แอ่ว ไทเป เมืองเหนือของไต้หวัน

แอ่ว ไทเป เมืองเหนือของไต้หวัน

ชีวิตคือการเดินทาง.....ไทเป ประเทศไต้หวัน คืออีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ที่ชอบการช้อปปิง แล้วรับประทานอาหารอร่อย เดินทางสะดวก ปลอดภัย ออกนอกเมืองสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ

1.

สายลมปลายฤดูใบไม้ผลิ หอบความหายคิดถึง.....เมื่อฉันได้มายืนสูดอากาศอันแสนสดชื่นจนเต็มอุรา ณ ริมแม่น้ำตั้นสุย ที่เคยมาเยือนเมื่อหลายปีก่อน ทว่าครั้งนั้นกว่าจะมาถึงตั้นสุยเมืองท่าแห่งแรกทางตอนเหนือของไต้หวัน (สร้างเมื่อปีค.ศ. 1858) ก็เป็นเวลาดึกดื่น ไม่อาจมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำและภูเขาที่งดงามเช่นนี้  มีเพียงแสงวับแวมจากเรือประมง ที่ส่องสะท้อนผิวน้ำราวกับบททิ้งท้ายให้ต้องมาตามหาภาพชัดเจนอีกครั้งในวันนี้การมาเยือนไต้หวันหนนี้มีภารกิจถ่ายทำรายการท่องเที่ยว “พาซ่า Bazaar”  ที่เรามาเป็นพิธีกรรับเชิญ (งานหนักของนักข่าวสายกิน) อาศัยสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ พาทะยานถึงท่าอากาศยานเถาหยวนเวลา 08.00 น. ไม่ต้องถามว่าไปสแตนบายที่สนามบินดอนเมืองกี่โมง ทีมงานนัดเจอ 00.30 น. เครื่องขึ้น 03.30 น. ต้องนอนให้หลับบนเครื่องอย่างเต็มอิ่ม เพราะรุ่งเช้าเราต้องปฏิบัติหน้าที่ออกเดินทางตามหาสถานที่ กิน-เที่ยว สุดฮิพตามเป้าหมาย

4.

                การเดินทางที่ไต้หวัดสะดวกสบายมาก ถึงท่าอากาศยานเถาหยวน ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกมา ก็หาซื้อการ์ดเติมเงิน(คล้ายๆบัตรแรบบิทบ้านเรา)ได้ที่ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น) ไม่ว่าจะขึ้นรถไฟ รถเมล์ก็ใช้ได้ในบัตรเดียว หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟด่วน Express Airport MRT ขบวนสีม่วง วิ่งรอบแรก 06.00 น. ขบวนสุดท้าย 23.00 น. (ราคาประมาณ 160 เหรียญไต้หวัน) จอดแค่ 3 สถานีคือ สถานี Memorial Hospital Station, New Taipei Industrial Park Station และ Taipei Main Station เราลงสถานีสุดท้าย ทีมงานจองโรงแรมไว้แถวๆนั้น แค่ลากกระเป๋าเดินข้ามถนนก็ถึงที่พักแล้ว แต่ชีวิตในวันนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเจอฝนตกหนักเลยต้องนั่งแทคซี่อ้อมไปโรงแรม

Citizen M Taipei Northgate เป็นโรงแรมที่ดูล้ำสมัยมาก พอเดินเข้าประตูโรงแรมไป เห็นโต๊ะสูงที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งเรียงราย3-4 ตัว มีพนักงานโรงแรมแค่เพียง  1 คนยืนให้คำแนะนำในการลงทะเบียนเข้าพักด้วยตนเอง พิมพ์รหัสคีย์การ์ดเอง ภายในห้องพักมีไอแพทควบคุมระบบทุกอย่างทั้งเปิด-ปิดไฟ เปิดม่านหน้าต่าง เปิดทีวี ฟังเพลง ฯลฯ เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว

14

พวกเราเติมพลังด้วยอาหารอร่อย ไม่ไกลจากโรงแรมแถวๆ ประตู Northgate เจอ ร้านขาหมู เก่าแก่ขายมานานกว่า 65 ปี ชื่อ ร้านเจิ้นจี้ ในทีมไม่มีใครพูดภาษาจีนได้ ส่งภาษาอังกฤษไปก็ไม่มีใครสนใจฟัง(ฮา) บังเอิญลูกชายเจ้าของร้าน (ทราบภายหลัง) ส่งภาษาไทยมาถามว่าคนไทยใช่ไหมครับ? ค่อยโล่งอก คราวนี้ได้อิ่มเอมมื้อแรกที่ไทเปต้อนรับกันด้วยอาหารมงคลแบบหมูหมู ทุกอย่างจะได้หมู

2.

ประตู Northgate 

3.

จุดหมายแรกก็คือ จิ่วเฟิ่น (Jiufen) ต้องนั่งรถเมล์สาย 965 ประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street) ยามนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอก เนื่องจากพระพิรุณโปรยปรายต้อนรับตั้งแต่ตอนเช้าแม้ขณะนี้จะฝนหยุดตกแล้ว ทว่าดูเหมือนก้อนเมฆยังคงเดินทางผ่านเมืองจิ่วเฟิ่นที่อยู่บนภูเขาสูงอย่างรีบเร่ง อากาศช่างเย็นจับใจ

19

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ต้องมาสัมผัสบรรยากาศหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นดั้งเดิมท่ามกลางหุบเขา ไฮไลท์ก็คือถนนคนเดินเหมือนหมู่บ้านจีนโบราณที่สร้างลดหลั่นมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ หนาแน่นไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของฝากและผู้คนแน่นขนัด เนื่องจากเป็นถนนที่เล็กและแคบ แม้จะเดินเบียดเสียดกันทว่าใบหน้าของผู้คนเต็มไปด้วยรอยยิ้มแสดงถึงความสุข

10.

พวกเราเดินชิมอาหารไปตลอดทาง เพราะแม่ค้าพ่อค้าที่นี่เขาภูมิใจนำเสนอให้ชิมสินค้าโดยไม่กดดันให้ต้องซื้อ ก็เลยชิมได้อย่างสบายใจ ได้พบหน้าแม่ค้าอารมณ์ดีผู้ติดกิ๊บดอกไม้ใหญ่ขายไส้กรอก เธอยังคงร่าเริงเหมือนเดิม ประทับใจผู้ชายขายผลิตภัณฑ์เซรามิค  เขาเป่าเครื่องดนตรีเซรามิคบรรเลงเพลงตามคำขอของผู้คน มองแล้วดุจเป็นศิลปินผู้สร้างงานศิลปะ

9.

ค่ำคืนนี้ไปออกไปเดินเล่น ย่านซีเหมินติง (Ximending) ถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิงที่เรียกว่า ฮา รา จู กุ แห่งไทเป  ก่อตั้งขึ้นในยุคที่ไต้หวันอยู่ภายใต้อาณานิคมของจักรวรรดิญี่ปุ่น ช่วงปี ค.ศ. 1922 มีการสร้างห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ร้านคาราโอเกะ ปัจจุบันก็เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขนม มีตรอกซอกซอยให้เดินเล่นอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย มีอาหารแปลกๆให้ลองชิม ร้านไหนต่อแถวยาวเราก็ต้องไม่พลาด ไปไต้หวันหนนี้หลงรักเต้าหู้เหม็นเข้าเสียแล้ว ทุกค่ำคืนเราไปเดินวนเวียนอยู่ที่ซีเหมินติง ไม่เสียแรงที่พักอยู่แถวนี้

15

มื้อเช้าของวันรุ่งขึ้นเราไปอิ่มท้องแบบอร่อยราคาประหยัดกันที่ ร้าน 365 แถวๆซีเหมินติงนั่นแหละ เป็นเมนูง่ายๆสไตล์ร้านตึกแถวแต่อร่อยใช้ได้มีทั้ง บะหมี่น้ำ ผัดผัก เบคอน เต้าหู้นึ่ง หน่อไม้ ข้าวผัด แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ค่อยโดนใจเช่น หอยทอดราดซอสพริกหวานๆ  เต้าหู้อ่อน-ไข่เยี่ยวม้าราดซอสน้ำมันหอย

21

บะหมี่น้ำแสนธรรมดาที่ร้าน 365 อร่อยมาก น้อยแต่มากเป็นแบบนี้นี่เอง

6.

                สถานที่น่าประทับใจอีกแห่งก็คือ Huashan 1914 Creative Park ซึ่งปรับปรุงมาจากโรงงานไวน์เก่า มาเป็น ครีเอทีฟปาร์คที่เต็มไปด้วยร้านค้าเก๋ๆ ขายสินค้าคูลๆ วัยรุ่นหนุ่มสาวชาวไต้หวันรังสรรค์ผลงานแล้วเอามาตั้งแผงขาย เรียกได้ว่าเดินเที่ยวชมเหนื่อยนักนั่งพักร้านกาแฟ และร้านอาหารชิคๆชิลๆได้ตลอดวัน สถานที่แห่งนี้เสมือนเป็นสวนสาธารณะหรือปอดแห่งใหม่ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้

5.

