“พาณิชย์” ใช้งบประกันรายได้รวม 3 ปี กว่า 2 แสนล้านบาท

“พาณิชย์” ใช้งบประกันรายได้รวม 3 ปี กว่า 2 แสนล้านบาท

“จุรินทร์” ใช้งบโครงการประกันรายได้ปี 3 รวม 226,205 ล้านบาท ชวยเกษตรกร 7.92 ล้านครัวเรือน รวมกว่า31.68 ล้านคน โว สร้างความมั่นคงให้เกษตรกร ย้ำเดินหน้าทำต่อไป ทำได้ไว ทำได้จริง

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ วางแผนงานปี 2565 เดินหน้านโยบายประกันรายได้เกษตรกร ในพืชเศรษฐกิจหลัก 5 ชนิด ข้าว ยางพาราปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมเกษตรกร 7.92 ล้านครัวเรือน โดยแต่ละครัวเรือนมีสมาชิกเฉลี่ยครัวเรือนละ 4 คนทำให้นโยบายนี้ดูแลเกษตรกรและครอบครัวได้ครอบคลุมถึง 31.68 ล้านคน

นโยบายประกันรายได้เกษตรกรเดินหน้าสู่ปีที่ 3 คือ ปี 2565  ซึ่งปีที่ 3 นี้ ได้จ่ายเงินประกันรายได้หรือส่วนต่างข้าวกับยางพาราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับพืชอีก 3 ชนิดรัฐบาล โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์นั้นได้ใช้ทั้งนโยบายหลักกับนโยบายเสริมกระตุ้นราคาจนสูงกว่ารายได้ที่ประกันไว้ จึงเป็นความมั่นคงของเกษตรกรอย่างยิ่งโดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน

 

อย่างไรก็ตามโครงการหลักของรัฐบาลที่นายจุรินทร์รับผิดชอบแยกเป็นได้ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหรือชาวนา 4.69 ล้านครัวเรือน ใช้เงินรวม 3 ปี 155,127 ล้านบาท ยางพาราได้รับสิทธิ์ 1.88 ล้านครัวเรือน เงินรวม 3 ปี 41,494 ล้านบาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกษตรกร 4.5 แสนครัวเรือน เงินรวม 3 ปี 4,112 ล้านบาท มันสำปะหลังเกษตรกร 5.2 แสนครัวเรือน เงินรวม 3 ปี 18,249 ล้านบาท และปาล์มน้ำมันเกษตรกร 3.8 แสนครัวเรือนเงินรวม 3 ปี 7,221 ล้านบาท สรุปข้อมูลทั้งโครงการซึ่งได้รวมงบประมาณปี 2565 ไว้ในนี้เรียบร้อย จากการอนุมัติขอรัฐบาล เท่ากับว่ารวม 3 ปี ใช้งบประมาณ 226,205 ล้านบาท ซึ่งเป็นยิ่งกว่าของขวัญและความมั่นคงในชีวิตเกษตรกรและครอบครัวถือว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของการทำการเกษตรทั้งในส่วนของรายได้จากส่วนต่างราคาและในส่วนที่รัฐบาลทำราคาพุ่งสูงขึ้นเกินจากรายได้ที่ประกันไว้ ทั้งหมดล้วนเป็นความสามารถของรัฐบาลซึ่งมีนายจุรินทร์รับผิดชอบภารกิจหลักด้านนี้

“พาณิชย์” ใช้งบประกันรายได้รวม 3 ปี กว่า 2 แสนล้านบาท

เฉพาะโครงการประกันรายได้เกษตรกรนี้ดูแลเกษตรกรและครัวเรือนประชาชนต่างจังหวัดครอบคลุมทั้งประเทศใน  7.92 ล้านครัวเรือนนี้รวมสมาชิกในครัวเรือนคูณ 4 คน โครงการนี้ได้ดูแลประชากรครอบคลุมร่วม 31.68 ล้านคนโดยประมาณ และนายจุรินทร์ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำนโยบายพร้อมประกาศ "เดินหน้าทำต่อไป ทำได้ไว ทำได้จริง" นอกจากจะมอบเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศแล้วยังได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งเกษตรกร  กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์สมาคม ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออกซึ่งอยู่ในโครงสร้างของสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรทั้งหมดด้วย

"ของขวัญถูกใจที่เกษตรกรทั่วประเทศได้รับ ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คือ ส่วนต่างราคาข้าวและส่วนต่างราคายางพาราที่เพิ่งจ่ายไปช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2564  โดยเฉลี่ยแล้วเกษตรกรได้ครัวเรือนละ 30,000-60,000 บาท ตามการลงทะเบียนเพาะปลูกจริง และเงินเข้าบัญชีโดยตรงครบหมดแล้วและยังไม่นับรวมค่าไถหว่านหรือค่าปรับปรุงพัฒนาข้าวอีกครัวเรือนละ  20,000 บาท เงินก้อนนี้ก็จ่ายตรงเข้าบัญชีเกษตรกรครบหมดแล้ว ถือเป็นของขวัญจากรัฐบาลและนายจุรินทร์ที่รับผิดชอบโครงการที่ถูกใจเกษตรกรมากที่สุดวันนี้ " นางมัลลิกา กล่าว