หุ้นกลุ่มชิพดิ่งฉุดดาวโจนส์ปิดแดนลบ

หุ้นกลุ่มชิพดิ่งฉุดดาวโจนส์ปิดแดนลบ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (14มิ.ย.)ปรับตัวร่วงลงขณะที่ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา และการร่วงลงของหุ้นกลุ่มชิพ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 17.16 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 26,089.61 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ร่วงลง 4.66 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,886.98 จุด และดัชนีแนสแด็กลบ  40.47 จุดหรือ 0.52% ปิดที่ 7,796.66 จุด

ราคาหุ้นของกลุ่มบริษัทผู้ผลิตชิพร่วงลงในวันนี้ หลังจากที่บริษัทบรอดคอม ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพในธุรกิจสื่อสาร เปิดเผยรายได้ต่ำกว่าคาดสำหรับไตรมาส 2 ของปีงบการเงินบริษัท ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 5 พ.ค. พร้อมกับปรับลดตัวเลขคาดการณ์รายได้สำหรับปีงบการเงินปัจจุบัน โดยบรอดคอม ระบุว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 5.21 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.16 ดอลลาร์/หุ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 5.52 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.68 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์รายได้สำหรับปีงบการเงินปัจจุบัน สู่ระดับ 2.250 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 2.450 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.431 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (เอ็นบีเอส) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 5% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 17 ปี และชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่มีการขยายตัว 5.4% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.4%

บริษัทมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจประจำเดือนมิ.ย. ดิ่งลง 32 จุด สู่ระดับ 13 หลังจากแตะระดับ 45 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดภายใน 1 เดือน และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจได้ร่วงลงในทุกภาคอุตสาหกรรม ขณะที่การจ้างงาน, แผนการลงทุนด้านทุน และความคาดหวังต่อภาวะธุรกิจ ต่างก็ปรับตัวลง นอกจากนี้ ดัชนีย่อยภาวะธุรกิจภาคการผลิตทรุดตัวลงแตะระดับ 0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ส่วนดัชนีย่อยภาวะธุรกิจภาคบริการร่วงลงสู่ระดับ 18 จากระดับ 35 ในเดือนพ.ค.