นราธิวาส ยังคงเฝ้าระวังแม่น้ำสายหลัก พร้อมประกาศเขตภัยพิบัติ 13 อำเภอ

สถานการณ์น้ำท่วม พื้นที่ จ.นราธิวาส เริ่มคลี่คลายในบางพื้นที่ หลังฝนหยุดตก ขณะที่ยังคงเฝ้าระวังแม่น้ำสายหลัก 3 สายอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศเขตภัยพิบัติ 13 อำเภอ

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา และในวันนี้ (28 ก.พ. 65) ย่างเข้าสู่วันที่ 5 ที่พื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมจำนวนกว่า 1 แสนคน ประมาณเกือบ 40,000 ครัวเรือน

สำหรับบรรยากาศในช่วงค่ำเมื่อวานที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงเช้าของวันนี้ ท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนปกคลุมทั้ง 13 อำเภอ โดยบางพื้นที่ฝนเริ่มหยุดตกบ้างแล้ว ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส ส่วนอำเภอรอบนอกยังคงมีฝนตกกระจายแต่ไม่หนักมาก ภาพรวมคือสภาวะฝนเริ่มคลี่คลายลง แต่มวลน้ำที่ได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาสนั้น ระดับน้ำที่ท่วมเริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว โดยสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.นราธิวาส รายงานตรวจพบกลุ่มฝนกำลังอ่อนถึงปานกลางบริเวณ อ.ระแงะ อ.จะแนะ อ.ตากใบ และ อ.สุคิริน แนวโน้มความรุนแรงลดลง

และจากการที่ทางจังหวัดนราธิวาสได้ประกาศเขตภัยพิบัติทั้ง 13 อำเภอไปแล้วนั้น เพื่อที่จะได้เตรียมออกสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณูปโภค ถนนหนทางต่างๆ พื้นที่ทางการเกษตร เพื่อที่จะได้ขออนุมัติงบประมาณในการเข้าทำการฟื้นฟูความเสียหายหลังน้ำลดลง ​

อย่างไรก็ตาม นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กำชับให้นายอำเภอทั้ง 13 อำเภอยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 28 ก.พ. 65 เวลา 06.00 น.ลุ่มน้ำโก-ลก ที่สะพานลันตู อ.สุไหงโก-ลก ล้นตลิ่ง โดยสูงกว่าตลิ่ง 1.17 เมตร ลุ่มน้ำบางนรา บริเวณบ้านตันหยงมัส อ.ระแงะ ล้นตลิ่ง โดยสูงกว่าตลิ่ง 1.16 เมตร และลุ่มน้ำสายบุรี ที่บ้านท่าเรือ อ.รือเสาะ เฝ้าระวัง ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 1.57 เมตร

ด้าน นายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่วนเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโก-ลก นำเครื่องจักร กระสอบทราบ บิ๊กแบ็ค เข้าไปเสริมบริเวณตลอดแนวของพนังกั้นน้ำของตำบลมูโนะอย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินการวางขวางทางน้ำซึ่งเป็นการชะลอน้ำและลดความเสียหายของอาคารชลประทาน และมีการติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดที่ประตูระบายน้ำปากคลองระบายน้ำมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก