'พาณิชย์' ดันข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยเจาะตลาดไฮเอนด์

'พาณิชย์' ดันข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยเจาะตลาดไฮเอนด์

“ชุติมา” นำทัพผู้ประกอบการข้าวและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย บินเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า สิงคโปร์และฮ่องกง หวังขยายตลาดข้าวคุณภาพดีของไทย เล็งนำข้าวหอมมะลิไทย ข้าวเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไปโปรโมต

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศมีกำหนดนำคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปจัดกิจกรรมเชื่อมโยงตลาดข้าวและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย ณ ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง ระหว่างวันที่ 17 – 22 มีนาคม 2562 โดยจะนำผู้ประกอบการข้าวไทย อาทิ กลุ่มสหกรณ์/วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย ไปจับคู่ธุรกิจกับผู้นำเข้าที่มีศักยภาพของสิงคโปร์และฮ่องกง เพื่อสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการค้าข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยให้สามารถเข้าสู่ตลาดดังกล่าวได้โดยตรง ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ ได้นำข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยเข้าร่วมจัดแสดงเพื่อสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องภาพลักษณ์และคุณสมบัติที่ดีของข้าวไทย รวมทั้งแสดงถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการนำนวัตกรรมมาต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทยอีกด้วย

ทั้งนี้ สิงคโปร์และฮ่องกงเป็นตลาดนำเข้าข้าวที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูง โดยข้าวไทยสามารถครองตลาดเป็นอันดับ 1 ทั้งในตลาดสิงคโปร์และฮ่องกง ประกอบกับผู้บริโภคของทั้ง 2 ประเทศให้ความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตข้าวคุณภาพดีชนิดอื่นๆ นอกจากข้าวหอมมะลิไทยที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว ยังส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดดังกล่าวได้อีกด้วย

“ปัจจุบัน พบว่า กลุ่มผู้บริโภคชาวสิงคโปร์และฮ่องกงมีแนวโน้มที่จะเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งข้าวไทยสามารถเป็นทางเลือกและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้รักสุขภาพได้เป็นอย่างดี เนื่องจากข้าวไทยมีหลากหลายพันธุ์ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และล่าสุดยังมีข้าว กข 43 ซึ่งรัฐบาลให้การส่งเสริมประชาสัมพันธ์เข้าสู่ตลาดต่างประเทศในขณะนี้ รวมทั้งมีนโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้สารเคมีอีกด้วย และมั่นใจว่าการเดินทางไปจัดกิจกรรมเชื่อมโยงตลาดในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีช่องทางในการขยายตลาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้นำเสนอข้าวคุณภาพดีชนิดใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยของไทยเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่รักสุขภาพซึ่งเป็นกระแสนิยมในตลาดทั่วโลกในปัจจุบันให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น”

สำหรับสถิติการส่งออกในปี 2561 ไทยส่งออกข้าวไปฮ่องกงปริมาณ 0.18 ล้านตัน มูลค่า 6,272 ล้านบาท ปริมาณลดลงจากปีก่อน 15.74% แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 16.67% สำหรับการส่งออกไปสิงคโปร์ มีปริมาณ 0.10 ล้านตัน มูลค่า 3,290 ล้านบาท ปริมาณลดลงจากปีก่อน 15.40% แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 6.82% ซึ่งหวังว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทยได้เป็นอย่างดี