ความร่มรื่นในโรงงานผลิตไวน์เก่า

20190328_131917

 วิธีมาที่นี่ไม่ยากนั่งรถไฟสายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี Zhong Xiao Xing Sheng ออกประตู 1 แล้วเดินตรงไปประมาณ 300 เมตร ข้ามถนนใต้ทางด่วนมาก็จะเห็นทันที

7

เยือนไต้หวันหนนี้มีโอกาสชิมชาบูสำรับฮ่องเต้สุดประทับใจ ที่ ร้านเวิ่นติ่งฮอทพอท (Wenting Hot Pot )อยู่ในย่านซีเหมินติงนั่นเอง ชีวิตเราก็จะไม่ยุ่งยากวนเวียนหากินอยู่แถวๆนี้แสนเพลิดเพลิน  ฮอทพอทร้านนี้มีจุดเด่นตรงที่การนำเสนอ ด้านหน้าร้านมีชุดจีน ฮองเฮา ฮ่องเต้ พร้อมทั้งเครื่องประดับให้หยิบยืมใส่ฟรี หากรอโต๊ะนาน มีเก้าอี้นวดฟรี ทำเล็บฟรี อีกด้วยสำหรับราคาอาหารร้านนี้ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ ทว่าเป็น A la Carte สั่งตามเมนู แต่ต้องจ่ายค่าน้ำซุปคนละ  158 เหรียญไต้หวัน ใครที่ชอบทานเลือดเป็ดและเต้าหู้ เติมได้ไม่อั้น มีน้ำซุปให้เลือก 5 แบบคือ Spicy Hot Pot (ซุปหมาล่า) Healthy Hot Pot (น้ำซุปสุขภาพ) Clam Hot Pot (น้ำซุปหอย) Vegetable Hot Pot (น้ำซุปผัก) และ Chinese Marinated Cabbage Hot Pot (น้ำซุปผักกิมจิ) ใครจะสั่งอาหารแบบเซตเมนู ขั้นต่ำ 2 คน ราคาประมาณ 980 เหรียญ รับประกันความอิ่ม มีเชตใหญ่สำหรับ 6 คน ราคา 2,980 บาทมีทั้งเนื้อวัว หมู แกะ ซีฟู้ด ฯลฯ

ทุกคนที่มาทานอาหารที่ร้านจะได้สิทธิ์ในการรับประทานไอศกรีม Haagen Dazs ฟรีไม่อั้นอีกต่างหาก ระหว่างรับประทานมีการแสดงเปลี่ยนหน้ากากถือว่าเป็นสุดยอดการแสดงของไต้หวัน รู้สึกคุ้มค่าที่แวะมารับประทานมื้อค่ำที่ร้านนี้  การเดินทางมาร้าน Wenting Hot Pot จาก MRT Ximen ทางออกที่ 6 เดินเลียบถนนใหญ่ เจอแยกไฟแดงแรกเลี้ยวขวา เดินตรงไป ร้านจะอยู่ขวามือ สังเกตหน้าร้านจะมีหุ่นจีนโบราณตั้งโชว์อยู่

8.

มาไทเปทั้งทีต้องแวะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สักแห่ง วัดหลงซาน เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศนี้ สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1738 โดยชาวจีนที่อพยพมาจากมณฑลฝูเจี้ยน วัดนี้ได้รับการบูรณะมาหลายรอบ วัดแห่งนี้เคยได้รับความเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทว่า รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งอยู่ในตำหนักไม่ได้รับความเสียหายเลยสักนิด ทำให้เกิดความศรัทธาแก่ชาวไต้หวันยิ่งขึ้น

