องค์การเภสัชกรรม เดินหน้ากระจายวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3.4 ล้านโด๊ส

องค์การเภสัชกรรม เดินหน้ากระจายวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3.4 ล้านโด๊ส

องค์การเภสัชกรรมเดินหน้ากระจายวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ จำนวน 3.4 ล้านโด๊ส ให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดฟรี

 นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า หลังจากที่ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำคณะเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และสื่อมวลชน เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ประจำปี 2561 โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ทั้งนี้ เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนและลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วย

ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมวัคซีนฯไว้ในเบื้องต้น จำนวน 405,000 โด๊ส และองค์การเภสัชกรรมได้จัดหาและสนับสนุนให้กับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไว้อีกจำนวน 3.4 ล้านโด๊ส ทั้งนี้องค์การฯมีหน้าที่ในการกระจายวัคซีนฯไปยังโรงพยาบาลและสถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมาการกระจายวัคซีนฯอาจจะล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตาม พรบ.จัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ ที่มีรายละเอียดในกระบวนการค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันได้แก้ปัญหาต่างๆไปแล้ว และองค์การฯได้ทำการจัดส่งและกระจายวัคซีนฯล็อตแรกไปแล้วกว่า 90% โดยวัคซีนฯที่จัดหามาในครั้งนี้ส่วนหนึ่งผลิตจาก บริษัท องค์การเภสัชกรรม - เมอร์ริเออร์ ชีววัตถุ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนขององค์การเภสัชกรรม ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งการกระจายวัคซีนฯในครั้งนี้เพื่อให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ จึงมั่นใจได้ว่าประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างแน่นอน

 โดยในปีนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ซึ่งมีประมาณ 20-30% ของประชากรทั่วประเทศ ได้แก่ 1.) หญิงตั้งครรภ์ 2.) เด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี 3.) ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัดและเบาหวาน 4.) บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5.) ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6.) ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องและผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ และ 7.) ผู้ที่มีโรคอ้วน น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ซึ่งสามารถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่    31 สิงหาคม 2561 ที่สถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่เข้าข่าย 7 กลุ่มเสี่ยงนั้น สามารถไปขอรับการฉีดวัคซีนได้ที่ รพ.ของรัฐและเอกชนทั่วประเทศ โดยวัคซีนฯมีราคาประมาณ โด๊สละ 300-400 บาทเท่านั้น และสามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้เป็นเวลา 1 ปี โดยการฉีดวัคซีนในปีนี้สามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้ 3 สายพันธุ์ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A Michigan (H1N1), สายพันธุ์ A Singapore (H3N2) และสายพันธุ์ B Phuket

“องค์การเภสัชกรรมเดินหน้ากระจายวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการให้บริการการฉีดวัคซีนฯได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม” ผู้อำนวยการกล่าว