ตลท.จ่อเพิ่มดีกรีคุมหุ้นร้อน ผู้ร่วมตลาดไฟเขียว-รอก.ล.ต.เห็นชอบ

ตลท.จ่อเพิ่มดีกรีคุมหุ้นร้อน ผู้ร่วมตลาดไฟเขียว-รอก.ล.ต.เห็นชอบ

ตลท.เผย ผลเฮียริ่งมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น ส่วนใหญ่เห็นด้วยการปรับเกณฑ์ “เฟทโก้” เชื่อ ลดความร้อนแรงหุ้นที่มีการซื้อขายผิดปกติ-ไม่กระทบภาพรวมตลาด “บล.เอเซีย พลัส” ชี้ สั่งหยุดเทรด 1 วัน ช่วยลดความเสี่ยงนักลงทุน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) การปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขาย วันที่ 1 - 12 พ.ย. 2564 และจากการรับฟังความคิดเห็นแบบกลุ่ม (Focus Group) กับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งมีผู้ให้ความคิดเห็นรวม 228 ราย

ซึ่งประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ 66 ราย, บริษัทจดทะเบียน 73 ราย, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 4 ราย, ผู้ลงทุนทั่วไป 83 ราย, สมาคมบริษัทจดทะเบียน ไทย (TLCA) และสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA)

ทั้งนี้ ข้อเสนอปรับปรุงได้รวบมาตรการระดับ 1 และ 2 ในปัจจุบันเข้าด้วยกัน ได้แก่ ให้ซื้อขายด้วยบัญชีเงินสด (Cash Balance) และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย ส่วนมาตรการระดับ 2 ให้นำมาตรการระดับ 3 เดิมมาใช้ คือ ห้ามหักกลบค่าซื้อกับค่าขายหลักทรัพย์ในวันเดียวกัน (Net Settlement)

และสุดท้ายคือการเพิ่มมาตรการระดับ 3 ใหม่ คือ ห้ามซื้อขายเป็นการชั่วคราว 1 วันทำการ และเมื่ออนุญาตให้ซื้อขาย ยังคงให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance ห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlememt

สำหรับผลเฮียริ่ง พบว่าผู้ร่วมตลาดส่วนใหญ่เห็นด้วยกับข้อเสนอ โดยการปรับปรุงการซื้อขาย มองว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ควรมีมาตรการดำเนินการกับหลักทรัพย์ที่มีภาวะเก็งกำไรสูง หรือสภาพการซื้อขายร้อนแรงโดยไม่มีพื้นฐานรองรับอย่างเข้มงวดและรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม มีผู้ให้ความเห็นที่เป็นนักลงทุนบางรายไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ควรเข้าไปแทรกแซงกลไกตลาด เนื่องจากมาตรการกำกับการซื้อขายอาจส่งผลกระทบต่อผู้ลงทุนที่เข้ามาซื้อขายตามปกติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับภาวะการซื้อขายที่ผิดปกตินั้นและเห็นว่ามาตรการเดิมเพียงพอและเหมาะสมแล้ว

ส่วนการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 วันทำการ เป็นมาตรการระดับ 3 มองว่ามีความเท่าเทียมกัน และจะช่วยลดความร้อนแรงของการซื้อขายหลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุน ทำให้มีเวลาพิจารณาทบทวนก่อนตัดสินใจลงทุน นอกจากนั้น ยังเป็นมาตรการที่สอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม มีผู้ให้ความเห็นที่เป็นนักลงทุนบางรายไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า มาตรการดังกล่าวอาจไม่สามารถทำให้ภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์กลับสู่ภาวะปกติได้ และมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทจดทะเบียนที่ถูกห้ามซื้อขาย

รวมถึงอาจเป็นการลิดรอนสิทธิของผู้ลงทุนที่เข้ามาซื้อขายปกติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับภาวะการซื้อขายที่ผิดปกตินั้น

ด้านแหล่งข่าวตลาดทุน เปิดเผยกระบวนการต่อจากนี้ว่า ภายหลังสรุปผลการรับฟังความคิดเห็น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่ได้จากเฮียริ่งเพื่อนำไปปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขาย ก่อนจะส่งข้อเสนอปรับปรุงให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณา ซึ่งสำนักงานฯ จะเสนอให้คณะกรรมการ ก.ล.ต.พิจารณาเห็นชอบก่อนประกาศใช้

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว และมองว่าเป็นเรื่องดีที่มาตรการมีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะจะช่วยลดความร้อนแรงของหุ้นที่มีการซื้อขายผิดปกติ

อีกทั้งยังช่วยบริหารความเสี่ยงให้ผู้ลงทุนรายย่อยโดยเชื่อว่ามาตรการใหม่จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม เพราะมีหุ้นบางตัวเท่านั้นที่ข่ายมาตรการกำกับซื้อขาย

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า มองมาตรการดังกล่าวมีความเจตนาดีและช่วยลดความเสี่ยงของผู้ลงทุน เพราะหากราคาหุ้นมีความผันผวนมากจะส่งผลให้นักลงทุนต้องรับความเสี่ยงมากเกินไป

ขณะที่การหยุดซื้อขาย 1 วันทำการ เพื่อเพิ่มดีกรีความเข้มข้นของมาตรการให้แรงขึ้น เพราะมาตรการเดิมอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

เบื้องต้นมีการหารือกันถึงเครื่องหมายที่จะแสดงให้นักลงทุนได้รับทราบก่อนหยุดซื้อขายจริงชั่วคราว โดยยอมรับว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการแทรกแซงตลาด แต่เป็นการแทรกแซงเพื่อลดความเสี่ยงแก่ผู้ลงทุน

นอกจากนี้ ยังเป็นการห้ามซื้อขายเป็นการชั่วคราวเท่านั้น จึงมองผลกระทบต่อตลาดโดยรวมค่อนข้างจำกัด