ภาคเอกชนหนุนดึง 'ดิสนีย์แลนด์' เพิ่มจุดขายบูมลงทุน EEC

“พิพัฒน์” เร่งอีอีซีศึกษาโมเดลสร้างโครงการขนาดใหญ่ ดิสนีย์แลนด์และสนามกีฬาแห่งชาติ ความจุ 80,000 ที่นั่ง หวังเป็นแม่เหล็กดึงคนใช้ “ไฮสปีดสามสนามบิน” ด้าน “วุฒิชัย” นายกสมาคมสวนสนุกฯ ชี้การลงทุนสวนสนุกระดับโลก ดึง “ดิสนีย์แลนด์” ปักหมุด “อีอีซี” เป็นไปได้ แต่ต้องมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชัดเจน รัฐต้องยืนยันกับนักลงทุนได้ 100%
KEY
POINTS
- "พิพัฒน์" ประกาศแนวคิดดึงสวนสนุกระดับโลกอย่าง "ดิสนีย์แลนด์" มาลงทุนในพื้นที่ EEC เพื่อสร้างโครงการแม่เหล็กดึงดูดการท่องเที่ยว
- โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้พื้นที่และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ล่าช้า โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
- ภาคเอกชนมองว่าโครงการมีความเป็นไปได้ แต่ต้องอาศัยการสนับสนุนที่ชัดเจนจากภาครัฐ ความแน่นอนของโครงสร้างพื้นฐาน และใช้เวลาพัฒนานานอย่างน้อย 7 ปี
การขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยังติดปัญหาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญยังไม่สามารถเริ่มก่อสร้างได้ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ที่ยังติดปัญหาการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับบริษัท เอเชีย เอราวัณ จำกัด รวมถึงโครงการพัฒนาสานามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ระบุว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้ EEC เดินหน้าแผนดึงดูดนักท่องเที่ยว และการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา)
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มโครงการแม่เหล็ก (Magnet Projects) ขนาดใหญ่ อาทิ โครงการสวนสนุกระดับโลก และสนามกีฬาแห่งชาติ ที่มีความจุ 80,000 ที่นั่ง เพื่อเชื่อมโยงพื้นที่พัทยา-ชลบุรี ให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงและกีฬาแห่งใหม่ของภูมิภาค
รวมทั้งขณะนี้ได้มีการมอบหมายการบ้านเชิงนโยบายเร่งด่วนไปยังสำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) รวมถึงภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา ให้หามาตรการเติมเต็มโครงการพัฒนาในพื้นที่ 4 จังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และฉะเชิงเทรา เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทางและใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่สำคัญของประเทศ
“โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และสนามบินอู่ตะเภา จำเป็นต้องมีเสน่ห์ ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของการท่องเที่ยวและอีเวนต์ขนาดใหญ่ เมื่อเราไม่มี Entertainment Complex เราต้องหา Entertainment Value อื่นมาทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่เราเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า แนวคิดหลักที่กำลังผลักดัน คือ การสร้างสวนสนุกขนาดใหญ่ระดับโลก โดยศึกษาเบื้องต้นพบว่าในพื้นที่ต้องใช้พัฒนาสวนสนุกขนาดใหญ่อยู่ที่ไม่เกิน 3,000 ไร่ ซึ่งจะยกระดับให้ EEC เป็นจุดหมายปลายทางของครอบครัวและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยการสร้างสวนสนุกขนาดใหญ่มีความเป็นไปได้ในการดึงผู้ประกอบการระดับโลกอย่าง "ดิสนีย์แลนด์" เข้ามาลงทุนด้วย
รวมทั้งอีกหนึ่งโครงการที่จะก่อให้เกิดการเดินทางและการท่องเที่ยว คือ การก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติ สนามฟุตบอลที่มีความสมบูรณ์แบบระดับสากล ด้วยขนาดความจุถึง 80,000 ที่นั่ง เพื่อรองรับการจัดแข่งขันกีฬาระดับโลก และการจัดอีเวนต์บันเทิง คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยกระจายความแออัดจากศูนย์กลางในกรุงเทพฯ
“การจะก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่นี้ ได้สั่งการให้ สกพอ.จัดหาที่ดินเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่ดินเดิมที่มีอยู่ด้วย” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า การเติมเต็มด้วยโครงการแม่เหล็กเหล่านี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับ ผู้ประกอบการภาคเอกชน ที่ได้รับสัมปทานโครงการสำคัญ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารและผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย
ในขณะที่โครงการเหล่านี้อาจไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จทันรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่ก็ถือเป็นแนวคิดสำคัญที่ต้องมีการหารือเบื้องต้นกับ สกพอ.และผู้ประกอบการเอกชนโดยเร็ว เพื่อเตรียมแผนผลักดันให้เกิดผลจริงในระยะต่อไป
“เร็วๆ นี้ จะเชิญเอกชนผู้ได้รับสัมปทานในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน รวมทั้งสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เข้ามาหารือว่าถ้ารัฐบาลผลักดันโครงการดังกล่าวขึ้นในพื้นที่ EEC แล้ว ภาคเอกชนจะมีความคิดเห็นอย่างไร หรือมีความน่าพอใจหรือไม่” นายพิพัฒน์ กล่าว
ปักธง “ชลบุรี” ศูนย์กีฬาแห่งใหม่
