ตร.ขอนแก่น พร้อมดำเนินคดีบัตรพลังงาน ชี้ทำเป็นขบวนการ

ตร.ขอนแก่น พร้อมดำเนินคดีบัตรพลังงาน ชี้ทำเป็นขบวนการ

เคาะแล้ว! ที่ประชุมร่วม 4 ฝ่าย มอบตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เป็นเจ้าทุกข์แจ้งดำเนินคดีกับขบวนการหลอกขายบัตรพลังงาน หลังได้หลักฐานการโฆษณาเป็นยารักษาโรค

ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ เป็กทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่คณะอนุกรรมการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค จ.ขอนแก่น ร่วมกันประชุมความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับบริษัทเจ้าของบัตรพลังงานที่ตัวแทนจำหน่ายนำมาขายให้กับชาวบ้าน โดยอวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถใช้รักษาได้สารพัดโรค ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานะเจ้าหน้าที่เป็นผู้เสียหาย แต่ภายหลังจากการพิจารณาข้อกฎหมายแล้วพบว่า พฤติการณ์การกระทำของผู้เกี่ยวข้องกับบัตรพลังงาน เข้าข่ายความผิดที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. มากกว่า จึงส่งเรื่องให้ สคบ. เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษแทน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวภายหลังการประชุมร่วมว่า หลังจากที่คณะทำงานได้ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลที่ผ่านการรวบรวมจากคณะพนักงานสอบสวน และข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอที่ตัวแทนจำหน่ายบัตรพลังงานกำลังโฆษณาและสาธิตการใช้บัตรพลังงานให้กับชาวบ้านรายหนึ่ง ซึ่งมีการอวดอ้างสรรพคุณว่าเป็นยาที่สามารถรักษาอาการป่วยได้ แต่จากการตรวจพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยืนยันว่า บัตรพลังงานไม่สามารถใช้รักษาโรคใดๆ ได้ และยังมีส่วนผสมเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวจึงมีความผิดความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามหรือ ทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 342 ถ้าในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ผู้กระทำ แสดงตนเป็นคนอื่น หรืออาศัยความเบาปัญญาของผู้ถูกหลอกลวงซึ่งเป็นเด็ก หรืออาศัย ความอ่อนแอทางจิตของผู้ถูกหลอกลวง ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วว่า หน่วยงานที่จะเป็นเจ้าทุกข์ในการดำเนินคดี ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ขอแจ้งไปยังประชาชนที่ใช้บัตรนี้อยู่ให้หยุดการใช้งาน เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย

ด้านรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากนี้คณะพนักงานสอบสวน จะเร่งดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเอาผิดกับผู้ร่วมขบวนการหลอกขายบัตรพลังงาน ซึ่งหากสอบสวนแล้วพบหลักฐานว่ามีความผิดเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหาย ยังสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน เพื่อที่ตำรวจจะได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานทั้งหมด เอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป