ก.เกษตรฯ เร่งติดตามโครงการยกระดับแปลงใหญ่ฯ ก่อนปิดโครงการ ธ.ค. 64

ก.เกษตรฯ เร่งติดตามโครงการยกระดับแปลงใหญ่ฯ ก่อนปิดโครงการ ธ.ค. 64

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดการเบิกจ่ายของกลุ่มแปลงใหญ่ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ ชี้ ทุกกิจกรรมต้องเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2564

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.64 นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด ครั้งที่ 6/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Zoom meeting) ซึ่งการประชุมติดตามการดำเนินงานฯ ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการติดตามงานครั้งสุดท้ายก่อนการเสร็จสิ้นโครงการ 

โดยแผน - ผล การเบิกจ่ายเงินของกลุ่มแปลงใหญ่ โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาดโครงการส่วนใหญ่ถือได้ว่าเป็นไปตามแผน เบิกจ่ายแล้ว จำนวน 3,356 แปลง จากเป้าหมาย 3,379 แปลง ซึ่งการเบิกจ่ายดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ จำนวน 23 แปลง โดยมี 1 แปลง ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผน

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานเจ้าของสินค้าที่ ให้ติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายของกลุ่มแปลงใหญ่ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2564 นี้ โดยต้องส่งรายงานเอกสารบัญชีกลุ่มแปลงใหญ่ที่ดำเนินการแล้วเสร็จให้ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์เข้าไปตรวจสอบให้ทันตามแผน ซึ่งทุกกิจกรรมต้องเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2564

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการประชาสัมพันธ์ของจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่าน ซึ่งกลุ่มแปลงใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการฯ สามารถดำเนินการได้ตามแผนเพิ่มศักยภาพการผลิตของกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งรับทราบการจัดทำวีดีทัศน์สรุปผลการดำเนินงานโครงการการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี

รวมทั้งผลการประเมินโครงการซึ่งมีการสุ่มประเมินจากแปลงใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 280 แปลง ซึ่งประสิทธิผลการบริหารโครงการอยู่ในระดับดีมาก 92.17 คะแนน เป็นโครงการระดับ เกรด A ที่เป็นโครงการที่โดดเด่น

 

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้นำข้อเสนอแนะ ปัญหาที่พบจากการดำเนินงานโครงการในรอบนี้ ไปปรับปรุงแก้ไขในการดำเนินการโครงการยกระดับแปลงใหญ่ที่กำลังขอเสนองบประมาณเพิ่มเติมจากงบเงินกู้ตามพระราชกำหนด ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 ที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ต่อไป