วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ส.ค.62)
ราคาน้ำมันดิบพุ่ง หลังสหรัฐฯ เลื่อนระยะเวลาเก็บภาษีจากจีน
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ เลื่อนระยะเวลาจัดเก็บภาษีกว่าร้อยละ 10 ในสินค้าจากจีน มูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากกำหนดการเดิมในวันที่ 1 ก.ย. 62 เป็นวันที่ 15 ธ.ค. 62
+ ตลาดคลายความกังวล หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังจีนออกมาแถลงว่าจะจัดการเจรจาประเด็นข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯ ภายในสองสัปดาห์
+ ซาอุดิอาระเบียมีแผนที่จะรักษาระดับปริมาณส่งออกน้ำมันดิบให้ต่ำกว่า 7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ย. และ ส.ค. 62 ประกอบกับกลุ่มโอเปคที่ยังคงมีแผนที่จะลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 9 ส.ค. 62 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 443 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ในสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับดี ประกอบกับโรงกลั่นประเทศอินเดียยังคงอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียยังคงซบเซา ประกอบกับอุปทานจากประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น