รายงานข่าวจาก สกพอ.ระบุว่า โครงการสนามกีฬาแห่งชาติเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (EECiti) บนเนื้อที่ 1,500 ไร่ ภายในโครงการ EECiti ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และรองรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ
รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมสุขภาพและการรักษาสุขภาพของประชาชน และตอบสนองนโยบายตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติและยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะพัฒนาการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศสู่ระดับนานาชาติ
รวมถึงการต่อยอดการกีฬา สู่ระดับอาชีพ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการกีฬาให้กับประเทศ ด้วยการมีสปอร์ตคอมเพล็กซ์ที่ใช้สำหรับจัดการแข่งขันกีฬา อีเวนท์เทศกาลขนาดใหญ่คอนเสิร์ต และใช้งานได้อีกหลายวัตถุประสงค์
กพอ.เร่งหาข้อสรุปรถไฟความเร็วสูง
สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) สกพอ.เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าก่อสร้าง โดยเดือน ธ.ค.2568 จะประชุม กพอ.เพื่อนำข้อเสนอของอัยการสูงสุดต่อการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนก่อนจะเสนอ ครม.พิจารณา ซึ่งรัฐบาลต้องการข้อสรุปก่อนเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลใหม่
สำหรับร่างแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็น 2 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย
1.แผนการจ่ายเงินที่จะปรับเป็นสร้างไปจ่ายไป ต้องให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ
2.หลักประกันด้านงานโยธา ซึ่งอัยการสูงสุดมีความเห็นว่าหลักประกันดังกล่าวควรเป็นหลักประกันของโครงการด้วย ซึ่งตามสัญญาเดิมโครงการนี้ เมื่อออกหนังสือ NTP จะมีหลักประกัน 4,500 ล้านบาท และมีหลักประกันผู้ถือหุ้น 140,000 ล้านบาท เท่ากับมูลค่าที่รัฐร่วมลงทุนเมื่อรวมดอกเบี้ย
ดึง “ดิสนีย์แลนด์” เป็นไปได้แต่แผนต้องชัด
นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ นายกสมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจแห่งประเทศไทย (TAPA) กล่าวว่า ตามที่นายพิพัฒน์ เร่งรัดให้ สกพอ.เดินหน้าแผนดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้โครงการแม่เหล็กขนาดใหญ่ เช่น โครงการสวนสนุกระดับโลกเพื่อดึง “ดิสนีย์แลนด์” มาลงทุน
ในมุมสมาคมฯ มองว่าโครงการดังกล่าวเป็นไปได้เพราะไทยมีฐานนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามาก แต่ยังมีประเด็นหลักที่ต้องเร่งสร้างความชัดเจน ได้แก่ การสนับสนุนจากภาครัฐและผู้ลงทุน
“ที่ผ่านมาเคยมีประเด็นที่ภาครัฐอาจไม่สบายใจหากต้องไปสนับสนุนโครงการขนาดใหญ่ เพราะอาจถูกมองว่าเอื้อเอกชน แต่หากเลือกพื้นที่ EEC ที่มีกฎหมายพิเศษเฉพาะ จะช่วยให้การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทำได้ดีกว่าพื้นที่อื่น จึงมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์"
ส่วนโลเกชันใน EEC ค่อนข้างห่างจากพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วไปทำให้ผู้สนใจลงทุนต้องพิจารณาความเป็นไปได้อย่างละเอียดว่าการไปสร้างในพื้นที่เปิดใหม่จะมีจำนวนผู้ใช้บริการมากพอสำหรับการลงทุนสวนสนุกขนาดใหญ่อย่างดิสนีย์แลนด์ได้จริงหรือไม่
รวมทั้งประเด็นการลงทุนรถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ที่ยังเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน ซึ่งนักลงทุนต่างชาติที่มาลงทุนโครงการใหญ่ ไม่ต้องการรับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น เพราะต้องการลงทุนพื้นที่ประชากรหนาแน่นและการคมนาคมหรือโครงสร้างพื้นฐานสะดวกอยู่แล้ว
ดังนั้นหากภาครัฐยืนยันกับผู้ลงทุนได้แบบ 100% ว่าจะมีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น รถไฟไฮสปีด หรือตัดถนนมาถึงโครงการแน่นอนในระยะเวลาชัดเจนจะทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามา
“ดิสนีย์แลนด์” ใช้เวลาพัฒนาอย่างน้อย 7 ปี
สำหรับโมเดลการพัฒนาสวนสนุกระดับโลก เช่น ดิสนีย์แลนด์ คาดการณ์ว่าต้องใช้ระยะเวลาพัฒนาตั้งแต่เริ่มศึกษาความเป็นไปได้จนถึงวันเปิดให้บริการอย่างน้อย 7 ปีขึ้นไป โดยแบ่งเป็นระยะเวลาการศึกษา การดึงคนมาลงทุน การขอการสนับสนุนจากภาครัฐและองค์กรอื่นๆ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี จากนั้นใช้ระยะเวลาก่อสร้างอีก 3-4 ปี ขึ้นกับพื้นที่
ส่วนนักลงทุนเองก็ต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนออกมาให้ชัดเจนก่อน แม้ว่าโครงการสวนสนุกระดับโลกจะมีความเป็นไปได้ แต่ต้องอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่เพื่อให้โครงการมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยโจทย์ของไทยเป็นการทำให้คนมาเที่ยวก่อน ซึ่งต่างจากดิสนีย์ เวิลด์ ฟลอริดา สหรัฐ มีโจทย์เป็นการเพิ่มจำนวนวันพักของนักท่องเที่ยว
“การดึงดิสนีย์แลนด์มาลงทุนเป็นประเด็นมานานกว่า 20 ปีแล้ว ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล และผู้ประกอบการต้องได้รับความชัดเจนอีกมาก เช่น ผู้จัดหาที่ดินเพราะใช้พื้นที่เป็นพันเป็นหมื่นไร่ รวมถึงผู้รับผิดชอบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน รวมทั้งสวนสนุกขนาดใหญ่ต้องใช้บุคลากรหลักพันถึงหลักหมื่นคน จึงต้องหารือรายละเอียดที่พักอาศัยสำหรับพนักงานกลุ่มด้วย”







