‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 31.27 บาทต่อดอลลาร์
ตลาดการเงินเปิดรับความเสี่ยง หลังประเทศทั่วโลกจะใช้นโยบายทางการเงินและการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต ขณะที่ตัวเลขการเติบโตทั้งฝั่งญี่ปุ่น และจีนไม่แย่ลงมาก ทำให้นักลงทุนกลับมามีความมั่นใจ
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ31.27 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อนที่ระดับ31.36 บาทต่อดอลลาร์
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาประเด็นหลักในตลาดการเงินคือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ10ปีปรับตัวลงแตะระดับ2.08% สิ้นวันศุกร์
สำหรับสัปดาห์นี้เชื่อว่ายังต้องจับตาทิศทางของบอนด์ยีลด์สหรัฐต่อในระยะสั้นเราเชื่อว่ายีลด์สหรัฐมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นจากตลาดการเงินที่เปิดรับความเสี่ยง(Risk On) บนความคาดหวังว่าบรรดาประเทศทั่วโลกมีโอกาสที่จะใช้นโยบายทางการเงินและการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตขณะเดียวกันตัวเลขการเติบโตทั้งฝั่งญี่ปุ่นและจีนก็จะไม่แย่ลงมากทำให้นักลงทุนกลับมามีความมั่นใจ
นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกวันที่10-14 มิถุนายนก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาหลายเรื่อง
เริ่มต้นที่ฝั่งเอเชียในวันศุกร์ตลาดจะจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจของจีนอาทิยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร(Fixed Asset Investment) ที่จะขยายตัว6.1% ยอดค้าปลีก(Retail Sales) จะเติบโตราว8.0% และยอดการผลิตอุตสาหกรรม(Industrial Production) ชะลอตัวลงแตะระดับ5.3%
ฝั่งยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา(EMEA) สัปดาห์นี้สิ่งที่น่าติดตามคือผลการประชุมธนาคารกลางโดยเริ่มจากวันพุธมองว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางตุรกี(CBRT) จะมีมติ“คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบาย(Repo Rate) ที่ระดับ24%
ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางรัสเซีย(CBR) ในวันศุกร์คาดว่าจะมีมติ“ลด” อัตราดอกเบี้ยนโยบาย(Key Rate) 0.25% สู่ระดับ7.50% และมีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ยได้อย่างน้อยอีก0.25% ในปีนี้หลังเศรษฐกิจรัสเซียและอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลง
และในวันศุกร์มองว่ายอดค้าปลีกในสหรัฐ(Retail Sales) เดือนพฤษภาคมจะฟื้นตัวขึ้น0.6% จากเดือนก่อนหน้าตามแรงหนุนของความเชื่อมั่นครัวเรือนสหรัฐฯที่ปรับตัวดีขึ้น
มองกรอบเงินบาทวันนี้31.25-31.35 บาทต่อดอลลาร์และกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้31.10-32.60 บาทต่อดอลลาร์