่ GPM อยู่ที่ 15.3% ซึ่งต่ำกว่าที่เราไว้ที่ 16% แต่บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดีกว่าคาด อีกทั้งค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง
  • ASAP (ราคาปิด 2.80 บาท Bloomberg Consensus 3.30 บาท) โชว์ผลงานครึ่งปีแรกรายได้รวม 1,519.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% และมีกำไรสุทธิ 11.92 ล้านบาทหลังธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาว และ asap GO เติบโตเท่าตัว บวกกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนทางการเงินได้ดี ส่วนแผนงานช่วงที่เหลือของปีนี้พัฒนาแอป asap ต่อยอดธุรกิจ asap GO พร้อมลุยขยายแฟรนไชส์ asap Select เฟส 2 ต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)