ทดสอบ 1,747

ช่วยบดบังหลังจากที่ กกร. ออกมาปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP ปี 62 ลงสู่ราว 2.9-3.3% จากเดิมโต 3.7-4.0% ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังคงจับตาการแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส  ส่วนนักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิต่อเนื่องที่ 3,249.84 ลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,739.43 จุด (+17.95 จุด) Volume 7.4 หมื่นลบ. TFEX Net -488 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +365 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ราคาน้ำมัน WTI + 2.60 ดอลลาร์ +4.5% ปิด 60.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจาก EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลงมากกว่าคาดและข่าวพายุที่เตรียมพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก

+ดัชนีดาวโจนส์ +76.71 จุด +0.29% ขานรับประธาน FED ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อสภาคองเกรส และรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ระบุว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่สนับสนุนให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้

+ FedWatch บ่งชี้ว่านลท.คาดการณ์ว่ามีโอกาส 100% ที่ FED จะปรับลดอัตราดบ. โดยคาดว่ามีโอกาส 73.4% (จากเดิม 93%) ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% และมีโอกาส 26.6% (จากเดิม 7%) ที่เฟดจะปรับลดอัตราดบ. 0.50%

+ ราชกิจจาฯ เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งครม.ชุดใหม่

+Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 5.5 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.69 บาท/US

-กกร. ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 62 มาที่ 2.9-3.3% จากเดิม 3.7-4.0% ลดคาดการณ์ส่งออกเติบโต -1% ถึง 1% จากเดิม 3-5% กังวลค่าเงินบาทไทยแข็งค่า 5-6% สูงที่สุดในโลก หาก FED ลดอัตราดบ.ยิ่งทำให้เงินบาทแข็งค่า

*จับตากระแสความคิดเห็นต่อครม.ชุดใหม่ สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อ โดยได้แรงหนุนจากประธานเฟดส่งสัญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในการแถลงต่อสภาคองเกรส ขณะที่สัญญาณน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นแรง 4.5% จะเป็นตัวหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนปัจจัยในประเทศมีประเด็นบวกจากความคืบหน้าทางการเมือง หลังมีราชกิจจานุเบกษา โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. ชุดใหม่วานนี้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,730-1,747 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท (TOA MGT SMIT) ,หุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30 ORI) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ (STEC CK STPI) ,หุ้นกลุ่มเดินเรือ (TTA PSL RCL AMA)

หุ้นรายงานพิเศษ

หุ้นกลุ่มพลังงาน

• หุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ได้แก่ PTTEP ทั้งนี้บริษัทได้ซื้อกิจการเครือ Murphy Oil ในมาเลเซียแล้วเสร็จ หนุนปริมาณขายปิโตรเลียมเพิ่มอีก 8 หมื่นบาร์เรล/วัน เป็น 6-7 หมื่นบาร์เรล/วัน
• หุ้นโรงกลั่นได้รับประโยชน์จากค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้น ได้แก่ TOP SPRC
• หลี่กเลี่ยง หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ (Spread) ยังทรงตัวในระดับต่ำ ได้แก่ PTTGC IRPC IVL

 

