ไทย-จีนจับคู่ธุรกิจกว่า 400 คู่ มูลค่าซื้อขายสะพัดกว่า 130 ล้านดอลล์

ไทย-จีนจับคู่ธุรกิจกว่า 400 คู่ มูลค่าซื้อขายสะพัดกว่า 130 ล้านดอลล์

"พาณิชย์" ตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ไทย-จีน จับคู่ธุรกิจ กว่า 400 คู่ มูลค่าซื้อขายสะพัดกว่า 130 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมจัดกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ภาครัฐ-เอกชน สองประเทศ

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนสายเศรษฐกิจของไทย จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจการค้าการลงทุนระหว่างนักธุรกิจผู้ซื้อผู้นำเข้าและนักลงทุนระดับชั้นนำจากไทยและจีน ณ โรงแรม แบงคอก แมริออท มาร์คีย์  เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ผลการจัดกิจกรรมจับคู่พันธมิตรทางธุรกิจ ในส่วนของโซนจับคู่การค้าแบบ one-on-one pre-matching สามารถจับคู่ธุรกิจได้มากกว่า 400 คู่ มูลค่าซื้อขายรวมกว่า 130 ล้านเหรียญสหรัฐ  สินค้าและธุรกิจที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ได้แก่ ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว (เช่น โจ๊ก ข้าวต้มมัด เป็นต้น) ขนมขบเคี้ยว ผลไม้สด อบแห้ง อบกรอบ ยางพารา หมอนและที่นอนยางพารา เครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำผลไม้ และน้ำมะพร้าว เครื่องปรุงรส ซอส เครื่องสำอาง และโลจิสติกส์ เป็นต้น

กิจกรรมจับคู่พันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมคู่ขนานเนื่องในโอกาสที่มนตรีแห่งรัฐ    (นายหวัง หย่ง) และคณะผู้บริหารระดับสูงภาครัฐเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC เศรษฐกิจไทย-จีน) ครั้งที่ 6 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 – 26 สิงหาคม 2561 และได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากฝ่ายไทย ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)  สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย และจากฝ่ายจีน นำโดยองค์กรส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Council for The Promotion of International Trade) หรือ CCPIT สำนักงานส่งเสริมการค้าในประเทศจีน (Thai Trade Centre) Bank of China ธนาคารกรุงเทพ และธนาคาร ICBC

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ยังได้จัดกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ ไทย-จีน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี     นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธาน เลี้ยงต้อนรับผู้บริหารระดับสูงภาครัฐและเอกชนจีน นำโดยท่านมนตรีแห่งรัฐหวัง หย่ง ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงรัฐและเอกชนสองฝ่าย ประมาณ 700 ราย ได้พบปะหารืออย่างใกล้ชิด

นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า "กิจกรรมในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงเจนารมย์ของสองประเทศในอันที่จะร่วมผลักดันขยายการค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้สามารถบรรลุเป้าหมาย 140,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 ตามที่ท่านรองนายกสมคิด และท่านมนตรีแห่งรัฐ หวังหย่งได้ร่วมให้คำมั่นในเวทีการเจรจาระดับ JC ครั้งนี้ โดยกรมฯ มีแนวทางและแผนรองรับการเร่งรัดขยายตลาดส่งออกเชิงรุก เน้นขยายความร่วมมือการค้า การลงทุน สร้างเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจ สู่เมืองต่างๆ ของจีนไม่ว่าจะเป็นเมืองหลัก เมืองรอง ตามหัวเมืองต่างๆของจีนที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง รวมถึงมุ่งขยายความสัมพันธ์ไปยังเมืองท่าสำคัญต่างๆ อย่างเช่น ชิงต่าว เซี่ยเหมิน การส่งเสริมการเชื่อมโยงเส้นทางโลจิสติกส์การค้าของไทยกับนโยบายเส้นทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BIR) ของจีน สู่เมืองพื้นที่ด้านในของจีนอย่างเช่น เฉิงตู ฉงชิ่ง กุ้ยหยาง ซีอาน       หลานโจว เพื่อเชื่อมต่อไปยังจีนตอนในมุ่งสู่เอเชียกลางและยุโรปด้วย รวมถึงใช้การตลาดนำการผลิต เจาะ Niche Marketอย่างเช่นเจาะกลุ่มผู้บริโภคฮาลาลในจีน อย่างมณฑลหนิงเซี่ยะ และกานซู่ เป็นต้น"   

"พร้อมนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยังได้เร่งรัดขยายตลาดสินค้าและบริการไทยผ่านช่องทางการค้าสมัยใหม่ด้วย เช่น E commerce รวมถึงการผลักดันความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบข้อมูลและการติดตาม (Logistics) และศักยภาพของกำลังคน (Digital Talent) ซึ่งจะสามารถส่งเสริมการค้าทั้งทางช่องทาง Online และ Offline (OMNI channel) ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยสามารถเข้าสู่ตลาดจีน โดยจีนสามารถใช้ไทยเป็น Digital Hub ทางการค้าในอาเซียนด้วยเช่นกัน" นางจันทิรากล่าวเสริม

สำหรับมูลค่าการค้าไทยและจีน ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี  2560  การค้าสองฝ่าย มีมูลค่ามากกว่า 73,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 12 สินค้าสำคัญได้แก่ สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป และอุตสาหกรรม