“เฉลิมเกียรติ” นำผู้ต้องหา “แก๊งอาก้า” ชี้จุดก่อเหตุ ระบุออกหมายจับไปแล้ว 14 เตรียมออกเพิ่มอีก 5 พร้อมยึดอาวุธปืนได้ 4 กระบอก
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาท พร้อมกับใช้อาวุธสงคราม ยิงถล่มใส่กันเป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน และมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเสียชีวิต 1 คน เหตุเกิดบริเวณลาดจอดรถด้านหลังห้างสรรพสินค้าเซ็นธารา วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน ซอยราชปรารภ 2 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า เป็นความขัดแย้งระหว่างเจ้าถิ่น และต่างถิ่นที่เข้ามาเล่นสนุกเกอร์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้แล้ว 11 คน จาก 14 คนที่มีหมายจับ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2561 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รรท. รองผบช.น. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผบก.น.1 พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยากร สุวรรณเรืองศรี สว(สอบสวน)สน.พญาไท และกำลังชุดกก.สส.บช.น. และชุดสอบสวน สน.พญาไท ได้ทำการประชุมคดีดังกล่าว
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วทั้งหมด 11 คน เหลืออีกเพียงอีก 3 คนตามที่มีหมายจับ ส่วนหลักฐานเพิ่มเติมจะชี้โยงถึงใครต่อไปนั้น ก็จะทำการออกหมายจับอีก เบื้องต้นกำลังออกหมายจับเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 5 คน ในส่วนอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ตอนนี้คือขนาด .38 สเปเชียล และวันนี้จะเป็นการนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดที่ซ่อนของปืนอาก้า ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายศรราม ภูพลผัน หรือโจ อายุ 25 ปี ได้ให้ข้อมูลไว้กับตำรวจ ส่วนที่นายศรราม อ้างว่า นายบำเพ็ญเป็นคนยิงปืนอาก้า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากยังให้การไม่แน่ชัด แต่เบื้องต้นพบว่าปืนทั้ง 2 ชนิดไม่มีทะเบียน
ทางด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 2 ฝ่าย เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ได้แล้ว มีบางคนรับสารภาพแล้วว่า ใช้อาวุธปืนยิงปะทะกันจริงกับอีกฝ่าย ส่วนนายบำเพ็ญ พุ่มพวง หรือ ม๊อก อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้
ต่อมาเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายสมชาย ภูติพันธุ์ทรัพย์ หรือ ชาย เจ้าของซุ้มไก่บ่อปลามักกะสัน พยานสำคัญที่พบเห็นนายบำเพ็ญ เป็นคนนำกระเป๋าที่ภายในบรรจุแมกกาซีน จำนวน 3 แม็ก และปืน CZ ขนาด 9 มม. มาฝังไว้ที่บริเวณใต้ซุ่มไก่ด้านในสุด นอกจากนี้ยังพบปืนอาก้าที่นายบำเพ็ญ เอาไปฝังไว้ใต้ปากกล้วยริมบึง มาทำการสอบปากคำ เพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติม
ต่อมาเวลา 11.00 น. นำตัวผู้ต้องหา 5 ราย คือ นายขวัญ หรือ ยา กระต่ายทอง อายุ 35 ปี พร้อมด้วยนาย ศรราม ภูพลผัน หรือโจ อายุ 25 ปี นายเกษม รุณไพรัชน์ หนอน หรือ นก อายุ 38 ปี นายหนุ่ม กระต่ายทอง อายุ 32 ปี และ นายทักษิณ สุขเอียด อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเจ้าถิ่น ได้นำชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ
โดยจุดแรกเป็นจุดที่ นายขวัญ ขับขี่จักรยานยนต์มายังหน้าโต๊ะสนุกเกอร์ ก่อนจะเร่งเครื่องเพื่อเป็นการก่อกวน จากนั้นนายขวัญ ก็ได้ไปตามพวกมาอีก 3 คน คือ นายพรเทพ พุ่มพวง หรือ เพชร อายุ 23 ปี นายศรราม และนายเกษม เพื่อเข้ามาพูดคุยกับฝั่งเตาปูน คือนายปรีชา ศักดิ์อุดมไพศาล หรือ ตั้ม อายุ 28 ปี และ นายประมุข จันท์เสนานนท์ หรือ เบริด์ อายุ 34 ปี เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์ โดยใช้เวลาในการพูดคุยนานกว่า 1 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ฝ่ายของนายขวัญ หรือ ยา มีการต่อว่านายปรีชา “กูเป็นเจ้าถิ่น อยู่ตรงนี้มานาน เป็นใครมาจากไหน มาเปิดโต๊ะสนุ๊กเกอร์ได้อย่างไหร่” จากนั้นทั้งหมดก็ได้แยกย้ายกันไป โดยต่างฝ่ายต่างไปรวบรวมกำลังพล และอาวุธมาก่อเหตุ
จุดที่สองเป็นจุดบ้านไม้สองชั้น ไม่มีเลขที่บ้านของนายบำเพ็ญ ซึ่งกลุ่มนายบำเพ็ญได้เข้าไปเอาอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอกออกมาก่อเหตุ
จุดที่สามบริเวณปากซอยข้างห้างห้างสรรพสินค้าเซ็นธารา วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน ที่กลุ่มนายบำเพ็ญและกลุ่มนานปรีชายิงปะทะกันจนทำให้ชาวอินเดียได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นจุกที่นายพีเทพ และนายทักษิณถูกยิงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
จุดที่สี่ บริเวณท้ายซอยดังกล่าว สามารถมาทะลุไปยังโต๊ะสนุ๊กได้นั้น นายบำเพ็ญและพวกได้เดินอ้อมไปยิงใส่กลุ่มนายปรีชา อีกครั้ง
โดยจุดที่ห้า คือจุดที่นายปรีชานำปืนไปซ่อนไว้ที่ซุ่มไก่บึงบ่อปลามักกะสันก่อนหลบหนีไป
ทางด้านพล.ต.ต.คัชชา กล่าวภายหลังนำตัวผู้ต้องหาชี้จุด ว่า ในวันเกิดเหตุ นายขวัญ หรือยา พวกของนายพรเทพ พุ่มพวง หรือเพชร ฝั่งประตูน้ำ ไปเจรจาเรื่องธุรกิจที่บริเวณโต๊ะสนุกเกอร์กับนายปรีชา ฝั่งเตาปูน แต่นายปรีชาไม่ยินยอม นายขวัญจึงกลับมาบอกนายพรเทพ และกลับมาเจรจากันอีกรั้ง จึงเกิดการทะเลาะและเรียกพรรคพวกของแต่ละฝ่ายมา จนนำไปสู่การยิงปะทะกัน
ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ผู้ต้องหาฝั่งนายปรีชา ต่างนำมาด้วยตนเอง ส่วนปืนฝั่งนายพรเทพ เอามาจากบ้านของนายพรเทพที่มีนายบำเพ็ญ พุ่มพวง หรือ ม๊อก บิดาอาศัยอยู่ โดยบ้านหลังดังกล่าวอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ซึ่งจะต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของอาวุธปืนอาก้าด้วย
สำหรับการติดตามตัวนายบำเพ็ญ ผู้ต้องหารายสำคัญที่กลุ่มผู้ต้องหายืนยันว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงนั้น ขณะนี้ตำรวจทราบเบาะแสแล้ว แม้จะมีข่าวว่าหลบหนีออกนอกประเทศ แต่ชุดสืบสวนก็อยู่ในระหว่างการติดตามตัว รวมถึงผู้ต้องหารายอื่นๆที่ยังหลบหนีด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร ยืนยันจะพยายามออกหมายจับให้ได้มากที่สุดตามข้อมูลการสืบสวนประมาณ 25 คน โดยคาดว่าบ่ายนี้จะนำตัวผู้ต้องหา 3 รายดังกล่าวไปขออำนาจศาลฝากขัง โดยทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าเป็นการทะเลาะวิวาทไม่มีเจตนาฆ่าใคร
สำหรับอาวุธปืนพบแล้ว 4 กระบอก คือ อาก้าจำนวน 1 กระบอก , อาวุธปืน CZ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 2 กระบอก ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ว่ามาจากอาวุธปืนกระบอกใดนั้น จะต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน แม้แพทย์จะลงความเห็นว่า เป็นปืนแรงดันต่ำ แต่ด้วยลักษณะของปืนอาก้า หากยิงกระทบวัตถุแล้วกระเด็นกลับมา ก็ทำให้เกิดแรงดันต่ำได้เช่นกัน เพราะในจุดที่เกิดเหตุพบแกนกระสุนของปืนอาก้า หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องพาพยานหลักฐาน ทั้งพยานวัตถุ และพยานบุคคล เพื่อประกอบสำนวนให้แน่นหนามากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการทำแผนประกอบคำรับสารภาพมีชาวบ้านที่อยู่ในระแวกดังกล่าวยืนมุงดูเหตุกาจำนวนมาก โดยตลอดการทำแผนมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบของ สน.พญาไท และบก.สส.บช.น. คอยดูแลความเรียบร้อยตลอดเสร็จสิ้น