'จุติ' เข้าพม.วันแรก น้อมนำ 'ศาสตร์พระราชา' นำทางการทำงาน

'จุติ' เข้าพม.วันแรก น้อมนำ 'ศาสตร์พระราชา' นำทางการทำงาน

“จุติ” เข้าพม.วันแรก น้อมนำ "ศาสตร์พระราชา" นำทางการทำงาน

เมื่อวันที่ 22 ก.ค.62 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ารับตำแหน่งวันแรกเมื่อเดินทางไปถึงได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง เช่น องค์พระประชาบดี ศาลพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร และศาลพระภูมิ โดยมีปลัดกระทรวงและข้าราชการประจำกระทรวงให้การต้อนรับ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น

นายจุติ เปิดเผยถึงความตั้งใจในการทำหน้าที่ ว่าจะทำอย่างเต็มที่ หลังจากได้ลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชนมาอย่างต่อเนื่องซึ่งส่วนตัวก็ตั้งจะใช้ศาสตร์พระราชา คือหลักในการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา มาเป็นแนวทางในการทำงาน เพราะเชื่อว่าศาสตร์พระราชา ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นวิกฤตมาหลายครั้งโดยจะใช้เทคโนโลยีมาเป็นกลไกในการทำงานควบคู่ไปด้วย

ส่วนการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา นายจุติระบุว่าขึ้นอยู่กับสมาชิกของรัฐสภาว่าจะมีประเด็นซักถามเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะตัวคนเดียวไม่สามารถทำให้งานสำเร็จได้หากไม่ทำงานกันเป็นทีม และส่วนตัวได้ขอความร่วมมือจากคณะทำงานข้าราชการทุกคนเพื่อให้การทำงานเป็นทีม โดยมีปลัดกระทรวงเป็นผู้นำ การเตรียมความพร้อมในการทำงาน ส่วนตัวมองว่าตำแหน่งไม่สำคัญเพราะไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง

ขณะที่ปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาโกงเงินคนไร้ที่พึ่ง ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นายจุติ เชื่อว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยเชื่อมั่นในหัวใจของคนที่ทำความดี

โดยหลังจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. จะเรียกประชุมเพื่อมอบนโยบายการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ภายในกระทรวงฯทันที เพื่อเดินหน้าการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ส่วนในวันพรุ่งนี้ก็เตรียมลงพื้นที่บ้านพักคนชรา หรือบ้านบางแค เพื่อเข้าฟังรับทราบปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข และหลังจากการประชุมมอบนโยบาย รวมถึงการซักถามปัญหาในกระทรวงฯ นายจุติ กล่าวอีกว่า วันนี้ผู้บริหารของกระทรวงฯ ได้บรรยายภาพรวมงานของกระทรวงและปัญหาที่พบว่ามีเป็นจำนวนมาก โดยหลังจากนี้จะขอเยี่ยมแต่ละหน่วยงานเพื่อให้เห็นปัญหาเชิงลึก นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเรื่องการเตรียมความพร้อมเรื่องนโยบายและงบประมาณที่จะเข้าสู่สภา

ส่วนด้านการพัฒนาสังคม ส่วนตัวมองว่าจะต้องมีเทคโนโลยีมาใช้ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากร ว่าจะบูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงใด โดยให้เจ้าหน้าที่ไปหาข้อมูลมาภายใน 30 วัน

นอกจากนี้ยังจะขอข้อมูลจากอดีต ส.ส. ในส่วนของข้อมูลที่ไปไม่ถึงเพื่อให้รู้เป้าของปัญหาและช่วยให้สามารถแก้ไขได้มากขึ้น พร้อมทั้งให้อธิบดีและปลัดกระทรวงเอาจริงเอาจังเรื่องทุจริต โดยจะใช้เทคโนโลยีมาช่วยเรื่องซักฟอก ขณะที่เรื่องงบประมาณที่ไม่สมดุลกับภาระหน้าที่ ส่วนตัวจะไปเจรจากับสำนักงบประมาณ แต่จะเอาผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง และจะดึงคนนอก อย่างกลุ่ม LGBT มาช่วยงานให้หลากหลายและรวดเร็วมากขึ้น เช่นเดียวกับแผนดูแลผู้สูงอายุ จะทำเวิร์คช็อปภายในเดือนสิงหาคมก่อนจะเสนอ ครม. โดยให้กระทรวงไปปรับและรับฟังความเห็นของสภาให้มากๆ เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน โดยไม่ใช่การเกรงกลัวฝ่ายค้าน เพราะส่วนตัวต้องมาทำงานเพื่อฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน จึงไม่ต้องกังวลว่าปัญหาจะถูกแบ่งแยกเพราะต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชน โดยยอมรับมามีดึงคนในพรรคมาช่วยงาน และได้เตรียมนโยบายของพรรค เช่น เกิดปรับรับแสน ส่งเสริมอาชีพนอกระบบ ซึ่งส่วนไหนกลไกในกระทรวงทำได้จะดำเนินการ ส่วนเรื่องเงินในกระทรวงไม่เพียงพอก็จะนำส่วนนอกมาช่วยเสริมเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ห่วงเรื่องฝ่ายค้านเตรียมซักฟอก เพราะเป็นคนที่ทำงานให้ประชาชนทุกคนอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อัดคลิปชวนวิ่งลดน้ำหนักนั้น ส่วนตัวยังไม่เห็นคลิป แต่คุยกันแล้ว โดยได้ตอบไปว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งหลังจากนี้จะลงพื้นที่ทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ซึ่'ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว