‘เฟาซี’เตือนอย่าโลกสวย‘โอมิครอนไม่แรง’

แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้ออันดับหนึ่งของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์เอ็นบีซีนิวส์ เมื่อวันอาทิตย์ (19 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น

 “สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือความสามารถพิเศษในการกระจายของโอมิครอน มันเพิ่งบุกไปทั่วโลก” เฟาซีกล่าว

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานว่า นับตั้งแต่มีรายงานครั้งแรกที่แอฟริกาใต้ในเดือน พ.ย. โอมิครอนถูกตรวจเจอในหลายสิบประเทศ กระตุ้นให้ต้องออกข้อจำกัดการเดินทางและมาตรการอื่นๆ อีกครั้ง แม้มีข้อบ่งชี้ว่าไม่ได้รุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลตา ที่ตอนนี้เป็นสายพันธุ์หลัก แต่ข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่าโอมิครอนที่กลายพันธุ์สูงมากสร้างความกังวลเรื่องดื้อวัคซีนและติดต่อได้ง่ายกว่า

เฟาซียังเตือนให้ระวังอย่ามองโลกในแง่ดีเกินไปเรื่องความรุนแรงของโอมิครอน โดยระบุถึงในแอฟริกาใต้ ที่สัดส่วนการเข้าโรงพยาบาลต่อผู้ป่วยต่ำกว่าสายพันธุ์เดลตา นี่อาจเป็นผลจากภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อเป็นวงกว้างครั้งก่อนก็ได้

“ไม่ว่าคุณจะมองยังไง เมื่อคุณมีการติดเชื้อมากๆ แม้จะรุนแรงน้อยกว่า แต่ก็บดบังความรุนแรงที่ลดลงเพียงเล็กน้อยไปได้ สำหรับโรงพยาบาลของเรา ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ในอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์ โรงพยาบาลจะตึงตัวมาก” โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระดับการฉีดวัคซีนต่ำ

เมื่อวันอาทิตย์ (19 ธ.ค.) ส.ว.เอลิซาเบธ วอร์เรน และคอรี บุคเกอร์ ต่างทวีตข้อความว่า  ตรวจพบโควิด-19 แม้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 แล้วก็ตาม และมีอาการเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ไม่ได้ถูกระบุว่าติดเชื้อโอมิครอนหรือไม่ ซึ่งเฟาซีได้เร่งเร้าให้ชาวอเมริกันที่ยังไม่ฉีดวัคซีนให้มาฉีด ส่วนคนที่ฉีดแล้วให้มาฉีดเข็มกระตุ้นซึ่งแสดงให้เห็นว่าฟื้นคืนการป้องกันได้

วันอังคาร (21 ธ.ค.) นี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีกำหนดแถลงต่อประชาชนถึงพัฒนาการการระบาดของโควิด ซึ่งรัฐบาลกำลังรณรงค์อย่างหนักให้ประชาชนฉีดวัคซีน ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ระบุว่า ปัจจุบันประชากรอเมริกันที่ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส คิดเป็น 70% เศษ ประชาชนที่เข้าเกณฑ์ฉีดอีก 50 ล้านคนยังไม่ได้รับการปกป้อง

“กับโอมิครอน จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากอีก 2-3 สัปดาห์หรือหลายเดือนเมื่อเราเข้าสู่ฤดูหนาวมากขึ้น” เฟาซีเสริม

ปัจจุบันโอมิครอนคิดเป็นราว 3% ของผู้ติดเชื้อในสหรัฐ คาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