หุ้นมีข่าว   

·      AGE ใส่เกียร์เดินหน้าธุรกิจโลจิสติกส์ “ทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า”วางเป้ามีสัดส่วนรายได้ 10% พร้อมสั่งลุยต่อเรือลำเลียงเพิ่ม 16 ลำ หนุนขนาดกองเรือขยับเป็น 40 ลำในปี 63 และขยายท่าเรือเพิ่ม ย้ำธุรกิจถ่านหินโตต่อเนื่อง มีออเดอร์ในมือรอจ่อส่งมอบ 1 ล้านตัน ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้พุ่ง 9,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      IVL (ราคาปิด 42.5 บาท Bloomberg Consensus 58.53 บาท) ยืนยันเป้า Core EBITDA ปี 62 แตะ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนความขัดแย้งการค้าโลกกระทบน้อยมาก โบรกฯ ประเมินผลงาน Q2/62 ฟื้นตัวตามฤดูกาล-กลับมาเดินเครื่องโรง EO/EG (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      PTTEP (ราคาปิด 134.5 บาท Bloomberg Consensus 148.57 บาท) เผยซื้อกิจการเครือ Murphy Oil ในมาเลเซียแล้วเสร็จ หนุนปริมาณขายปิโตรเลียมเพิ่มอีก 4.8 หมื่นบาร์เรล/วัน เป็น 6-7 หมื่นบาร์เรล/วัน ด้าน GULF ดึง Mitsui- TGES ร่วมลงทุนถือหุ้น BSE ในสัดส่วนฝ่ายละ 33.33% ลุยระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้า-ผลิตน้ำเย็นในโครงการ One Bangkok (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      KTIS ลั่นธุรกิจเอทานอลสดใส โชว์ผลงาน 6 เดือนแรก ปริมาณการขายพุ่ง 34% แตะ 40.20 ล้านลิตร มั่นใจปี 62 ยอดจำหน่ายมากกว่า 75 ล้านลิตร ชูจุดแข็งส่งมอบตรงเวลา-บริหารวัตถุดิบได้ดี (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      SENA (ราคาปิด 3.66 บาท Bloomberg Consensus 4.46 บาท)มั่นใจปีนี้ผลงานเข้าเป้า ปิดรายได้ที่ 8.2 พันล้าน ตุนแบ็กล็อก 11,704 ล้านบาท ยอดขาย 1.8 หมื่นล้าน จ่อเปิด 13 โครงการใหม่ มูลค่าเกือบ 1.4 หมื่นล้าน เชื่อภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นหลังมีรัฐบาลชัดเจน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      EA (ราคาปิด 54.75 บาท Bloomberg Consensus 68.25 บาท) เปิดประเด็นชัดๆ ธุรกิจแบตเตอรี่ "เทคโนโลยีเปลี่ยนยิ่งได้เปรียบ" ล่าสุดอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงาน และสั่งเครื่องจักร มั่นใจเปิดดำเนินการ Q2 ปีหน้า ชูรถ-เรือ EV-Green Diesel และ PCM อนาคตสร้างรายได้เทียบเท่าธุรกิจไฟฟ้าที่ปีนี้ตั้งเป้า 1.5 หมื่นล้าน หลังโรงไฟฟ้ารับรู้เต็ม 664 เมกะวัตต์ ตั้งแต่ Q3 ปี 2562 (ที่มา ทันหุ้น)

·      BGC (ราคาปิด 13.30 บาท Bloomberg Consensus 14.30 บาท) รุกตลาดนอกสำเร็จ อินเดีย-เวียดนาม แห่ซื้ออนาคตไกล ชี้ตลาดมีประชากรดีมานด์สูง ขณะที่มาร์จิ้นถ่าง หลังเดินหน้าขยายตลาดสินค้า High Value แถมต้นทุนน้ำมันลด รับรู้โรงงานราชบุรีปีนี้เต็มๆ จับตาดีล M&A (ที่มา ทันหุ้น)

·      PORT โตต่อเนื่อง พร้อมกางแผนขยายธุรกิจท่าเรือและโลจิสติกส์ครบวงจร เสริมแกร่ง ล่าสุดควักงบลงทุนสร้างท่าเรือแห่งที่ 3 ผ่านบริษัท BRT หนุนการให้บริการท่าเรือเพิ่มขึ้น 24% ระบุกดปุ่มให้บริการศูนย์ซ่อมบำรุงและจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ครบทั้ง เฟส1 และเฟส 2 แล้ว (ที่มา ทันหุ้น)

·      + ROJNA (ราคาปิด 6.65 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 7.65) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)และบมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) เซ็นสัญญาร่วมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมโรจนะชลบุรี 2 (เขาคันทรง) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พื้นที่กว่า 900 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวม 2.1 พันล้านบาท รองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายในเขตพื้นที่ EEC คาดว่าจะเปิดบริการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 64 (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·      TISCO (ราคาปิด 95 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus เฉลี่ย 93.48) คาดจะส่งงบการเงิน 2Q62 และงวดครึ่งแรกปี 62 เย็นวันนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไร 2Q62 เฉลี่ย 1,778 ล้านบาท +3%QoQ +4%YoY  ทั้งนี้ สินเชื่อสุทธิ 5M62 +0.48%YTD

·      EPCO เข้าซื้อหุ้นโรงพิมพ์ WPS เพิ่มอีก 15% คิดเป็นมูลค่า 72.34 ลบ. รวมถือหุ้นเพิ่มเป็น 99.50% ภายใน 12 ก.ค. 62  ขยายธุรกิจสู่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)