20190327_110731

ใกล้ๆกันนั้นยังมีอีกสถานที่แนะนำก็คือ ปัวผีเหลียว (Bo Pi Liao Historical Blok) เป็นชุมชนจีนเก่าแก่สมัยราชวงศ์ชิง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อาคารเก่าแก่แถบนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1799 ครั้งเมื่อไต้หวันตกเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่น พื้นที่เก่าแก่แถบนี้ได้ถูกทำลายไปเพื่อการสร้างถนนในปี ค.ศ. 2003 รัฐบาลไต้หวันใช้เวลา 6 ปีในการฟื้นฟูชุบชีวิตย่านเก่าแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ เป็นแหล่งจัดแสดงงานศิลปะ จัดประชุมสัมนา แถบย่านนี้ยังมีศูนย์วัฒนธรรมไทเป ที่มีการจัดแสดงละคร การละเล่นอยู่บ่อยๆ ที่นี่หยุดทุกวันจันทร์ อย่าหลงไปผิดวันล่ะ การเดินทางมาที่นี่เมื่อหันหน้าออกจากวัดหลงซาน (Longshan Temple) เลี้ยวซ้าย จะเห็นร้านกาแฟ 85 C Bakery Café อยู่ขวามือ ให้เดินตรงไปจนเจอสี่แยกใหญ่ นั่นแหละ “ปัวผีเหลียว” อยู่ตรงนั้นไม่ไกล

23

ศิลปะจากมนุษย์เรียกร้องความสนใจจากเด็กๆ ก่อนทางเข้าถนนโบราณตั้นสุย

16

ร้านขายปลาหมึกทอด เห็ดทอด แถวตั้นสุย ขอบอกว่าต้องลองปลาหมึกเขาเนื้อหนานุ่มหอมอร่อย

.....สายลมแห่งความคิดถึง หอบพาร่างฉันมายืนเหม่อมองแม่น้ำตั้นสุยอันแสนกว้างใหญ่ ถ้าไม่บอกว่านี่คือแม่น้ำ ฉันคงหลงคิดไปว่านี่คือทะเล(ฮา) ยืนลุ้นมองดูผู้ชายตกปลานานแล้ว ปลาไม่ยอมกินเบ็ดซักที ไว้ปีหน้าฟ้าใหม่พี่จะแวะเยือน ถนนโบราณตั้นสุ่ย สัมผัสกลิ่นอายความรุ่งเรืองสมัยเมืองท่าในอดีต แค่ได้พาตัวและหัวใจมายืนที่นี่ พี่ก็แสนมีความสุขใจ ไม่ต้องขออะไรมาก

12

เต้าหู้เหม็นย่าน ซีเหมินติง (Ximending) อร่อยมาก

13

เส้นหมี่เคี่ยวกับน้ำซุปจนเปื่อยนุ่ม คล้ายๆราดหน้าก็ไม่ใช่ กระเพาะปลาก็ไม่เชิง คนต่อคิวยาวมากเลยต้องขอลองชิมเสียหน่อย

  18

ร้านขายกระเป๋า FREITAG ย่าน Fujin Street ถนนสายฮิปเตอร์ คล้ายๆย่านอารีย์ ทองหล่อบ้านเรา มีร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ๆให้นั่งชิล

22

หลังบ้านชาวไต้หวัน แถวถนนฟูจิน (Fujin Street) สวยงามน่ามอง ชาวเมืองนี้มีความสุนทรีย์ไม่น้อย เดินเล่นส่องหลังบ้านก็เพลินดีเหมือนกัน

20

ลูกชิ้นปลาที่เมืองโบราณจิ่วเฟิ่น มีหลากรสให้เลือกชิมแล้วอร่อยดี 

ติดตามบรรยากาศดีๆนี้ได้ใน รายการพาซ่า BaZaar วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2562 ทางช่อง PPTV 36 เวลา 08.00 น.  ณ ถนนโบราณตั้นสุยแห่งนี้ งิ้วโรงเล็ก กำลังเล่าเรื่องราวท่ามกลางผู้คนที่นั่งและยืนมุงดู เด็กปั่นจักรยาน

11

ศิลปินกำลังผลิตผลงานวาดภาพเหมือนตามสั่ง แม่ค้ากำลังขายปลาหมึกทอดตัวยักษ์ แผงขาย”ไข่เหล็ก” (ไข่ต้มสมุนไพรจีน) ฯลฯ ภาพนี้กีปีก็ไม่เคยเปลี่ยน  แอ่ว (เที่ยว) ภาคเหนือของไต้หวันกี่ครั้งไม่มีเบื่อ อาหารถูกปาก บรรยากาศถูกใจ ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส การเดินทางสะดวกสบาย ทำให้หลงใหลในเสน่ห์แห่งเกาะฟอร์โมซ่า มาแล้วมาอีกไม่รู้เบื่อเลยจริงๆ