ลูกจ้างรัฐบาลสหรัฐหวั่นไม่มั่นคงแม้ยุติ ‘ชัตดาวน์’

ลูกจ้างรัฐบาลสหรัฐหวั่นไม่มั่นคงแม้ยุติ ‘ชัตดาวน์’

บรรดาลูกจ้างรัฐบาลสหรัฐยังคงรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิต แม้ “โดนัลด์ ทรัมป์” บรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตในการกลับมาเปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราวสิ้นสุดภาวะชัตดาวน์ 35 วันนานสุดเป็นประวัติการณ์

ลูกจ้างรัฐบาลสหรัฐกว่า 8 แสนคน ซึ่งปกติแล้วจะได้ค่าตอบแทนทุก 2 สัปดาห์ ไม่ได้ค่าจ้างมา 2 งวดติดต่อกันแล้วในวันศุกร์ (25 ม.ค.) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ครอบครัวอเมริกันหลายหมื่นครอบครัวตกอยู่ในภาวะวิกฤติ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับผู้นำในสภาคองเกรสเพื่อยุติปัญหาการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน (ชัตดาวน์) โดยจะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลับมาเปิดดำเนินงาน และมีงบประมาณในการบริหารงานจนถึงวันที่ 15 ก.พ.นี้

นายดีพัน พาเทล ซึ่งทำงานให้กับสำนักงานสรรพากร(ไออาร์เอส) และขณะนี้ต้องเข้าคิวรับอาหารฟรีสำหรับลูกจ้างรัฐที่ได้รับผลกระทบจากชัตดาวน์ เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เขาทั้งรู้สึกโล่งใจและรู้สึกถึงความไม่แน่นอนว่าข้อตกลงที่มีระยะเวลา3 สัปดาห์นี้จะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณใช้นานถึงหลังวันที่ 15 ก.พ. หรือไม่

“ผมคิดว่ามันช่วยได้มาก โดยเฉพาะการได้ค่าจ้าง” นายพาเทล กล่าว และว่า “ผมหวังว่าพวกเขา (นักการเมือง) จะบรรลุข้อตกลงกันได้ก่อนจะเกิดชัตดาวน์อีกรอบ”

นายมอนตี เองเลอร์ วัย 50 ปี ตัวแทนสหภาพแรงงานของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศมืออาชีพ (พีเอเอสเอส) ซึ่งจำเป็นต้องทำงานซ่อมบำรุงอุปกรณ์ควบคุมจราจรทางอากาศที่สนามบินนานาชาติโอฮาราในช่วงชัตดาวน์กล่าวว่า อาชีพของเขาหยุดงานไม่ได้ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อการเดินทางโดยเครื่องบิน

“ถ้าคุณต้องนั่งเครื่องบิน และพวกเราไม่ทำงานกัน คุณจะตกอยู่ในอันตราย” นายเองเลอร์เผย และว่า “สถานการณ์ทั้งหมดเลวร้ายมาก และผมแน่ใจว่ามันจะเกิดขึ้นอีก”

ปัญหาเที่ยวบินล่าช้าจำนวนมากทั่วภูมิภาคทางตะวันออกของสหรัฐเนื่องจากขาดแคลนเจ้าหน้าที่ตามสนามบินต่าง ๆ เหตุเพราะพนักงานในนั้นรวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำหอควบคุมการบิน ถูกสั่งให้ทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการต้องหาทางออกเรื่องชัตดาวน์

ช่วงเวลา 3 สัปดาห์หลังจากนี้ แกนนำของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาเพื่อจัดทำร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณสำหรับความมั่นคงมาตุภูมิ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์หวังว่าจะมีการบรรจุงบประมาณ 5,700 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามข้อเรียกร้องของเขา

เมื่อคืนวันศุกร์(25ม.ค.) นายทรัมป์กล่าวด้วยว่าหากการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันประสบความล้มเหลว รัฐบาลก็จะปล่อยให้เกิดภาวะชัตดาวน์อีกครั้งในวันที่ 15 ก.พ. หรือเขาอาจใช้อำนาจประธานาธิบดีประกาศภาวะฉุกเฉิน และออกกฎหมายอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส

“ในช่วง 21 วันข้างหน้า ผมคาดหมายว่าเดโมแครตและรีพับลิกันจะทำงานด้วยความจริงใจ” นายทรัมป์กล่าว และว่า“เราไม่มีทางเลือก นอกจากต้องสร้างกำแพงที่แข็งแกร่งหรือแบร์ริเออร์เหล็กเท่านั้น”