นอนคุก! 'หนุ่มหึงโหดฆ่าติวเตอร์' ไร้ญาติประกัน

นอนคุก! 'หนุ่มหึงโหดฆ่าติวเตอร์' ไร้ญาติประกัน

นอนคุก! "หนุ่มหึงโหดฆ่าติวเตอร์" หลังยื่นฝากขังไร้ญาติประกัน พ่วงคดีลักทรัพย์

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.61 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ได้ควบคุมตัว นายสุรสิทธิ์ หรือเก่ง จันทร์วงศ์สกุล อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 11 พ.ย.61 คดีฆ่าอำพรางนายณัฏฐวัฒน์ หรือโบ๊ต เพียรสกุล อายุ 27 ปี อาจารย์สอนพิเศษ (ติวเตอร์) คณิตศาสตร์ย่านฝั่งธนบุรี เนื่องจากหึงหวงเป็นแฟนกับอดีตแฟนสาว มายื่นฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 23 พ.ย.นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 6 ปาก และต้องรอผลตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องหา กับผลการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงจึงเกรงว่าจะหลบหนี

โดยคำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.61 เวลาประมาณ 22.00 น. พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งว่า มีผู้พบศพชายไม่ทราบชื่อ นอนเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ริมถนน ข้างแคมป์คนงานก่อสร้างภายใน ซ.พ่วงทรัพย์ แขวง-เขตบางซื่อ กทม. เมื่อเดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบศพชายนอนเสียชีวิตอยู่ใต้ท้องรถแท็กซี่สีชมพู จอดอยู่ริมถนน สภาพศพนอนหงายขนานอยู่ใต้ท้องรถ จากการขันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบว่าที่ศีรษะมีถุงพลาสติกสีดำคลุม และมีเทปกาวพันคอ พบบาดแผลที่ศีรษะด้านหลังข้างขวา และรอยช้ำที่โหนกแก้มซ้าย เปลือกตาด้านขวา ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 18-48 ชั่วโมง สาเหตุการตาย เห็นว่าเกิดจากการฆาตกรรม

ขณะที่การสืบสวนสอบสวนในที่เกิดเหตุมีผู้พบศพคนแรก โดยมี น.ส.ศศิกานต์ อายุ 31 ปี (อดีตแฟนผู้ต้องหา) ยืนยันว่า ผู้ตายคือ นายณัฏฐวัฒน์ ที่ทราบเหตุเพราะสงสัยว่า นายสุรสิทธิ์ ผู้ต้องหา เป็นผู้พาตัวผู้ตายไปเนื่องจากความหึงหวง และรับทราบจากแม่ของผู้ตายว่าผู้ตายหายไปไม่ได้กลับบ้าน จึงได้ตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดที่ห้างแห่งหนึ่งซึ่งผู้ตายไปสอนพิเศษ พบว่าวันที่ 8 พ.ย. เวลาประมาณ 17.00 น. พบผู้ตายขึ้นรถยนต์ฟอร์ดสีแดง ขณะที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบบ้านพักของผู้ต้องหาซึ่งกำลังจะออกจากบ้านก็พบอาวุธปืนอยู่ที่ตัว จากการสอบถามก็รับว่าเป็นคนฆ่าผู้ตายจริงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ยิงศีรษะ 1 นัดจนถึงแก่ความตาย จากนั้นนำศพไปซ่อนไว้ใต้ท้องรถแท็กซี่ในที่เกิดเหตุพนักงานสอบสวนจึงกล่าวโทษดำเนินคดี 5 ข้อหา ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุจำเป็นฯ , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองฯ และซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) , 199 , 371 , 376 ,พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 โดยในชั้นจับกุมและสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา

นอกจากนี้ วันเดียวกัน (12 พ.ย.) พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ยังได้ยื่นคำร้องฝากขัง นายสุรสิทธิ์ ผู้ต้องหา อีกสำนวนเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 12-23 พ.ย.นี้เช่นกัน ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถานหรือรับของโจร เนื่องจากยังต้องสอบพยานอีก 6 ปากและรอผลตรวจของกลาง ซึ่งพฤติการณ์คดีนี้ตามคำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค.61 เวลาประมาณ 02.40 น. ผู้ต้องหาได้เข้าไปในบ้านเลขที่ 227-228 ถ.ริมคลองประปา แขวง-เขตบางซื่อ กทม. แล้วขโมยรถยนต์ฟอร์ด (FORD) รุ่น Everest สีแดง ทะเบียน 6กธ-5416 กทม. มูลค่า 1,449,000 บาท , ทองคำรูปราศี ปีจอ น้ำหนัก 1 บาท มูลค่า 20,000 บาท , กุญแจรถยนต์กระบะโตโยต้า มูลค่า 300 บาท และกุญแจรถยนต์ FORD รุ่น Everest มูลค่า 2,000 บาทของหญิงผู้เสียหายรายหนึ่งไป

ภายหลังผู้ต้องหาถูกจับกุมคดีแรกตามหมายจับแล้ว พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาคดีนี้ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถาน หรือรับของโจร ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ แต่ปฏิเสธข้อหารับของโจร โดย ศาลพิจารณาคำร้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ทั้ง 2 คดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสิ้นสุดเวลาราชการแล้ว วันนี้ยังไม่มีญาติมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในชั้นฝากขังนี้