ตร.เตรียมขอศาลออกหมายจับ หนุ่มช่างกลซ่ากระหน่ำยิงคู่อริ

ตร.เตรียมขอศาลออกหมายจับ หนุ่มช่างกลซ่ากระหน่ำยิงคู่อริ

ตำรวจบางนา เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับ ช่างกลซ่ากระหน่ำยิงคู่อริ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย

จากกรณีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 ราย โดยคนที่มีรูปร่างผอมสูงผมยาวนั่งซ้อนท้ายรถ จยย. ก่อนใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่กลุ่มวัยรุ่น ภายในซอยลาซาล 19 แขวงและเขตบางนา กทม. จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เวลาประมาณ 17.30 น.ที่ผ่านมา จากนั้นทางตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าการก่อเหตุอุกอาจครั้งนี้เกิดจากเรื่องสถาบัน จึงทำการไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดละแวกที่เกิดเหตุนั้น ต่อมานายจตุรงค์ หรือแม็ค เอี่ยมท้วม อายุ 30 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่ สน.บางนา เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุทางตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแส กระทั่งทราบว่าคนร้ายมีทั้งหมด 3 ราย โดยหนึ่งรายได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้วคือนายจตุรงค์ หรือแม็ก เอี่ยมท้วม อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจยย.นำผู้ต้องหามาก่อเหตุ ส่วนผู้ต้องหาอีกสองรายที่เป็นมือยิงยังคงหลบหนี ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่า และอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 62 เวลาประมาณ 17.30 น. ทั้งสองฝ่ายขับรถตามกันมาบริเวณถนนลาซาลและทราบว่าอยู่คนละสถาบันกัน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ตามมายิง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาทิ มีเศษกระจกบาดบริเวณใบหน้า ถูกยิงบริเวณนิ้ว ฯลฯ

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุอีก 2 ราย ที่อยู่ระหว่างหลบหนี ทราบชื่อคือนายประเสริฐศักดิ์ หรือบอย สิงห์โสภา อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นชายผมยาวใช้อาวุธปืนยิง และนายพีรพล หรือนน อายุ 19 ปี เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ฝั่งตรงข้าม โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุ รถจยย.คันแรกมีนายปอนด์ อายุ 15 ปี เป็นผู้ขับขี่รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปี้ไอ สีเลือดหมู ไม่ทราบทะเบียน มีนายพีรพล หรือนน นั่งซ้อนท้าย โดยระหว่างขับขี่ใน ซ.ลาซาล ขณะผ่านหน้าแมนชั่นแห่งหนึ่งไปประมาณ 80 ม. อีกกลุ่มได้ขี่รถจยย. 4 คัน คันละ 3 คน ตามหลังมาทัน

โดยคันแรกได้ขับปาดหน้า และใช้อาวุธมีดไล่ฟัน นายปอนด์กับนายพีรพล โดยนายพีรพล ซึ่งนั่งซ้อนท้ายจึงได้ใช้อาวุธปืนที่พกมา ยิงใส่อีกฝ่ายในครั้งแรก เป็นเหตุให้ฝ่ายที่ไล่ฟัน แตกกระเจิงวิ่งหลบหนีเข้าไปหลบที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานนัก นายจตุรงค์ ได้ขับขี่รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเลือดหมู ซึ่งมีนายประเสริฐศักดิ์ (หนุ่มผมยาว) นั่งซ้อนท้ายขับมาพบกลุ่มนักเรียนที่บริเวณหน้าแมนชั่น ก่อนที่นายประเสริฐศักดิ์ (หนุ่มผมยาว) จะใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มนักเรียนที่วิ่งหลบหนีมาหลบซ่อนตัวในอาคารแมนชั่น อีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 เป็นเหตุให้มีทรัพย์สินของแมนชั่นได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงได้หลบหนีไป

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวอาชญากรรมเนชั่นทีวี ยังได้ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุพบกับ น.ส.ปทุม อายุ 39 ปี อาชีพแม่บ้านของแมนชั่นดังกล่าว เล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า ปกติเป็นประจำทุกวันตนจะมานั่งอยู่บริเวณม้านั่งหินอ่อนด้านล่างอาคารตั้งแต่ช่วงเวลา 17.30-19.00 น. วันนั้นช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. มีนักเรียนตีกันถือมีดวิ่งเข้ามาหลบในเคาท์เตอร์ 3 คน อีก 2 คนใส่ชุดนักเรียนวิ่งไปหลบในร้านค้า 1 คน วิ่งไปหลบด้านหลัง 1 คน จากนั้นได้ยินเสียงดังเปี้ยงเหมือนใครจุดประทัด 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 ทำให้กระจกแมนชั่นแตก จึงลากแฟนที่นอนอยู่ที่ม้านั่งไปหลบ ตัวเองได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจกบาดบริเวณใบหน้าเล็กน้อย กู้ภัยได้ปฐมพยาบาลให้จึงไม่ได้ไปโรงพยาบาล

“เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตกใจไม่เคยเจอไม่เคยเห็น อยู่ที่นี่มาตั้งนานยังไม่เคยเจอเด็กนักเรียนตีกันมาก่อน ไม่ใช่เด็กที่ตึก ยังกลัวว่าเขาจะย้อนกลับมา” น.ส.ปทุม เปิดเผยด้วยอาการที่ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่